Skip to main content
sharethis
 
12 ก.พ.53  สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนออกแถลงการณ์ตอบโต้อธิบดีอัยการ กรณีที่อธิบดีอัยการได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลปกครองกลางพิจารณาให้ 12 โครงการลงทุนมาบตาพุดเดินหน้าก่อสร้างโครงการ ระหว่างรอการปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่รัฐธรรมนูญกำหนด โดยระบุว่า อัยการไม่มีอำนาจหน้าที่ช่วยเหลือทางคดีแก่เอกชน และการดำเนินการดังกล่าว นอกจากจะเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญาแล้ว ยังเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 255 อีกด้วยเนื่องจากรัฐธรรมนูญกำหนดให้อัยการมีอิสระในการพิจารณาสั่งคดี
 
สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ระบุด้วยว่า ตั้งแต่สมาคมฯและชาวบ้านฟ้องศาลปกครองมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2552 มาจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2552 สผ. ได้มีการเห็นชอบ EIA เพิ่มเติมอีก 12 โครงการในพื้นที่มาบตาพุดและจังหวัดระยอง อันเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรคสองอย่างโจ่งแจ้ง สมาคมฯ จึงจะเดินทางไปยื่นให้ศาลปกครองมีคำสั่งระงับ 12 โครงการดังกล่าวเพิ่มเติมอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 19 ก.พ.53 นี้
 
 

แถลงการณ์สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน
ขอคัดค้านการทำหน้าที่ของอัยการที่ช่วยอุ้มเอกชนปลดล็อคมาบตาพุดเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ขัดหรือแย้งต่อหน้าที่ของตนตามรัฐธรรมนูญ
พร้อมย้อนศรรัฐบาลยื่นศาลเพิ่มเพื่อระงับโครงการอีก 12 โครงการ
 
ตามที่นายประศาสน์ชัย ตัณฑพาณิชย์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีปกครอง สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ไปยื่นคำร้องขอให้ศาลปกครองกลางพิจารณาให้ 12 โครงการลงทุนมาบตาพุดเดินหน้าก่อสร้างโครงการ ระหว่างรอการปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่รัฐธรรมนูญกำหนด เพื่อให้สามารถดำเนินการไปได้นั้น สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนขอคัดค้านและประณามการกระทำดังกล่าว เพราะ...
 
-ในพระราชบัญญัติพนักงานอัยการ พ.ศ.2498 อำนาจหน้าที่ของอัยการไม่ได้มีหน้าที่ที่จะต้องไปช่วยเหลือทางคดีให้เอกชน แต่กฎหมายกำหนดให้เป็นเพียงทนายของแผ่นดิน รับดำเนินการช่วยเหลือทางคดีให้กับหน่วยงานของรัฐ หรือบุคลากรของรัฐที่มีกรณีพิพาทในชั้นศาลอันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น หรือหากจะช่วยเหลือราษฎรได้ ก็ต้องเป็นผลอันเนื่องมาจากการที่ได้กระทำตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน ซึ่งได้สั่งการโดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นกรณีมาบตาพุดนั้น 8 หน่วยงานของรัฐที่ถูกฟ้องร้องนั้น เป็นผลมาจากการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติล่าช้าเกินสมควร จึงไม่อยู่ในข่ายที่อัยการจะเข้าไปช่วยเหลือภาคเอกชนในการดำเนินคดีใด ๆ ได้
 
-การดำเนินการของอธิบดีอัยการฝ่ายคดีปกครอง สำนักงานอัยการสูงสุด นอกจากจะเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญาแล้ว ยังเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 255 อีกด้วย เนื่องจากรัฐธรรมนูญกำหนดให้อัยการมีอิสระในการพิจารณาสั่งคดีและการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปโดยเที่ยงธรรม แต่กลับไปน้อมรับให้ช่วยเอกชนมาจากรัฐบาล ถือเป็นการถูกครอบงำจากฝ่ายบริหาร นอกจากนั้นจะต้องไม่ประกอบหรือใช้วิชาชีพ หรือกระทำกิจการใดอันเป็นการกระทบกระเทือนถึงการปฏิบัติหน้าที่ หรือเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งตำแหน่งหน้าที่ราชการ แต่สิ่งที่เกิดขึ้น คือ การเอาตำแหน่งหน้าที่ทางราชการไปช่วยเหลือนายทุนเอกชน อันเป็นพฤติการณ์ที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญโดยชัดแจ้ง
 
อัยการเป็นข้าราชการแห่งรัฐกินเงินเดือนที่มาจากภาษีของประชาชนทั้งประเทศ ขอให้มีความสำเนียกในศักดิ์ศรีของวิชาชีพของตนเอง หากต้องการไปช่วยเหลือทางคดีให้กับนายทุนผู้ประกอบการก็ควรลาออกจากตำแหน่งหน้าที่นี้ไปเสีย แล้วไปสมัครเป็นทนายความ รับว่าความช่วยเหลือนายทุนน่าจะถูกต้องมากกว่า อย่ามาทำหน้าที่อีแอบผิดฝาผิดตัวในกระบวนการยุติธรรมเยี่ยงนี้
 
เหตุดังกล่าว เป็นพฤติการณ์เล่นไม่เลิกของรัฐบาล แสดงออกถึงความไม่เคารพคำสั่งศาล สมาคมฯจะไม่นิ่งเฉยอีกต่อไป จำเป็นต้องย้อนศรรัฐบาลและกลุ่มนายทุน โดยสมาคมฯตรวจสอบพบว่าตั้งแต่สมาคมฯและชาวบ้านฟ้องศาลปกครองมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2552 มาจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2552 หน่วยงานรัฐโดย สผ. ยังมีการเห็นชอบ EIA เพิ่มเติมอีก 12 โครงการในพื้นที่มาบตาพุดและจังหวัดระยอง อันเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรคสองอย่างโจ่งแจ้ง สมาคมฯ จึงต้องเดินทางไปยื่นให้ศาลปกครองมีคำสั่งระงับ 12 โครงการดังกล่าวเพิ่มเติมอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 19 ก.พ.53 นี้ เวลา 10.30 น. ณ ศาลปกครองกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ
 
 
ประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน ณ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553
นายศรีสุวรรณ จรรยา
นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net