อภิสิทธิ์ให้สุเทพจับตา “เคทอง” คนสนิท เสธ.แดง ระบุทหารตำรวจไม่มีกำลังมากพอที่จะดูแลจึงขอความร่วมมือประชาชนพบสิ่งผิดปกติให้แจ้งเบาะแส ด้านสุริยะใสไม่เชื่อเหตุระเบิดบัวหลวงเกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ เชื่อเป็นฝีมือกองกำลังที่มีอำนาจรัฐหนุนหลัง อัดสุเทพต้องทบทวนตัวเองเพราะจับใครไม่ได้เลย
มาร์คสั่งสุเทพจับตาเคทอง
เว็บไซต์ศูนย์สื่อทำเนียบรัฐบาล รายงานว่า เมื่อวานนี้ (2 มี.ค.) เวลา 13.00 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการติดตามความเคลื่อนไหวของเคทอง คนใกล้ชิด พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก หลังเผยแพร่คลิปในลักษณะข่มขู่ว่าจะเกิดเหตุวางระเบิดในบ้านเมืองหลายจุด ว่า ได้มอบหมายให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ติดตามความเคลื่อนไหวดังกล่าวอยู่ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร
ต่อข้อถามว่า พฤติกรรมผ่านเว็บไซต์ลักษณะนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ซึ่งตรงนี้ไม่มีมาตรการที่จะป้องหรือ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในอดีตนายสุเทพฯ รองนายกรัฐมนตรี ก็ได้มีการรายงานที่ประชุมว่าไม่ได้ละเลยต่อพฤติกรรมซึ่งหลายคนมีความเป็นห่วงว่าการพูดในลักษณะซึ่งทำให้คนเข้าใจได้ว่าเป็นการชักชวนเชิญชวนให้มีการไปทำในสิ่งที่ผิดกฎหมายหรือเป็นความรุนแรงนั้น นายสุเทพฯ รองนายกรัฐมนตรี ก็ได้มีการกำชับให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองดูว่าเข้าข่ายองค์ประกอบความผิดหรือไม่ หรือบางส่วนต้องขออำนาจศาลในการออกหมายอย่างไรหรือไม่ก็ดำเนินการกันมา แต่ว่าก็มีหลายครั้งที่ศาลไม่อนุมัติหรือทางเจ้าหน้าที่เองมีความเห็นว่ายังไม่เข้าองค์ประกอบ
ขอความร่วมมือประชาชนจับตาพบสิ่งผิดปกติให้แจ้งรัฐบาล
ส่วนกรณีที่ให้มีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยขอความร่วมมือทุกหน่วยราชการและประชาชนให้ช่วยกันดูแลความปลอดภัยสถานที่ของตนเอง หากพบสิ่งผิดปกติ ให้แจ้งเบาะแสมายังรัฐบาลนั้น นากยกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องการชี้ให้เห็นว่าเนื่องจากกำลังของเจ้าหน้าที่ของภาครัฐ โดยเฉพาะทหารและตำรวจคงไม่มีมากเพียงพอที่จะดูแลทุกสถานที่ได้ เพราะฉะนั้นทุกกระทรวง ทบวงกรมหรือหน่วยงานราชการ ซึ่งก็ต้องมีระบบดูแลรักษาความปลอดภัยอาคารสถานที่ของตนเองอยู่แล้วจะต้องมีความระมัดระวังเข้มงวดกวดขันมากยิ่งขึ้น อย่าไปฝากทุกอย่างไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เพราะเราจะได้นำเจ้าหน้าที่ดังกล่าวเหล่านั้นไปดูแลประชาชนได้มากขึ้น
"จะเห็นว่าเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก็เป็นสาขาของธนาคาร ซึ่งถ้าบอกว่าเราจะต้องไปดูแลทุกสาขา ทุกธนาคารนั้นก็เป็นไม่ได้ ตรงนี้จึงอยากจะย้ำอีกครั้ง และขอขอบคุณพลเมืองดีที่คอยแจ้เบาะแสและแจ้งเหตุต่าง ๆ เข้ามา ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือดีในช่วงที่ผ่านมา" นายกรัฐมนตรี กล่าว
ต่อข้อถามว่า เมื่อวานที่นายกรัฐมนตรี ระบุว่ามีข้อมูลการเคลื่อนไหวขององค์กรใต้ดินบอกได้หรือไม่การเคลื่อนไหวดังกล่าวอยู่ในระดับใด นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มีอะไรที่อยากจะขยายความแต่อยากจะเรียนเพียงว่า อย่างที่เราได้เห็นมาตลอดว่ายังมีคนบางกลุ่มที่อาจจะใช้ความรุนแรงได้ ซึ่งตรงนี้ก็ขอให้ทุกคนอย่าได้ตื่นตระหนก
ต่อข้อถามว่า ใน ครม.ได้มีการประเมินความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มีอะไร เพียงแต่ย้ำในเรื่องของการดูแลให้ทุกอย่างมีความสงบเรียบร้อย
ต่อข้อถามว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงจาต่างจังหวัดขณะนี้ได้รับรายงานหรือยัง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เขาก็มีการนัดหมายในการชุมนุมปราศรัยตามจุดต่างๆ ตามปกติ
สุริยะใสไม่เชื่อเหตุระเบิดบัวหลวงเกี่ยวคดียึดทรัพย์
ขณะที่เว็บไซต์เดลินิวส์ เมื่อวันที่ 1 มี.ค. เผยแพร่ความเห็นของนายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งไม่เชื่อว่าการปาระเบิดใส่ธนาคารกรุงเทพฯ จะมีความเชื่อมโยงกับการยึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้าน ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยนายสุริยะใสระบุว่าคนร้ายมุ่งเป้าเชิงสัญลักษณ์หวังทำลาย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ซึ่งหากรัฐบาลไม่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุ และขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินคดีได้อีก เหมือนคดีวางระเบิดที่ผ่านมา ทำให้สงสัยว่า อาจมีคนที่อยู่ในอำนาจรัฐฯ อยู่เบื้องหลัง เพราะรู้เรื่องล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่มีการป้องกัน ปล่อยให้มีการก่อเหตุซ้ำๆ เพื่อหวังผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง หากบ้านเมืองเกิดความรุนแรงรอบใหม่ขึ้นอีก
“ผู้อยู่ในอำนาจรัฐฯ ที่หมายถึง ไม่ใช่ทหารนอกรีตธรรมดา แต่เป็นกองกำลังขนาดใหญ่ที่มีอำนาจรัฐฯ บางอย่างหนุนหลัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะรับผิดชอบดูแลความมั่นคง ต้องทบทวนบทบาทตัวเอง ที่ไม่สามารถจับมือระเบิดได้เลย” นายสุริยะใสกล่าว (อ่านข่าวทั้งหมดได้ที่นี่)