'ทักษิณ' โฟนอินโคราช ปลุกระดมรวมพลชุมนุมใหญ่

ทักษิณฯโฟนอินการชุมนุมที่โคราช ปลุกระดมคนเสื้อแดงบุกกรุงเทพฯ 14 มี.ค.นี้ ผอ.โรงเรียนนปช.แจงเคลื่อนไหวใหญ่ 4 สาย 6 กลุ่ม ภาคอีสานดีเดย์ 12 มี.ค.รวมพลังที่ปากช่อง ก่อนเข้ากทม.เช้าวันที่ 14 มี.ค. เชื่อชุมนุมกว่าล้านคน

5 มี.ค.53 เว็บไซต์ไทยรัฐรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โฟนอินเข้ามาถ่ายทอดสดขึ้นจอโปรเจ็คเตอร์บริเวณสวนสุรนารี ประมาณ 3 ตัว โดยกล่าวทักทายพี่น้องประชาชนคนเสื้อแดงโคราช และคนเสื้อแดงจากต่างจังหวัด ที่นั่งรอฟังอย่างใจจดใจจ่อ ซึ่งขณะที่อดีตนายกทักษิณกำลังพูดอยู่นั้น ทุกคนต่างเงียบฟัง และส่งเสียงไชโยโห่ร้องตลอดระยะเวลาที่กล่าวโจมตีพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ผู้อยู่เบื้องหลังการล้มอำนาจของอดีตนายกฯ ทักษิณ

พ.ต.ท. ทักษิณกล่าวว่า ตนได้โอกาสมาโคราช กราบย่าโม ก็เลยได้ลอดซุ้มประตูเมืองประตูชุมพล ตนเชื่อว่าจะได้กลับไปหาพี่น้องที่โคราชอีก วันนี้หลายคนโทรมาถามตนว่า เจ็บไหมเมื่อวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนบอกว่าเจ็บ แต่ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นในชีวิตส่วนตัวกับสิ่งที่ตนได้รับน้ำใจและความ ห่วงใยแล้ว พี่น้องทุกคนลุกขึ้นมาสู้กันเที่ยวนี้ ตนคิดว่าเข้มแข็งพอ และพร้อมจะยืนเคียงข้างกับพี่น้องในการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตย ที่แท้จริง เพื่อประเทศไทยของเรา เพื่อประชาธิปไตยของเรา พี่น้องที่เคารพรัก ตนไม่เคยย่อท้อ ยิ่งโดนมากเท่าไหร่ ยิ่งมีความรู้สึกว่า ถ้าคนอย่างตนโดนขนาดนี้แล้ว พี่น้องที่ยากลำบากวันนี้จะขนาดไหน และพี่น้องครับ ใจถึงใจกัน เมื่อวานนี้เพื่อนตนโทรมาบอกว่า ไปพบแพทย์แล้วไปเจอพยาบาลเป็นคนชัยภูมิ และพยาบาลคนนั้นบอกว่า แม่บอกว่าข้าวเกี่ยวมาแล้วจะไม่ขาย จะไปทำเตรียมเสบียงให้ญาติพี่น้องเข้ากรุงเทพฯ เพื่อจะมาช่วยตน พี่น้องครับ น้ำใจเหล่านี้แหละที่ตนได้รับ มันทำให้เข้มแข็ง และที่โคราชเช่นกัน ตนจำได้ว่า วันที่มาปราศรัยเมื่อคราวเลือกตั้ง 2 เม.ย.ที่เขาบอกว่าเป็นโมฆะ ตนมาที่โคราช ลงมาข้างเวทีพบชายคนหนึ่งถอดเสื้อให้ตนดูว่า หน้าอกเป็นรอยผ่ายาว เขาบอกว่า เพราะ 30 บาททำให้เขาได้ผ่าตัดหัวใจ ทำให้เขาแข็งแรง เขาสามารถมีลูก และส่งลูกเรียนจนจบ เวลานี้ลูกเขาจบไปแล้ว เขาไม่ห่วงอะไรแล้ว และเขาขออนุญาตให้ตนจัดระเบิดให้หน่อย จะไปพลีชีพ ตนเลยบอกว่า น้ำใจที่ยิ่งใหญ่ไม่ต้องห่วง ตนไม่คิดที่จะทำร้ายใคร แต่ตนเชื่อว่า แนวทางการต่อสู้ด้วยความจริง ด้วยประชาธิปไตย ที่พวกเราทำอยู่นี้ จะชนะในที่สุด และวันที่ 14 มี.ค.นี้ พี่น้องจะไปมากๆใช่ไหม เที่ยวนี้พี่น้องไปกันเยอะๆ ไหลไปเหมือนแม่น้ำสีแดง ไหลเข้ากรุงเทพฯ แล้วเราจะชนะอย่างเดียว ประชาธิปไตยจะกลับมาสู่มือของพี่น้องคนไทยทั้งแผ่นดิน

นอกจากนี้ อดีตนายกฯทักษิณกล่าวอีกว่า วันนี้บ้านเมืองไม่อยู่ในประชาธิปไตย บ้านเมืองอยู่ในภาวะการณ์ปฏิวัติ เพราะหัวหน้าคณะปฏิวัติยังเป็นคนเดิมอยู่ ตนพูดหลายครั้งแล้วว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นเพียงหุ่นเชิดของคุณเปรมเท่านั้นเอง และวันนี้หุ่นเชิดตัวใหม่ หน้าตาดีกว่า ฉอเลาะกว่า ก็คือนายอภิสิทธิ์ คุณเปรมก็เลยชอบ บ้านเมืองวันนี้ปล่อยให้เขาปู้ยี่ปู้ยำไปเยอะแล้ว โดยการใช้กระบวนการปฏิวัติรัฐประหารปล้นอำนาจประชาชนไป มันไม่ได้ปล้นตน มันปล้นอำนาจประชาชนไป แต่ตนเป็นตัวแทนประชาชน เมื่อมันปล้นตนเสร็จ ปล้นอำนาจประชาชนโดยตนเป็นตัวแทนเสร็จ มันก็ปล้นตนต่อ เมื่อวันที่ 26 ก.พ. คือการปล้นตนอย่างชัดเจน พี่น้อง ระบบกระบวนยุติธรรมเราเสียหายหมด เพราะถูกใช้เป็นเครื่องมือ สื่อสารมวลชนเสียหายหมด เพราะถูกใช้เป็นเครื่องมือ ข้าราชการหลายคนเสียคนหมด เพราะถูกใช้เป็นเครื่องมือ แต่ข้าราชการส่วนใหญ่ไม่ได้เอาด้วย บ้านเมืองถึงไปไม่ได้ เพราะเป็นการปฏิวัติต่อเนื่อง ฉะนั้นประชาชนมีสิทธิที่จะไปทวงคืนอำนาจของประชาชนในวันที่ 14 มี.ค.นี้อย่างพร้อมเพียงกัน อำนาจเป็นของประชาชน ใครที่มันอ้างว่าเป็นคนสั่งการ อำนาจนั้นอำนาจนี้นั้นของปลอม อำนาจที่แท้จริงในแผ่นดินนี้เป็นของประชาชน ประชาชนจะต้องลุกขึ้นมาทวงอำนาจของตัวเอง เพื่อสิทธิและเสรีภาพของตัวเอง วันนี้เขากล่าวหาตนว่าคอรัปชั่น พี่น้อง คอรัปชั่น แปลว่า เอาเงินรัฐมาเป็นเงินของตัวเอง เหมือนที่รัฐบาลนี้กำลังทำกันอยู่หลายคน ขายตำแหน่งข้าราชการ รับเหมาก่อสร้างก่อนเซ็นสัญญา เอา 30% ก่อน อันนี้เงินประชาชนทั้งนั้น อย่างนี้เขาเรียกคอรัปชั่น แต่บังเอิญเป็นพวกเดียวกับคณะปฏิวัติ เป็นพวกเดียวกับอำมาตย์ เลยถือว่าถูกต้อง แต่วันนี้ของตน เงินครอบครัว ร่ำรวยมาจากการสร้างเนื้อสร้างตัว ก่อนที่จะมาเป็นนักการเมือง มันบอกว่าตนคอรัปชั่น ตนรวยผิดปกติ ก็ตนรวยกว่าโคตรพวกมัน มันก็เลยบอกว่ารวยผิดปกติ มันไม่รู้จะว่าอย่างไร และไม่รู้จะยึดเงินอย่างไร มันก็เอาลามาพูด

พ.ต.ท.ทักษิณยังกล่าว อีกว่า หุ้นที่คุณเปรมเป็นประธาน หุ้นแบงค์กรุงเทพ หุ้นซีพี และหุ้นพวกนั้นเกินเยอะกว่าตนอีก ต้องยึดหรือไม่ ก็ต้องยึดสิครับ คุณเปรมมีอำนาจมากกว่าตนอีก พี่น้อง ความเป็นธรรมมันไม่เหลือแล้ว พี่น้อง ตนขอยืนยันอีกครั้งว่า ตนไม่มีทางเป็นคนเลวได้ ถ้าตนเลว ตนชั่ว ตนไม่ทิ้งความดีให้บ้านเมืองและพี่น้องประชาชน เพราะพี่น้องประชาชนยังไม่ลืมตนวันนี้ ตนดีใจและภูมิใจที่พี่น้องยังไม่ลืมตน และขอบอกว่า วันนี้ตนพร้อมที่จะตอบแทนบุญคุณพี่น้อง และคิดอยู่ตลอดเวลาว่า จะตอบแทนบุญคุณพี่น้องอย่างไร ถึงจะได้สาสมกับสิ่งที่พี่น้องมุ่งมั่นช่วยตนทุกวันนี้ ช่วยทำให้ประชาธิปไตยกลับคืนประเทศไทยให้ได้ วันนี้อำมาตย์เปรมและคณะ ได้ทำประเทศไทยย้อนหลังไปไม่น้อยกว่า 50 ปี อย่างคุณเปรมอย่าไปคิดว่า เอาประเทศย้อนหลังแล้วตัวเองจะหนุ่มขึ้น พี่น้อง ประเทศต้องก้าวไปข้างหน้า เพื่อลูกหลานของเรา

ฉะนั้นแน่นอน ถ้าตนกลับไปแล้ว ขอยืนยันกับพี่น้องที่โคราชว่า ตนจะไม่มีการเอาเปรียบพี่น้องที่โคราช ว่า 1. ปลดหนี้ให้พี่น้องประชาชนทั้งแผ่นดินใน 6 เดือนแรก และ 6 เดือนแรก จะต้องปราบยาเสพติดให้สิ้นซาก และ 6 เดือนที่ 2 จะหาเงินให้พี่น้องคนไทยมีเงินใช้ให้ถ้วนหน้า 6 เดือนที่ 3 จะจ้างงานด้วยลูกหลานที่เรียนจบมาแล้วมีงานทำทุกคน

พี่น้องครับ คนกรุงเทพฯกลัวเรื่องน้ำจะท่วม วันนี้เป็นข่าวเป็นกระแสที่ลือกันมาก กลัวน้ำท่วมกรุงเทพฯ กลัวบ้านเรือนพังกันหมด พี่น้องครับ ถ้ากลัวต้องเอาตนกลับไปเร็วๆ บอกคนกรุงเทพฯด้วย ตนกลับไป จะสร้างเขื่อนลอดกรุงเทพฯ ไม่ให้น้ำท่วมกรุงเทพฯ และจะเป็นเขื่อนที่สวยงามที่สุดในโลก และไม่ต้องกู้เงินสักบาทหนึ่ง พี่น้อง ตนรวยมาจากเอาหยาดเงื่อนแรงงานและสมองสร้างงาน แล้วเอางานสร้างเป็นกระดาษ แล้วเอากระดาษเปลี่ยนเป็นเงิน เงินที่ตนหาได้เป็นเงินต่างชาติทั้งนั้น ตนไปเอาเงินต่างชาติเข้ามา แต่ปรากฏว่า มาปล้นเงินตนไป แล้วยังบอกหาว่าตนไปโกงมา ต้องขอขอบคุณนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ เป็นคนที่ทำให้สุภาพบุรุษเขายายเที่ยงต้องหอบผ้าหอบผ่อนลงจากเขายายเที่ยง แต่จริงๆ แล้วก็ทุกคนช่วยกัน

“พี่น้องครับ 14 มี.ค.นี้ ต้องพร้อมเพียงกัน ถ้าเราอยากได้ประชาธิปไตย อยากได้ความยุติธรรม อยากได้ความเสมอภาคกลับมาสู่สังคมไทย เอาประเทศที่คุณเปรมถอยหลังไป 50 ปี กลับคืนมา ต้องขอบคุณนายสุภรณ์และแนวร่วมของชาวโคราชที่จัดงานนี้ขึ้น ขอฝากพี่น้องว่า เราอย่าทิ้งกันในยามนี้ แล้วบ้านเมืองจะกลับมาสู่ภาวะปกติ และผมบอกได้เลยว่า บ้านเมืองของเราจะก้าวหน้ากว่านี้อีกมากมาย ถ้าระบบที่แย่ๆ อย่างทุกวันนี้หมดไป ขอบคุณ แล้ว 14 มี.ค.นี้เราเจอกัน “ พ.ต.ท.ทักษิณฯกล่าวโดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที

ผอ.โรงเรียนนปช. แจงเคลื่อนไหวใหญ่ 4 สาย 6 กลุ่ม ของภาคอีสานดีเดย์ 12 มี.ค.
สำหรับความคืบหน้าการชุมนุมโหมโรงใหญ่ของ กลุ่มคนเสื้อแดง ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) อ.เมือง จ.นคราชสีมา ตลอดช่วงค่ำวันนี้ (5 มี.ค.) บรรดาแกนนำได้สลับสับเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัยปลุกระดมคนเสื้อแดงอย่างต่อ เนื่อง โดยมีแกนนำคนสำคัญ เช่น นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ แกนนำนปช. แดงอีสาน, นายนิสิต สินธุไพร ประธานโรงเรียนนปช. แดงทั้งแผ่นดิน, นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร, น.พ.เหวง โตจิราการ เป็นต้น ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงได้ทยอยเดินทางเข้าร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่อง จนถึงขณะนี้มีคนเสื้อแดงเข้าร่วมชุมนุมกว่า 5,000 คน ท่ามกลางการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ที่ปักหลักบริเวณที่ชุมนุมและโดยรอบจำนวนกว่า 2,000 นาย

ทั้งนี้ ผอ.ร.ร.นปช. ได้ประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมทราบว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีการประชุมแกนนำคนเสื้อแดงอีสาน 19 จังหวัด และมีมติร่วมกันว่า 1.นปช.ภาคอีสานจะเคลื่อนไหวอย่างเป็นเอกฉันร่วมกัน 2.แบ่งกลุ่มเคลื่อนไหวออกเป็น 4 สาย 6 กลุ่ม ประกอบด้วยกลุ่มที่ 1.จ.อุดรธานี, หนองคาย และหนองบัวลำภู กลุ่มที่ 2.จ.สกลนคร, นครพนม และ มุกดาหาร กลุ่มที่ 3.จ.ขอนแก่น,กาฬสินธุ์ และมหาสารคาม โดยทั้ง 9 จังหวัดนี้จะเป็นสาย 1 เดินทางมาตามถนนมิตรภาพ เป้าหมายอยู่ที่อ.ปากช่อง ซึ่งจะมีการนัดหมายรวมพลทั้ง 9 จังหวัดอีกครั้งหนึ่งเพื่อเคลื่อนขบวนออกมาพร้อมกัน

ส่วนกลุ่มที่ 4.ประกอบด้วย จ.ร้อยเอ็ด, ยโสธร และอำนาจเจริญ เป็นสายที่ 2 เริ่มเดินทางจากยโสธรมาตามถนนมิตรภาพ เป้าหมายอยู่ที่ อ.ปากช่อง กลุ่มที่ 5.จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ, สุรินทร์ และบุรีรัมย์ เป็นสายที่ 3 เคลื่อนขบวนมาตามถนนสาย 24 โชคชัย-เดชอุดม มุ่งหน้าสู่ อ.ปากช่อง และกลุ่มที่ 6 ประกอบด้วยจ.เลย, ชัยภูมิ และ นครราชสีมา เป็นสายที่ 4 เดินทางมาตามถนนมิตรภาพ เป้าหมายอยู่ที่เดียวกันคือ อ.ปากช่อง

โดยคนเสื้อแดงจากทุกสาย จะเคลื่อนออกจากที่ตั้งพร้อมกันในวันที่ 12 มี.ค. 2553 เวลา 12.00 น. โดยจะระดมรถยนต์อย่างน้อยหมู่บ้านละ 1 คัน ซึ่งจะเป็นรถชนิดใดก็ได้ คาดว่าเฉพาะภาคอีสานจะมีรถทุกประเภท ทั้งกระบะ, อีแต๋น, อีแต๋ก และรถจักรยานยนต์ เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 20,000 คันอย่างแน่นอน และจะมีผู้เข้าร่วมชุมนุมไม่น้อยกว่า 1 แสนคน มีเป้าหมายมารวมตัวที่อ.ปากช่อง จากนั้นจะเคลื่อนขบวนใหญ่เข้ากรุงเทพฯ เพื่อสมทบกับผู้ชุมนุมจากภาคอื่นทั่วประเทศในวันที่ 14 มี.ค.นี้

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท