สมาคมนักข่าว-สมาคมเคเบิลทีวี ออกแถลงการ์คัดค้านการปิดพีทีวี-ประชาไท

8 เม.ย.53 สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศ ไทย ออกแถลงการณ์ร่วม เรื่อง การสั่งปิดสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมและเว็บไซต์ ระบุ ขัดรัฐธรรมนูญ ข้ออ้างเรื่องการบิดเบือนฟังไม่ ขึ้นเนื่องจากรัฐก็ใช้สื่อ ให้ข้อมูลด้านเดียว พร้อมทั้งเตือนรัฐบาลการปิดกั้นอาจทำให้ผู้ร่วมชุมนุมเพิ่ม สร้างความชอบธรรมการชุมนุมเพิ่ม และอาจนำไปสู่ความรุนแรง วอนสื่อทุกแขนงนำเสนอข้อมูลอย่าง รอบด้านและระมัดระวังการนำ เสนอข่าวที่จะนำไปสู่ความรุนแรง

 

ที่มาแถลงการณ์:

http://www.tja.or.th/index.php?option=com_content&view=article&id=1567:2010-04-08-10-25-14&catid=49:2552&Itemid=26

 

0000

 

แถลงการณ์ร่วม
เรื่อง การสั่งปิดสถานีโทรทัศน์ผ่านดาว เทียมและเว็บไซต์

ตามที่รัฐบาลอ้างอำนาจตามพระราช กำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ ฉุกเฉินในการปิดกั้นสัญญาณ สถานีโทรทัศน์พีทีวี รวมทั้งปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ ที่มีเนื้อหาข่าวสารความคิด เห็นทางการเมือง เช่นเว็บไซต์ www.prachatai.com ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมานั้น

องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนประกอบ ด้วย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่ง ประเทศไทย และสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศ ไทย ได้หารือร่วมกันแล้ว มีความเห็นดังต่อไปนี้

1. การปิดกั้นสัญญาณของสถานีโทรทัศน์ ผ่านดาวเทียมพีทีวี และการปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ที่แสดงความคิดเห็นดังกล่าว เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 45 ที่บัญญัติว่า “การสั่งปิดกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนอื่นเพื่อลิดรอนเสรีภาพตามมาตรานี้ จะกระทำมิได้” ทั้งนี้ รัฐบาลจะสามารถใช้กฎหมายพิเศษเพื่อ จำกัดเสรีภาพของสื่อมวล ชนได้ ก็เพียงการห้ามเสนอข่าวสารหรือ แสดงความคิดเห็นทั้งหมดหรือ บางส่วนเท่านั้น

2. การที่รัฐบาลกล่าวอ้างว่า การดำเนินการปิดกั้นสัญญาณและการปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ดังกล่าว เพื่อป้องกันการบิดเบือนข่าวสาร ทำให้ประชาชนไม่ได้รับข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง ขณะที่รัฐบาลเองยังใช้สถานีวิทยุ โทรทัศน์ของรัฐในการเสนอ รายการที่มีลักษณะนำเสนอข้อมูล ด้านเดียว อีกทั้งยังปล่อยให้สถานีวิทยุ และโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมอื่นๆ นำเสนอเนื้อหาในลักษณะใกล้เคียง กัน ซึ่งอาจนำไปสู่ความแตกแยกในสังคมมาก ขึ้นนั้น ย่อมเป็นการกระทำที่รัฐบาลอาจถูก วิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็น “สองมาตรฐาน” และสร้างความชอบธรรมแก่ผู้ชุมนุมมากขึ้น

3. การปิดกั้นสื่อในลักษณะนี้ ย่อมเป็นการปิดกั้นสิทธิการรับรู้ข่าวสารของประชาชน จึงอาจทำให้ประชาชนที่ได้รับผล กระทบจากการปิดกั้นสื่อดังกล่าว ออกมาเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุ มมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้สถานการณ์มีความ ซับซ้อนและอาจนำไปสู่ความรุนแรง ได้

4. องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ขอเรียกร้องให้สื่อมวลชนทุกแขนง ทำหน้าที่รายงานข่าวสารที่เกิดขึ้นในขณะนี้ด้วยความครบถ้วนรอบด้าน โดยนำเสนอความจริงและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นด้วยการคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน และระมัดระวังการนำเสนอข่าวที่ อาจนำไปสู่การใช้ความรุนแรงใน การยุติปัญหา

สุดท้ายนี้การแสดงจุดยืนของทั้ง สองสมาคมเป็นไปตามหลักการของ ผู้ประกอบวิชาชีพ โดยยึดถือประโยชน์สาธารณะเป็นหลัก ไม่ประสงค์จะให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดนำแถลงการณ์ฉบับนี้ไปใช้ในการสร้างความชอบธรรมให้กับตนเอง

 

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่ง ประเทศไทย
สมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย
8 เมษายน 2553

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท