Skip to main content
sharethis
 
 
31 พ.ค.53 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ระดับ 8 อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ที่ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร จ.สระบุรี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 พ.ค.2553 หลังจากได้เดินทางไปมอบตัวกับตำรวจ ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พร้อมกับนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนา ประชาธิปไตย และบรรณาธิการ นิตยสาร Voice of Taksin ในฐานะผู้ต้องหาตามหมายจับ ในความผิดตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 11 (1) ล่าสุดในวันนี้ได้รับการปล่อยตัวแล้ว
 
นายสุธาชัยให้สัมภาษณ์ภายหลังการปล่อยตัวว่า เมื่อเวลา 18.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถไปรับตัวออกมาจากค่ายอดิศร แล้วนำตัวมาส่งที่ สน.นางเลิ้ง เพื่อสอบปากคำและทำเอกสาร จากนั้นจึงมีญาติมารับและเดินทางกลับบ้าน ทั้งนี้ ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้อนุญาตให้ปล่อยตัว ทราบเพียงว่ามีตำรวจจากกองปราบวิทยุมาที่ค่ายทหารให้ปล่อยตัวก่อนเวลาที่จะถูกนำตัวออกมาไม่นานนัก คาดว่าการปล่อยตัวในครั้งนี้อาจเนื่องมาจากการที่รัฐบาลถูกกระแสโจมตีจากการอภิปรายในสภา อีกทั้งในส่วนอาจารย์ และนิสิต นักศึกษาก็ได้มีการออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้
 
ส่วนกรณีนายสมยศซึ่งถูกควบคุมตัวพร้อมๆ กัน นายสุธาชัยกล่าว นายสมยศยังคงถูกคุมตัวอยู่ในค่ายอดิศร และก่อนออกมาจากห้องที่ถูกควบคุมตัวก็ได้ตะโกนบอกนายสมยศ ซึ่งอยู่ห้องใกล้กันว่าได้รับการปล่อยตัวแล้วแต่ไม่ทราบว่าใครเป็นคนอนุญาต โดยในวันนี้ก็ได้รับการปล่อยตัวเพียงคนเดียว
 
นายสุธาชัยกล่าวด้วยว่า ระหว่างถูกคุมตัวอยู่ในค่ายกว่า 7 วัน ไม่มีปัญหาอะไร เจ้าหน้าที่ทหารให้การดูแลอย่างดี ยกเว้นเรื่องข้อจำกัดในการห้ามติดต่อสื่อสาร ส่วนกรณีข่าวที่ว่าได้ทำการอดอาหารประท้วงนั้น ไม่ได้เป็นการประท้วง แต่เป็นการขออนุญาตไม่ทานข้าว เนื่องจากว่าทางเจ้าหน้าที่ได้เอาตำราวิชาการที่นำติดตัวไปด้วย ไปตรวจสอบอยู่นานหลายวัน จึงขออนุญาตไม่ทานข้าวจนกว่าจะได้ตำราคืน หลังจากนั้นจึงได้คืนมา
 
สำหรับการดำเนินการต่อไปหลังจากนี้ นายสุธาชัยกล่าวว่า คงจะต้องสะสางงานที่ค้างอยู่อีกมาก และเตรียมการสำหรับการสอนต่อไป อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวขณะนี้ยังมีคดีความคงค้างอยู่อีก 1 คดี ในความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฐานชุมนุมเกิน 5 คน จากกรณีการแถลงข่าวที่บริเวณหน้ามูลนิธิ 111 ไทยรักไทย เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา
 
 
คณาจารย์-นิสิตเก่าจุฬาฯ ยื่นจม.เปิดผนึก “อธิการฯ” จี้ติดตาม “สุธาชัย” ถูกคุมตัว
 
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 15.00 น. ตัวแทนคณาจารย์, ศิษย์เก่า และนิสิตปัจจุบันของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ไปยื่นหนังสือต่อ ศ.นพ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และต่อประธานสภาคณาจารย์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต่อกรณีการจับกุมคุมขัง นายสุธาชัย ที่ถูกควบคุมภายใต้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เพื่อขอให้ทางผู้บริหารมหาวิทยาลัยในฐานะผู้บังคับบัญชาติดตามเรื่องดังกล่าวกับทางรัฐบาล และ ศอฉ.ซึ่งทางผู้บริหารมหาวิทยาลัยได้รับปากในการดำเนินการติดตามเรื่องดังกล่าว
 
ทั้งนี้ นายสุธาชัยมีวิชาที่จะสอนในภาคการศึกษาต้นที่กำลังจะเปิดเรียนในวันที่ 7 มิถุนายนนี้ จำนวน 3 วิชาและหนึ่งในนั้นเป็นวิชาบังคับของนิสิต ภาควิชาประวัติศาสตร์
 
 
จดหมายเปิดผนึกถึงอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
 
เรื่อง ขอความกรุณาตรวจสอบข้อเท็จจริงและทวงถามความเป็นธรรมต่อรัฐบาล และ ศอฉ.ในกรณีการจับกุมกักขัง ผศ.ดร.สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ ภายใต้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
 
สิ่งที่แนบมาด้วย
            ๑. แถลงการณ์จากคณาจารย์ผู้ห่วงใยในสิทธิเสรีภาพของปวงชนชาวไทย ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๓
            ๒. รายงานข่าวเรื่องการจับกุมคุมขัง ผศ.ดร.สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ
 
เรียน ท่านอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
 
ข้าพเจ้าผู้มีรายนามต่อไปนี้ เป็นอดีตคณาจารย์ คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ ศิษย์เก่า และนิสิตปัจจุบันของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้รู้สึกเศร้าสลดใจกับการกระทำของรัฐบาลและ ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)ในการจับกุมและกักขัง ผศ.ดร.สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายใต้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โดยปราศจากข้อกล่าวหา และความผิดโดยชัดแจ้ง รวมทั้งไม่ได้ผ่านกระบวนการยุติธรรมที่เป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด
 
ข้าพเจ้าใคร่ขอความกรุณาจากท่านอธิการบดี ในฐานะผู้บังคับบัญชา ผู้บริหารสูงสุดของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตลอดจนเป็นผู้นำของประชาคมทางปัญญาและวงวิชาการของประเทศ ได้โปรดติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริงและทวงถามความเป็นธรรมต่อการจับกุมและกักขัง ผศ.ดร.สุธาชัยกับทางรัฐบาล และ ศอฉ. ในครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้ไม่ว่าข้าพเจ้าจะเห็นด้วยกับความคิดเห็นของ ผศ.ดร.สุธาชัยหรือไม่ก็ตาม แต่เพื่อคงไว้ซึ่งเสรีภาพทางการเมืองของพลเมืองไทยในระบอบประชาธิปไตย โดยเฉพาะเสรีภาพในการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นที่แตกต่างจากรัฐบาลที่ไม่ได้หมายความว่าความคิดเห็นดังกล่าวจะต้องเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ และเพื่อคงไว้ซึ่งเสรีภาพทางวิชาการในฐานะที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ
 
ข้าพเจ้าหวังว่าคงได้รับความกรุณาจากท่านอธิการบดีในการตรวจสอบข้อเท็จจริง และทวงถามความเป็นธรรมต่อการจับกุม-กักขัง ผศ.ดร.สุธาชัย ยิ้มประเสริฐกับทางรัฐบาล และ ศอฉ.ในครั้งนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจและก่อให้เกิดบรรทัดฐานของการรักษาไว้ซึ่งการปกป้องสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ และเสรีภาพทางวิชาการท่ามกลางบรรยากาศแห่งความหวาดกลัวในสังคมที่กำลังดำเนินอยู่
 
คณาจารย์และอดีตคณาจารย์
.........
.........
เจ้าหน้าที่และอดีตเจ้าหน้าที่
..........
..........
ศิษย์เก่าและนิสิตปัจจุบัน
...........
...........
 
หมายเหตุ: รายชื่อตามเอกสารแนบ
……………………………….
 
เอกสารแนบหมายเลขหนึ่ง:
 
แถลงการณ์เรียกร้องความเป็นธรรมและเสรีภาพทางวิชาการ
 
ตามที่เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ.2553 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. สุธาชัย ยิ้มประเสริฐอาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตามหมายจับในความผิดตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 11 (1) ประกาศให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจจับกุมและควบคุมตัวบุคคลที่สงสัยว่าจะเป็นผู้ร่วมกระทำการให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือเป็นผู้ใช้ ผู้โฆษณา ผู้สนับสนุนการกระทำเช่นว่านั้น หรือปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น และต่อมาถูกนำตัวไปควบคุมไว้ที่ศูนย์การทหารม้าค่ายอดิศร จังหวัดสระบุรี ดังปรากฏเป็นข่าวที่รับทราบทั่วกันแล้วนั้น
 
คณาจารย์ผู้ห่วงใยในสิทธิเสรีภาพของปวงชนชาวไทยและนักวิชาการผู้เป็นเพื่อนร่วมวิชาชีพของอาจารย์สุธาชัยขอแสดงความกังวลต่อการใช้ข้อหาดังกล่าวในการออกหมายจับและควบคุมตัวอาจารย์สุธาชัยดังนี้
 
ประการแรก แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีอำนาจดำเนินการดังกล่าวตามพระราชกำหนด แต่ก็เป็นที่ปรากฏชัดเช่นกันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งไม่มีและไม่เคยเปิดเผยหลักฐานชัดเจนหนักแน่นใดๆ อันเป็นองค์ประกอบของฐานความผิดดังกล่าว ที่เป็นเหตุของข้อกล่าวหารุนแรงข้างต้น ให้ผู้ถูกกล่าวหาและสาธารณชนได้รับรู้ การกระทำดังกล่าวนับเป็นการลิดรอนคุกคามเสรีภาพของบุคคล และโดยเฉพาะในกรณีของอาจารย์สุธาชัย ยังเป็นการคุกคามเสรีภาพทางวิชาการอีกด้วย
 
ประการที่สอง แม้การใช้อำนาจตามความในพระราชกำหนดดังกล่าวเป็นไปเพื่อการระงับสถานการณ์ฉุกเฉิน เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของบ้านเมือง และนำสังคมไทยกลับสู่ภาวะปกติ แต่การใช้อำนาจดังกล่าวอย่างครอบคลุมไม่แยกแยะ ปราศจากหลักฐานความผิดที่หนักแน่นชัดเจน ทั้งในกรณีของอาจารย์สุธาชัย และกรณีอื่นๆ มิอาจสร้างสังคมแห่งการปรองดองสมานฉันท์ดังที่รัฐบาลและ ศอฉ. มุ่งหวังและยังอาจนำไปสู่การเพิ่มความหวาดระแวง ความกลัว ความเกลียดชัง และความโกรธแค้น ในสังคมไทยให้ขยายตัว ทวีความเข้มข้นแหลมคมมากขึ้น อันยืนยันได้จากประสบการณ์ทางสังคมและการเมืองของไทยเองในช่วงทศวรรษ 2500-2520
 
ทั้งนี้ คณาจารย์ฯและนักวิชาการผู้เป็นเพื่อนร่วมวิชาชีพของอาจารย์สุธาชัย มีความเห็นว่า ทั้งในกรณีของอาจารย์สุธาชัยและกรณีอื่นๆ ที่ไม่ปรากฏหลักฐานชัดแจ้ง สมควรที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยตัวคืนเสรีภาพให้แก่ผู้ถูกกล่าวหาโดยเร็ว
 
อนึ่ง คณาจารย์ฯและนักวิชาการผู้เป็นเพื่อนร่วมวิชาชีพของอาจารย์สุธาชัย ใคร่ขอเสนอไปยังรัฐบาลและ ศอฉ. ให้เร่งพิจารณายกเลิกการใช้พระราชกำหนดฉบับนี้ ซึ่งล่อแหลมต่อการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนจนเกินขอบเขต เพื่อให้การจัดการต่อผู้กระทำผิดเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมดังที่ปรากฏในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
 
คณาจารย์ผู้ห่วงใยในสิทธิเสรีภาพของปวงชนชาวไทย
 
.................................
 
 
เอกสารแนบหมายเลข สอง:
 
มติชนออนไลน์ รายงานเมื่อเวลา 19.00 น.วันนี้ (27 พ.ค.) ว่า พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) กล่าวถึงกรณีนายสุธาชัยอดอาหารประท้วง ว่า ที่ผ่านมานักวิชาการรายอื่นที่วิจารณ์ ศอฉ. ก็ไม่ได้มีการควบคุมตัว แต่ ดร.สุธาชัยเป็นบุคคลที่มีหมายจับและมามอบตัวเอง การที่ไม่รับประทานอาหารก็คงทำให้หิว แต่ก็เป็นสิทธิของนายสุธาชัย ทั้งนี้ ศอฉ. ทำตามกรอบกฎหมาย แต่หากท่านไม่ทานอาหารจริง ท่านกินเจเล่ก็คงจะอิ่มอยู่แล้ว
 
'สุธาชัย' อดข้าวประท้วง ศอฉ.คุมตัว ไม่ให้อ่าน หนังสือเตรียมสอน
27 พ.ค.53 นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความของสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ประจำภาควิชา ประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเปิดเผยหลัง เข้าเยี่ยมสุธาชัยที่ค่ายอดิศร จังหวัดสระบุรีในวันนี้ว่า สุธาชัย ประกาศอดอาหารเพื่อประท้วงตั้งแต่เมื่อเช้าวันนี้ เนื่องจาก ตั้งแต่ควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้อ่านหนังสือพิมพ์ ฟังวิทยุ ดู โทรทัศน์ หรือติดตามข่าวสารใดๆ แม้กระทั่ง หนังสือ วิชาการที่เอาไปด้วยเพื่ออ่านเตรียมการสอนสำหรับปีการศึกษาที่กำลังจะเริ่ม นี้เจ้าหน้าที่ก็ไม่ให้อ่าน
 
กฤษฎางค์ กล่าวว่า สุธาชัยประกาศจะอดข้าวเพื่อประท้วง จนกว่าจะได้อ่านหนังสือ เพื่อเตรียมการสอน การกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ ถือว่าผิดกฎหมายเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพขึ้นพื้นฐาน แม้แต่ใน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ระบุห้ามควบคุมตัวหรือประพฤติกับผู้ต้อง สงสัยเสมือนนักโทษ ห้ามขังในเรือนจำ ทำได้เสมือนแค่การกัก บริเวณเพื่อจำกัดเสรีภาพเป็นการชั่วคราวเท่านั้น
 
นอกจากนี้ในวันอาทิตย์ที่ 30 พ.ค. นี้จะครบกำหนดควบคุมตัวสุธาชัย 7 วัน แต่ เนื่องจากเป็นวันหยุด ในวันนี้เจ้าหน้าที่จึงยื่นเรื่อง ต่อศาลเพื่อขอฝากขังต่ออีก 7 วันแล้ว สำหรับ ความเป็นอยู่ภายในค่ายนเรศวรนั้น สภาพความเป็นอยู่ไม่มี ปัญหาและอนุญาตให้เข้าเยี่ยมเฉพาะภรรยาและทนายความเท่านั้น
 
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างอำนาจ ศอฉ.บุกค้นบ้านพักสุธาชัย และแจ้งว่ามีคำสั่งจาก ศอฉ.ให้จับกุมตัว นายสุธาชัย ซึ่งเป็น ผู้ต้องสงสัยตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ด้วยความจำเป็นเพื่อป้องกันมิให้ กระทำการหรือร่วมกระทำการอันจะทำให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงหรือเพื่อให้เกิด ความร่วมมือในการระงับเหตุการณ์ร้ายแรง (อำนาจตามมาตรา 11 (1) ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ต่อมาวันที่ 24 พ.ค.เวลา 10.00 น. สุธาชัย พร้อมด้วยนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนา ประชาธิปไตย และ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ Red News ได้เดินทางเข้ามอบตัวที่กองบังคับการ ปราบปราม (บก.ป.) และถูกควบคุมตัวไปที่ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร จ.สระบุรี
 

นิสิต-นศ.แถลงประณาม “รัฐฯ” ใช้อำนาจลิดรอนสิทธิ-เสรีภาพ คุมตัวโดยไม่มีข้อหา
 
ในวันเดียวกัน กลุ่มนักศึกษาและอดีตนักศึกษาสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ได้ออกแถลงการณ์ประณามการควบคุมตัวนายสุธาชัยโดยไม่มีความผิดชัดเจน และได้เรียกร้องให้ปล่อยตัวอย่างไม่มีเงื่อนไขในทันที โดยแถลงการณ์ดังกล่าวมีรายละเอียด ดังนี้

จากการที่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ใช้อำนาจลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งในแง่ของการบิดเบือนข่าวสาร ปิดสื่อที่มีความเห็นต่าง และขาดความรับผิดชอบต่อการปราบปรามประชาชนอย่างรุนแรงในระหว่างวันที่ 14-19 พฤษภาคม 2553

รวมถึงการคุกคามเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของนักวิชาการ ด้วยการควบคุมตัว ผศ.ดร.สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2553 จนถึงปัจจุบัน โดยไม่มีข้อกล่าวหาที่ชัดเจนและปราศจากเหตุผลอันเห็นได้ประจักษ์ ยิ่งไปกว่านั้น การควบคุมตัวดังกล่าว ไม่ได้ดำเนินการภายใต้กฎหมายปกติ แต่ใช้อำนาจของพระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉินโดยขาดความชอบธรรม

นอกจากนี้ ในระหว่างถูกกักตัว ผศ.ดร.สุธาชัย ยังถูกปฏิบัติราวกับเป็นผู้ต้องหาอุกฉกรรจ์ขั้นร้ายแรง ไม่อนุญาตให้มีการเข้าเยี่ยมและอ่านหรือรับรู้ข่าวสารข้อมูลตามปกติ แม้กระทั่งการอ่านหนังสือเพื่อเตรียมการสอนอันเป็นการประกอบอาชีพนักวิชาการ ของ ผศ.ดร.สุธาชัย ก็ยังถูกสั่งห้ามโดยปราศจากเหตุผลอันสมควร ยังไม่นับถึงปัญหาด้านสุขภาพที่อาจจะรุนแรงขึ้นเนื่องจากการควบคุมตัว

การกระทำของรัฐบาลสะท้อนให้เห็นถึงการคุกคามเสรีภาพทางวิชาการและเสรีภาพในการแสดงความเห็น อันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ทั้งที่เสรีภาพดังกล่าวเป็นกติกาเบื้องต้นที่นานาประเทศอันใช้ระบอบการ ปกครองแบบประชาธิปไตยยอมรับและปกป้องอย่างถึงที่สุด

พวกเรา กลุ่มนักศึกษา ปัญญาชน และนักวิชาการ สาขาต่างๆ รวมทั้งประชาชนทั่วไป (ดังรายชื่อต่อท้ายแถลงการณ์) ในฐานะผู้ที่ไม่ต้องการเห็นการคุกคามเสรีภาพในการแสดงความเห็น โดยเฉพาะความเห็นทางวิชาการ ขอแสดงท่าทีและข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล ตลอดจนนักวิชาการทุกท่าน ดังต่อไปนี้

1. พวกเราขอประณามการกระทำของรัฐบาลที่ลิดรอน สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองและทางวิชาการ อันแสดงออกผ่านการควบคุมตัวผู้ที่มีความคิดเห็นแตกต่างโดยไม่มีเหตุอันสมควร ถือเป็นการกระทำของการปกครองในระบอบเผด็จการ ที่มุ่งปิดหู ปิดตา ปิดปากของประชาชน และไม่เปิดโอกาสให้มีการวิพากษ์วิจารณ์การกระทำอันไม่ชอบธรรมของรัฐบาล

2. ขอเรียกร้องให้ปล่อยตัว ผศ.ดร.สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ โดยไม่มีเงื่อนไขในทันที เพราะทางรัฐบาลไม่สามารถแสดงข้อกล่าวหาที่ชัดเจนว่า ผศ.ดร.สุธาชัย ได้กระทำการอันผิดพระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างไร และไม่สามารถแสดงเหตุผลว่าเพราะเหตุใดจึงต้องควบคุมตัว ผศ.ดร.สุธาชัย ในลักษณะดังกล่าว

3. รัฐบาลต้องรับผิดชอบต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้นทั้งหมด รวมทั้งกรณี ผศ.ดร.สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ โดยเฉพาะการใช้กำลังปราบปรามประชาชนอย่างรุนแรง ด้วยการประกาศยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินใจผ่านการเลือกตั้งใหม่

4. ขอเรียกร้องให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา และนักวิชาการ ทั้งสาขาทางสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ รวมถึงสาขาอื่นๆ ออกมาร่วมกันประณามและแสดงพลังปกป้องสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เพราะการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของ ผศ.ดร.สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ เป็นสัญลักษณ์ของการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของนักวิชาการ และควรจะร่วมกันต่อต้านความไม่ชอบธรรมดังกล่าว ไม่ให้ลุกลามจนกลายเป็น “เรื่องธรรมดา” ในวงวิชาการ

อนึ่ง ข้อเรียกร้องในข้างต้น ยังต้องการให้ครอบคลุมถึงกรณีของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และบุคคลอื่นๆ ที่ถูกควบคุมตัวอย่างไม่ชอบธรรมในลักษณะเดียวกันอีกด้วย

เราเชื่อว่า ระบอบประชาธิปไตยจะไม่สามารถเกิดขึ้นในประเทศนี้ได้ ตราบเท่าที่ยังมีการคุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชนในทุกด้าน ดังที่รัฐบาลกำลังกระทำอยู่ ดังนั้น จึงขอเชิญชวน นักศึกษา ปัญญาชน นักวิชาการ สาขาต่างๆ รวมทั้งประชาชนทั่วไป ร่วมกันออกมาแสดงพลังและจุดยืนทางการเมืองของตน เพื่อแสดงให้รัฐบาลเห็นว่า ยังมีคนจำนวนมากทั้งในและนอกประเทศ ไม่ยอมรับในการกระทำอันเป็นเผด็จการดังกล่าวและจะร่วมกันต่อต้านการกระทำนี้ อย่างถึงที่สุด
 
กลุ่มนักศึกษาและอดีตนักศึกษาสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ และประชาชนทั่วไป (มีผู้ลงชื่อ 174 คน)
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net