Skip to main content
sharethis

‘Asia Update’ ทีวีสีแดงช่องใหม่ทดลองออกอากาศแล้ว เผยเนื้อหาเน้นตรวจสอบการทำงานรัฐบาลอย่างเข้มข้น ส่วน ‘ความจริงวันนี้’ จะคืนจอหรือไม่ต้องรอหารือจตุพร ด้าน ‘องอาจ’ เชื่อคนทำรู้กฎหมาย แต่ต้องดูขัด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือไม่ 

วานนี้ (5 ก.ค.53) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการเปิดสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม Asia Update ว่า ขณะนี้มีความคืบหน้ามาก คาดว่าจะออกอากาศได้ในสัปดาห์หน้า โดยมีการเช่าช่องสัญญาณดาวเทียมจากต่างประเทศเพื่อแพร่ภาพในรูปแบบเดียวกับสถานีพีเพิลแชนเนลที่ถูกปิดไป และมีสำนักงานอยู่ที่ห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว ส่วนผู้ให้การสนับสนุนและผู้อำนวยการสถานีนั้นไม่ขอเปิดเผย

นายจิรายุ กล่าวด้วยว่า ทีวีช่องดังกล่าวเนื้อหาไม่ได้ออกแนวโทนแดงมาก เหมือนพีเพิลแชแนล มั่นใจว่าหากแพร่ภาพออกอากาศได้นั้นจะไม่ขัดต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพราะเนื้อหาและรูปแบบรายการเราไม่ใช่การปลุกระดมหรือยั่วยุ แต่จะเน้นการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างเข้มข้น เนื้อหารูปแบบรายการนั้น หากแบ่งเป็น 100% จะมีเนื้อหาด้านต่างประเทศ 40% ในประเทศและสถานการณ์การเมือง 25% ส่วนที่เหลือเป็นด้านบันเทิงและรายการของผู้ที่จะมาร่วมรายการ 

นายจิรายุ กล่าวต่อมาว่า เบื้องต้นจะมีตน นายการุณ โหสกุล น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.ทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการหลัก อีกส่วนจะเป็นผู้ดำเนินรายการเดิมจากสถานีพีเพิลแชนเนล ส่วนในอนาคตจะมีรายการความจริงวันนี้ มาจัดด้วยหรือไม่นั้น ขอหารือกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนและอดีตผู้จัดรายการก่อนว่าพร้อมหรือไม่ อย่างไรก็ตามขณะนี้สถานีมีความพร้อมมาก ทุกวันนี้ได้ทดลองออกมาอากาศระหว่างเวลา 19.00 - 20.00 น.มาระยะหนึ่งแล้ว ทั้งนี้ผู้ที่จะรับชมได้ต้องเป็นผู้ที่ใช้จาน PSI หรือ จานแดงเดิม เมื่อใกล้เวลาเปิดสถานีจะแจ้งให้ทราบถึงวิธีการปรับจูนเพื่อให้รับชม Asia Update ได้ นอกจากนี้ยังสามารถชมได้ที่ www.asiaupdate.tv

ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะควบคุมดูแลสื่อให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 16.00 น.ถึงกรณีดังกล่าวว่า รัฐบาลไม่มีกฎหมายใดไม่มีหน้าที่ให้ใครเปิดหรือปิดสถานีโทรทัศน์ การขอเปิดสถานีโทรทัศน์ในประเทศไทยไม่รู้ว่าจะไปขอกับใคร เพราะยังไม่มีคณะกรรมการขึ้นมาดูแลโดยตรง อย่างไรก็ตาม ต้องดูว่า เขาดำเนินการตามช่องทางใด ขัดต่อกฎหมายใดหรือไม่ ขณะนี้เขายังไม่ได้ดำเนินการ เราคงไปบอกอะไรก่อนที่เขาจะดำเนินการก่อนคงไม่ได้

เมื่อถามว่าหากมีการเปิดทีวีและมีเนื้อหาที่หมิ่นเหม่ต่อการผิดกฎหมาย รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร นายองอาจ กล่าวว่า ก็ต้องติดตามดูว่าเขาทำอะไรที่ขัดต่อกฎหมายหรือไม่ ทั้งนี้จะต้องตรวจสอบด้วยว่าการกระทำดังกล่าวผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือไม่ ถ้าผิดก็ต้องดำเนินการ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าคนที่เปิดสถานีดังกล่าวก็ต้องรู้ว่ามีกฎหมายอะไรบ้างที่เขาต้องระมัดระวัง และดำเนินการไม่ให้ผิดกฎหมาย ถ้าเปิดมาแล้วทำผิดกฎหมายก็ไม่เกิดประโยชน์กับคนเปิด เพราะการเปิดทีวีขึ้นมานั้นก็มีเจตนาที่จะเผยแพร่ข้อมูล    

 

เรียบเรียงจาก: เนชั่นทันข่าวมติชนออนไลน์ข่าวสดออนไลน์ 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net