สมบัติ บุญงามอนงค์: ศอฉ. รุ่นสอง 14 วัน ในค่าย ตชด.

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

 

"ไม่มีอะไรสูญเปล่า ทุกประสบการณ์เป็นการเรียนรู้" นี่คือสิ่งที่ผมสรุปได้จากการใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นในฐานะผู้ต้องสงสัยในคดี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

ณ อาคารหลังเก่าภายในค่าย ตชด.ถูกล้อมด้วยลวดหนามพิเศษที่หาซื้อไม่ได้ในท้องตลาด มันเป็นลวดหลามชนิดหีบเพลงซึ่งใช้กันเฉพาะราชการทหารและตำรวจ และลวดหนามนั้นคือสุดขอบอธิปไตยของผมในการอาศัยอยู่ 

ภายในอาคารปูนสองชั้น ข้างบนที่เรือนนอนเป็นหมู่ ส่วนด้านล่างเป็นลานสำหรับนั่งเล่นและห้องน้ำแบบอาบน้ำไม่มีประตูปิด แน่นอนว่าผมแก้ผ้าอาบน้ำในที่กึ่งเปิดกึ่งปิด แต่เป็นที่รู้กันว่าหากมีเสียงน้ำก็จะไม่มีใครโผล่หน้าเข้ามาในห้องน้ำ เข้าใจว่าเพราะมันจะอุจาด ขันที่ใช้อาบเอามาจากในห้องส้วม ตัวขันเป็นรอยแตก แหม... มันช่างได้อารมณ์เสียจริง

เรื่องที่ท้าทายที่สุดที่นี่คือยุงป่าที่อุดมเสียเหลือเกิน และไม่ว่าจะทายากันยุง ยืนเป่าพัดลม โดยเฉพาะตอนอาบน้ำ มันชอบมากัดจนเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นตุ่มแดงๆ จึงเต็มตัวผมไปหมด แต่เจ้าหน้าที่ที่นั่นบอกว่า ยุงพวกนี้ไม่มีเชื้อไข้เลือดออก

อาหารการกินที่นี่มีครบ เขาเตรียมอาหารกล่องให้สามมื้อครบจำนวนคน ด้วยงบของ ศอฉ. (ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน) ซึ่งที่นี่ปฏิบัติงานรับมือมาแล้วสี่เดือน แต่เงินยังไม่ตกลงมาถึงผู้ปฏิบัติงาน คนทำอาหารชื่อป้าแดง เป็นภรรยาของตำรวจ ตชด.ในค่าย แกเป็นคนน่ารักและดูแลพวกเราเป็นอย่างดี ไม่น่าเชื่อว่างบประมาณค่าอาหารครั้งแรกคือมื้อละ 15 บาท ซึ่งต่อมาคนทำเจ๊งไปแล้ว แถมยังไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว หลังจากนั้นผู้ใหญ่ในค่ายได้เพิ่มค่าหารเป็นมื้อละ 35 บาทเพื่อให้สมจริง เอาเป็นว่าโดยสรุปเรื่องอาหารไม่ใช่ปัญหาเพราะกินกันจนเหลือ เพราะเมื่อญาติหรือเพื่อนเยี่ยมก็จะมีของกินมาสมทบ เลยได้โอกาสแบ่งปันให้กับเจ้าหน้าที่ ตชด.ที่มาเฝ้ายามดูแลพวกเรา

ตชด.ต่างกับตำรวจโดยทั่วไป และยิ่งต่างจากทหารอย่างเห็นได้ชัด เพราะวัฒนธรรมของ ตชด.ทำงานคล้ายๆ NGOs คือ ทำงานด้านชุมชนสัมพันธ์ ดังนั้น มุมมองของพวกเขามีความเข้าอกเข้าใจ และไม่วางตัวมาเบ่งใครทั้งนั้น เรียกว่าเจ้าหน้าที่อัธยาศัยเอาไปเต็ม 100 คะแนน ต่างแวะเวียนมาพูดุคุยกับพวกเราที่ถูกควบคุมตัว เพราะไม่ให้เราเครียด และบางส่วนก็อยากมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับพวกเรา

ตั้งแต่ผมอยู่มาวันแรกจนถึงวันสุดท้าย มีคนถูกควบคุมตัวทั้งหมด 5 คน (รวมผมด้วย) ได้แก่

คุณพีระ พริ้งกลาง อดีต นักมวยแชมป์เวทีราชดำเนิน ฉายา พยัคฆ์น้อย ส.ธนิกุล คนนี้ประวัติเยอะ เอาเป็นว่าผลงานในอดีต เคยเป็นแกนนำในการปกป้องคลื่นวิทยุร่วมด้วยช่วยกันจากการเรียกคืนรายการของทางทหาร และยังเป็นคนที่จัดระเบียบที่จอดรถเท็กซี่ในสถานีขนส่งหมอชิด สู้กับมาเฟียรถผี ต่อมาเป็น ส.ข.ไทยรักไทย ตอนนี้เป็นหัวหน้าสถานีวิทยุชุมชนแถวสำโรง

ลุงบัง หรือ ผู้กองบัง คนเดินตามเสธแดง เป็นฝ่ายระวังหลังให้เสธแดง คนนี้คือลูกน้องของเสธแดงที่ได้คุยกับเสธฯ เพราะก่อนเกิดเหตุยิงเสธแดงเพียงห้านาที ลุงบังได้เดินไปบอกเสธแดงให้เดินเข้ามาในแนวป้องกัน "นายครับ เข้าด้านในครับที่นี่ไม่ปลอดภัย" แต่เสธแดงด่าแกว่า "ไอ้บังมึงมีหน้าที่อะไร" สุดท้ายเสธแดงก็โดนยิง ผมเก็บเรื่องราวแปลกๆ ที่ลุงบังเล่าให้ฟังหลายเรื่อง ไว้มีโอกาสจะทยอยเอามาเล่าให้ฟัง

คุณวินัย กรรมการวิทยุชุมชนแถวลำลูกกา และ คนสุดท้ายคือ ต๋อง บุรีรัมย์ หรือตลกค่ายเชิญยิ้มที่เข้ามาก่อนผมออกเพียงคืนเดียว

ทีนี่ไม่ซีเรียสเรื่องเวลากินเวลานอน มีทีวีให้ดูข่าวและฟุตบอล ขาดเหลืออะไรขอความช่วยเหลือให้เจ้าหน้าที่ไปซื้อของมาได้ โดยพวกเขายินดีที่จะช่วยเหลืออย่างไม่มีอิดออด 

ทุกวันจะมีตำรวจซึ่งทาง ศอฉ.เป็นคนแต่งตั้ง ชุดนี้เห็นเขาเล่าว่ามีประมาณยี่สิบกว่าคน ผลัดกันมาสอบทุกวัน ไม่ว่าคุณจะอยู่เพียง 7 วันหรือ 30 วัน เขาก็จะมาคุยด้วยทุกวัน โดยภาพรวมแล้วทีมนี้พูดจาดี มีท่าทีรับฟัง (คัดมาอย่างดี) แต่อาจมีบางคนอาจแข็งหน่อย แต่ไม่ได้ข่มขู่แต่ประการใด

การพิจารณาปล่อยตัวจะเกิดขึ้นทุก 7 วัน ช่วงหลังผู้ที่ถูกนำตัวมาควบคุมศาลจะอนุญาตให้ควบคุมเพียง 7 วัน จาก 30 วัน ส่วนผมได้รับเกียรติให้อยู่ 14 วัน

ผมขอบคุณมิตรสหายที่เคลื่อนไหวภายนอกและให้กำลังใจ และทีมงานทนายของกลุ่มทนายความด้านสิทธิมนุษยชน นี่เป็นครั้งแรกที่ชีวิตส่วนตัวได้ใช้บริการจาก NGOs พวกเขาทำให้ผมรู้สึกมีความหวังกับคนรุ่นใหม่ในแวดวง NGOs ที่ผมใช้ชีวิตมายี่สิบกว่าปี...

 

หมายเหตุ: งานเขียนกึ่งบันทึกชิ้นนี้เผยแพร่ครั้งแรกในเฟซบุ๊คส่วนตัวของ “สมบัติ บุญงามอนงค์”  หรือ บก.ลายจุด เมื่อวันที่ 9 ก.ค.53 หลังถูกปล่อยตัวจากการคุมขังที่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน คลอง 5 จังหวัดปทุมธานี นับตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย.53 เป็นเวลา 14 วัน ประชาไทเล็งเห็นแง่มุมบอกเล่าอันน่าสนใจ จึงขออนุญาตนำมาเผยแพร่อีกครั้ง 

ทั้งนี้ ในวันที่ 9 ก.ค.53  ศาลอาญามีคำสั่งไม่รับคำร้องให้ขยายเวลาควบคุมตัวนายสมบัติ ขณะที่ศาลแขวงพระนครเหนืออนุญาตให้ประกันตัวในวงเงินประกัน 3 หมื่นบาท และกำหนดนัดวันพร้อมหรือชี้สองสถาน ในวันที่ 9 ส.ค.53 ที่ศาลแขวงพระนครเหนือ

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท