Skip to main content
sharethis

ทหารปะโอ 3 นายเสียชีวิต หลังปะทะกับทหาร SSA –ใต้/รัฐบาลเตรียมย้ายคนพม่าเข้ารัฐคะฉิ่น หวังดึงคะแนนเสียงเลือกตั้ง/กลุ่มสิทธิแรงงานเรียกร้องไทย คุ้มครองสิทธิแรงงานข้ามชาติ/พม่าปิดด่านนำเข้าสินค้าจากไทย 3 แห่ง/ทางการพม่าไม่อนุญาตให้ตลกชื่อดังเข้าร่วมงานศพพ่อ/ชาวบ้านไม่พอใจตำรวจปาดคอผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรม

 
14 ก.ค.53
ทหารปะโอ 3 นายเสียชีวิต หลังปะทะกับทหาร SSA –ใต้ 
ทหารปะโอจากองค์กรแห่งชาติปะโอ (Pa-O National Organization -PNO) ซึ่งเป็นกองกำลังหยุดยิงและสนับสนุนรัฐบาลพม่าเสียชีวิต3 นาย หลังปะทะกับทหารไทใหญ่กองกำลัง SSA – ใต้ เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา ในเมืองทางตอนใต้ของรัฐฉาน
 
มีรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุปะทะ ทหารจาก PNO ได้เข้าโจมตีและทำร้ายชาวบ้านซึ่งเป็นชาวไทใหญ่ที่อยู่ใกล้กับพื้นที่ที่ทั้งสองฝ่ายปะทะกัน โดยทหาร PNO กล่าวหาชาวบ้านไม่แจ้งข่าวการเคลื่อนไหวของทหาร SSA – ใต้ ซึ่งทหาร PNOได้ขู่ว่าจะฆ่าชาวไทใหญ่และโจมตีหมู่บ้านชาวไทใหญ่ต่อไป
 
ด้านอูขุนมิ้นทุน เลขาธิการกองกำลังปลดปล่อยแห่งชาติปะโอ (Pa-O National Liberation Front - PNLF) กองกำลังปะโออีกกลุ่มหนึ่งกล่าวว่า พม่าเป็นตัวการสำคัญที่สร้างความขัดแย้งระหว่างชาวปะโอและชาวไทใหญ่ลุกลามในขณะนี้ ด้านจายหลาวใส โฆษกกองกำลัง SSA – ใต้กล่าวว่า การสู้รบระหว่างทั้งสองฝ่ายควรจะยุติ และควรเริ่มกระบวนการเจรจากัน โดยให้ตระหนักว่า ทั้งสองฝ่ายต่างมาจากรัฐฉานเหมือนกัน (Network Media Group)
 
15 ก.ค.53
รัฐบาลเตรียมย้ายคนพม่าเข้ารัฐคะฉิ่น หวังดึงคะแนนเสียงเลือกตั้ง 
มีรายงานว่า รัฐบาลพม่าวางแผนที่จะย้ายคนพม่าจำนวน 1 แสนคนเข้าไปอยู่ในรัฐคะฉิ่น หวังชนะการเลือกตั้งจากคะแนนเสียงของคนพม่า นอกจากนี้ยังวางแผนที่จะให้คนพม่าเข้าควบคุมทรัพยากรธรรมชาติในรัฐคะฉิ่น ทั้งนี้ ทางการเตรียมย้ายชาวพม่า ทั้งจากในเขตที่ประสบภัยพิบัติพายุไซโคลนนาร์กิสเข้ามายังหมู่บ้านฮูกวาง ทางภาคตะวันตกของรัฐคะฉิ่น
 
มีรายงานว่า รัฐบาลได้คิดวางแผนที่จะย้ายคนพม่าเข้ามาในรัฐคะฉิ่นนับตั้งแต่ปี 2549 ที่ผ่านมา โดยแผนการนี้ได้คิดร่วมกับบริษัท ยูซานาร์ บริษัทซึ่งมีความใกล้ชิดกับรัฐบาลพม่า และเข้ามาทำธุรกิจในรัฐคะฉิ่น ในปีเดียวกัน บริษัทแห่งนี้ยังยึดที่ดินของชาวคะฉิ่นในหมู่บ้านฮูกวางไปเป็นจำนวนมาก เพื่อนำไปทำเป็นไร่มันสำปะหลังและไร่อ้อย และในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา บริษัทยูซานาร์เองได้นำแรงงานที่เป็นชาวพม่าเข้ามาอยู่ในพื้นที่แล้วหลายหมื่นคน (KNG)
 
กลุ่มสิทธิแรงงานเรียกร้องไทย คุ้มครองสิทธิแรงงานข้ามชาติ
14 องค์กร ซึ่งรวมถึง สหภาพแรงงานระหว่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการเพื่อผู้ลี้ภัยและผู้อพยพแห่งสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย(US Committee for Refugees and Immigration) ร่วมยื่นหนังสือเปิดผนึกถึง นายไพฑูรย์ แก้วทอง เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยเรียกร้องให้แผนจ่ายค่าชดเชยแก่แรงงานที่ได้รับอุบัติเหตุในที่ทำงาน ควรครอบคลุมไปถึงแรงงานข้ามชาติด้วย
 
ทั้งนี้ ได้ย้ำว่าที่ผ่านมา แรงงานเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย แต่กลับได้รับการปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่อย่างไม่เป็นธรรม บ่อยครั้งที่ถูกปฏิเสธ ในการเข้าถึงการศึกษาและการรักษาพยาบาล ซึ่งในจดหมายดังกล่าวได้ระบุว่า “แรงงานต่างด้าวในประเทศไทย ทำงานและมีชีวิตอยู่ในสภาพที่เลวร้าย”
 
ด้านนายเส่งเท จากมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (Human Rights and Development Foundation) ระบุว่า แรงงานข้ามชาติส่วนใหญ่ที่ได้รับบาดเจ็บในที่ทำงานถูกบังคับให้ขอค่าชดเชยจากนายจ้าง แต่กฎหมายแรงงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้บางครั้ง นายจ้างปฏิเสธที่จะจ่ายค่าชดเชยให้กับแรงงานข้ามชาติ (DVB)
 
16 ก.ค.53
พม่าปิดด่านนำเข้าสินค้าจากไทย 3 แห่ง
พม่าได้ปิดด่านและสั่งระงับนำเข้าสินค้าโดยเฉพาะจากไทยตามด่านสินค้าหลักๆ ทั้งบริเวณด่านชายแดนด้านเมืองเมียวดี ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่สั่งระงับสินค้าจากไทยตรงด่านท่าขี้เหล็ก ตรงข้าม อ .แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน และด่านตรงเกาะสอง ตรงข้าม จ .ระนองเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
 
การปิดด่านในครั้งนี้เริ่มส่งผลกระทบต่อการค้าตรงชายแดนแล้ว ขณะที่มูลค่าการค้าระหว่างไทยและพม่าได้เพิ่มขึ้นจาก 1. 59 พันล้านดอลลาร์เป็น 3.2 พันล้านดอลลาร์ในรอบสามปีที่ผ่านมา โดยมูลค่าการซื้อขายตรงชายแดนอยู่ที่ 327 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2551 – 2552 ที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน
 
ขณะที่บริเวณเชิงสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ด่านการค้าชายแดนแม่สอด-เมียวดี พม่าได้สั่งห้ามทั้งประชาชนและรถบรรทุกสินค้าข้ามผ่านเด็ดขาด ส่งผลให้มีประชาชนจากฝั่งพม่าบางส่วนตกค้างอยู่ฝั่งไทย อย่างไรก็ตามการปิดด่านติดชายแดนไทยครั้งนี้ ทางการพม่าอ้างว่าต้องการจัดระเบียบการค้าชายแดนใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมา ถึงแม้จะมีรถบรรทุกเข้าออกเป็นจำนวนมาก แต่พม่ากลับเก็บภาษีได้น้อย (Irrawaddy)
 
17 ก.ค.53
ทางการพม่าไม่อนุญาตให้ตลกชื่อดังเข้าร่วมงานศพพ่อ
ซากานาร์ ตลกและนักแสดงชื่อดังชาวพม่า ซึ่งขณะนี้ถูกตัดสินโทษจำคุกเป็นเวลา 35 ปี ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมงานศพของพ่อที่เสียชีวิตไปเมื่อวันพุธ (14 ก.ค.) ที่ผ่านมา มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นันยุ้นต์ส่วย พ่อของซากานาร์ เคยเขียนจดหมายไปร้องขอไปยังทางการพม่าให้อนุญาตซากานาร์เข้าร่วมงานศพของแม่ครั้งสุดท้าย ที่เสียชีวิตไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน แต่ก็ไม่มีคำตอบใดๆ จากทางการพม่า
 
จนมาถึงงานศพของนันยุ้นส่วยเอง ซากานาร์ก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมงานศพแต่อย่างใด ทั้งนี้ ซากานาร์ หรือที่รู้จักกันในชื่อโก ทุระ ถูกจับเมื่อปี 2551 ที่ผ่านมา หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกค้นบ้านของเขา พร้อมกับของกลางที่เป็นดีวีดีที่เกี่ยวกับผู้ประสบภัยนาร์กิส รวมไปถึงดีวีดีที่เกี่ยวกับงานแต่งของบุตรสาวตานฉ่วยและภาพยนตร์แรมโบ้ 4 โดยเขายังถูกจับในข้อหา ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยนาร์กิส ก่อนหน้าซากานาร์ถูกจับมาแล้วหลายครั้ง และขณะนี้เขาถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ ในรัฐคะฉิ่น และล่าสุดมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำไม่อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมซากานาร์ (Irrawaddy)
 
19 ก.ค.53
ชาวบ้านไม่พอใจตำรวจปาดคอผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรม
เจ้าหน้าที่ตำรวจในเขตกรุงย่างกุ้ง ถูกกล่าวหาว่าทรมานร่างกายผู้ต้องสงสัยที่อาจเชื่อมโยงกับการเสียชีวิตของครูวัย 53 รายหนึ่งเมื่อเดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยจำนวนกว่า 10 ราย โดยทั้งหมดเป็นศิษย์เก่าของครูที่เสียชีวิตรายนี้ มีรายงานว่า ผู้ที่ถูกจับทั้งหมดถูกสอบสวนและถูกทรมานร่างกายหนัก ขณะที่นายซอลินอูเป็นอีกรายหนึ่งที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทรมานร่างกายหนักที่สุด โดยเขาถูกปาดคอในระหว่างการสอบสวน และต่อมาเขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแต่ก็ยังถูกควบคุมตัว
 
มีรายงานว่า หลังชาวบ้านจากหมู่บ้านฉ่วยโบสู่ เขตกรุงย่างกุ้ง ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่นายซอลินอูอาศัยอยู่ทราบข่าวต่างออกมาแสดงความไม่พอใจตำรวจ โดยชาวบ้านราว 40 คน ได้เดินทางไปยังสถานีตำรวจและขอพบนายซอลินอู แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาต
 
ทั้งนี้ ชาวบ้านกล่าวว่า หากในวันพรุ่งนี้ ตำรวจยังไม่อนุญาตให้เข้าพบนายซอลินอู ชาวบ้านจากหมู่บ้านฉ่วยโบซูทั้งหมู่บ้านจะเดินทางมาประท้วงหน้าสถานีตำรวจ ในอีกด้านหนึ่ง แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับกุมผู้ต้องสงสัย 10 คนไว้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถจับคนร้ายทีลงมือก่อเหตุได้ (DVB)

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net