CPJ ร้องรัฐบาลสืบสวนจริงจัง กรณีผู้สื่อข่าวเสียชีวิตจากเหตุการณ์เมษา-พฤษภา

29 ก.ค. 2553 - คณะกรรมการคุ้มครองผู้สื่อข่าว (Committee to Protect Journalists หรือ CPJ) ได้เผยแพร่รายงานพิเศษระบุถึงการที่รัฐบาลไทยไม่ดำเนินการเรื่องการสอบสวนอย่างจริงจังเท่าที่ควร ต่อกรณีการเสียชีวิตของผู้สื่อข่าวจากเหตุปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ชุมนุมในช่วงเดือนเมษายน และพฤษภาคมที่ผ่านมา ที่มีผู้สื่อข่าวต่างชาติ 2 รายเสียชีวิต

เนื้อหาในรายงานพิเศษ โดยชอว์น คริสปิน ระบุว่าเหตุรุนแรงในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค. ที่ผ่านมาทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 90 รายและได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 1,800 ราย ซึ่งถือว่าเป็นเหตุรุนแรงที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่การปราบผู้ชุมนุมด้วยอาวุธปืนในเหตุการณ์พฤษภาฯ 2535

แม้ว่าอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจะบอกว่ากระสุนจริงที่ใช้ เป็นการใช้เพื่อป้องกันตัวเองเท่านั้นและมาตรการควบคุมฝูงชนก็ดำเนินการตามมาตรฐานสากล และทางฝ่ายแกนนำ นปช. ก็บอกว่าการชุมนุมของพวกเขาสันติและปราศจากอาวุธ

แต่จากการตรวจสอบของ CPJ พบว่าทั้งสองฝ่ายต่างปะทะกันอย่างรุนแรงจนมีผู้สื่อข่าว 2 รายเสียชีวิต คือ ฟาบิโอ โพเลนชี ชาวอิตาลี และฮิโระ มุราโมโตะ ชาวญี่ปุ่น และมีผู้สื่อข่าวได้รับบาดเจ็บอีก 9 ราย

ผู้สื่อข่าวหลายสิบรายที่อยู่ในเหตุการณ์ให้ข้อมูลต่างจากที่ถูกนำเสนอโดยรัฐบาล โดยบอกว่าทหารยิงมั่ว ๆ ใส่ประชาชนที่ไม่มีอาวุธในพื้นที่หลายครั้ง ขณะเดียวกันก็ระบุถึงชายชุดดำติดอาวุธที่ยิงกระสุนและระเบิดใส่ทหารในบริเวณที่มีผู้สื่อข่าวอยู่

การสืบสวนในสาเหตุดังกล่าวของรัฐบาลเป็นไปอย่างคลุมเครือและไม่สมบูรณ์ รวมถึงการชันสูตรศพด้วย ขณะที่การสืบสวนจากองค์กร สถานทูต และสมาชิกในครอบครัวผู้ตายก็ถูกขัดขวางหรือห้ามเข้าถึงข้อมูลสำคัญของรัฐบาล โดยจนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครออกมารับผิดชอบกับการสังหารและการทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส

ทาง CPJ ได้มีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลไทยดังนี้

- ขอให้รัฐบาลทำการชันสูตรศพของฟาบิโอ โพเลนชีและฮิโระ มุราโมโตะ อย่างเป็นทางการ ดำเนินการสืบสวนกรณีผู้สื่อข่าวที่ได้รับบาดเจ็บอีก 9 ราย อย่างเป็นกลาง รวมถึง เนลสัน แรนด์ และชานเลอร์ แวนเดอร์กริฟท์ โดยมีการออกหมายจับและดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัย และมีการดำเนินการทางวินัยกับทหารที่ปฏิบัตินอกเหนือจากมาตรฐาน

- ให้ความร่วมมือกับการสืบสวนอิสระที่ทำการสืบสวนเหตุแวดล้อมการสังหารและทำร้ายผู้สื่อข่าว มีการเปิดเผยข้อมูลผลการตรวจชันสูตรทางการและการสืบสวนของตำรวจตราบใดที่ยังไม่ละเมิดกฏหมาย สามารถเข้าถึงหลักฐานจากกล้องวงจรปิดและหลักฐานทางนิติเวชที่อยู่ในมือของรัฐบาลได้

- ให้หันกลับมาให้ความสำคัญกับหน้าที่ของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบ และค้นหาความจริง ของรัฐบาล (คอป.) โดยเพิ่มการนำตัวผู้กระทำรุนแรงต่อนักข่าวดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฏหมายด้วย

- ยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ในกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่น ๆ อีก 15 จังหวัด และหยุดปิดกั้นสื่อ รวมถึงสื่อออนไลน์ โดยการอ้างถึงความมั่นคงของชาติด้วย

- รับประกันว่าทหารจะใช้ความระมัดระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้สื่อข่าวที่ทำข่าวสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองต้องมีความเสี่ยงโดยไม่จำเป็น

 

ที่มา แปลและเรียบเรียงจาก
In Thailand unrest, journalists under fire, CPJ, 29-07-2010
http://cpj.org/reports/2010/07/in-thailand-unrest-journalists-under-fire.php

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท