Skip to main content
sharethis
ชาวบ้านเครือข่ายปฏิรูปที่ดินยื่นหนังสือ "สาทิตย์" ถึงรัฐสภา จี้เพิ่มชื่อร่วมอนุกก.สำรวจที่ดินทำโฉนดชุมชน-อนุกก.ด้านกฎหมายฯ หลังประชุมคณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชนนัดแรก ตั้งอนุกก.2 คณะ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมแค่คณะละ 1 คน ขณะส่วนราชการมีชุดละ 17 คน
 
วานนี้ (18 ส.ค.53) ที่รัฐสภา ชาวบ้านตัวแทนเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย (คปท.) และเครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง (คปสม.) นำโดยนางนุชนารถ แท่นทอง จำนวนประมาณ 50 คน ได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชน (ปจช.) ประท้วงมติการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยขอให้เพิ่มสัดส่วนภาคประชาชนในคณะอนุกรรมการ 2 ชุด คือ อนุกรรมการสำรวจและตรวจสอบพื้นที่ในการจัดให้มีโฉนดชุมชน และอนุกรรมการด้านกฎหมายและระเบียบ
 
อารีวรรณ คูสันเทียะ เครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ว่า การยื่นหนังสือครั้งนี้สืบเนื่องมาจากคณะอนุกรรมการทั้ง 2 ชุดที่จะมีการแต่งตั้งขึ้นใหม่นี้ มีตัวแทนภาคประชาชน เพียงชุดละ 1 คน ขณะที่มีตัวแทนจากส่วนราชการชุดละ 17 คน ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ไม่สมดุล และสมเหตุสมผล อีกทั้งยังขัดต่อหลักการทำงานร่วมกันของภาครัฐและภาคประชาชนอย่างมีส่วนร่วม
 
ทั้งนี้ ในหนังสือระบุว่า จากการทำงานเสนอความเห็นเรื่องหลักเกณฑ์ด้านกฎหมาย กฎ ระเบียบ คำสั่ง และมติคณะรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้อง และการสำรวจและคัดเลือกพื้นที่ที่จะดำเนินการจัดให้มีโฉนดชุมชน ซึ่งกระจายอยู่จำนวนมากในแต่ละภาคเป็นงานที่สำคัญ จึงสมควรให้ภาคประชาชนที่มาจากหลายภาค ร่วมเป็นอนุกรรมการฯ ในสัดส่วนที่มากพอและสมดุล จึงขอเสนอเพิ่มสัดส่วนตัวแทนของภาคประชาชนอีก 11 คน เข้าร่วมเป็นอนุกรรมการสำรวจและตรวจสอบพื้นที่ในการจัดให้มีโฉนดชุมชน และขอเพิ่มสัดส่วนตัวแทนของภาคประชาชนอีก 5 คน เข้าร่วมเป็นอนุกรรมการด้านกฎหมายและระเบียบ โดยขอให้มีการแต่งตั้งผู้ช่วยเลขานุการจากภาคประชาชน ในคณะอนุกรรมการทั้ง 2 ชุด ด้วย
 
"คปท. คปสม.และ พอช.เห็นว่า การทำงานร่วมกันระหว่างภาคประชาชนและรัฐบาลในเรื่องการจัดให้มีโฉนดชุมชน ที่ผ่านมากำลังจะสามารถดำเนินไปได้ด้วยดี และหวังว่ารัฐบาลจะยังคงรักษาหลักการการทำงานร่วมกัน บนพื้นฐานของการเปิดพื้นที่ให้ภาคประชาชนเสนอความคิดเห็น และทำงานร่วมกับภาครัฐอย่างสมศักดิ์ศรี และมีความเท่าเทียมกัน จึงขอให้ประธานกรรมการ และคณะกรรมการ ปจช. ทบทวนและพิจารณาเรื่องนี้ใหม่อีกครั้ง ตามข้อเสนอของภาคประชาชน" หนังสือดังกล่าวระบุ
 
 
 
 
17 สิงหาคม 2553
 
 
เรื่อง ขอเพิ่มรายชื่อภาคประชาชนในอนุกรรมการสำรวจและตรวจสอบพื้นที่ในการจัดให้มี
       โฉนดชุมชน และอนุกรรมการด้านกฎหมายและระเบียบ
 
เรียน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) ในฐานะประธาน
       กรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชน
 
สิ่งที่ส่งมาด้วย รายชื่อภาคประชาชนที่ขอเสนอเพิ่มในอนุกรรมการทั้ง 2 ชุด
 
 
ตามที่คณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชนได้จัดให้มีการประชุมครั้งที่ 1/2553 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม 2553 และได้มีมติที่ประชุมให้มีการแต่งตั้งอนุกรรมการ 2 ชุด ได้แก่ คณะอนุกรรมการสำรวจและตรวจสอบพื้นที่ในการจัดให้มีโฉนดชุมชน มีอำนาจหน้าที่ในการสำรวจตรวจสอบ และคัดเลือกพื้นที่ที่จะดำเนินการจัดโฉนดชุมชน และคณะอนุกรรมการด้านกฎหมายและระเบียบ มีอำนาจหน้าที่ในเสนอความเห็นเรื่องหลักเกณฑ์ด้านกฎหมาย กฎ ระเบียบ คำสั่ง และมติคณะรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการจัดโฉนดชุมชน
 
เครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทยมีความเห็นว่า การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการทั้ง 2 ชุด ซึ่งมีองค์ประกอบตัวแทนของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องถึงชุดละ 17 คน ในขณะที่มีการแต่งตั้งตัวแทนภาคประชาชนเพียงชุดละ 1 คน เป็นองค์ประกอบ เป็นสัดส่วนที่ไม่สมเหตุผล และขัดต่อหลักการทำงานอย่างมีส่วนร่วมระหว่างการทำงานของภาครัฐและภาคประชาชน
 
เนื่องจากการทำงานเสนอความเห็นเรื่องหลักเกณฑ์ด้านกฎหมาย กฎ ระเบียบ คำสั่ง และมติคณะรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้อง และการสำรวจและคัดเลือกพื้นที่ที่จะดำเนินการจัดให้มีโฉนดชุมชน ซึ่งกระจายอยู่จำนวนมากในแต่ละภาค เป็นงานที่สำคัญ จึงสมควรให้ภาคประชาขนที่มาจากหลายภาค ร่วมเป็นอนุกรรมการฯ ในสัดส่วนที่มากพอและสมดุล คปท. คปสม.และ พอช. จึงขอเสนอเพิ่มสัดส่วนตัวแทนของภาคประชาชนอีก 11 คน เข้าร่วมเป็นอนุกรรมการสำรวจและตรวจสอบพื้นที่ในการจัดให้มีโฉนดชุมชน และขอเพิ่มสัดส่วนตัวแทนของภาคประชาชนอีก 5 คน เข้าร่วมเป็นอนุกรรมการด้านกฎหมายและระเบียบ ทั้งนี้โดยขอให้มีการแต่งตั้งผู้ช่วยเลขานุการจากภาคประชาชน ในคณะอนุกรรมการทั้ง 2 ชุด ด้วย
 
            คปท. คปสม.และ พอช. เห็นว่า การทำงานร่วมกันระหว่างภาคประชาชนและรัฐบาลในเรื่องการจัดให้มีโฉนดชุมชน ที่ผ่านมากำลังจะสามารถดำเนินไปได้ด้วยดี และหวังว่ารัฐบาลจะยังคงรักษาหลักการการทำงานร่วมกัน บนพื้นฐานของการเปิดพื้นที่ให้ภาคประชาชนเสนอความคิดเห็น และทำงานร่วมกับภาครัฐอย่างสมศักดิ์ศรี และมีความเท่าเทียมกัน จึงขอให้ประธานกรรมการ และคณะกรรมการ ปจช. ทบทวนและพิจารณาเรื่องนี้ใหม่อีกครั้ง ตามข้อเสนอของภาคประชาชน
 
จึงเรียนมาเพื่อทราบและดำเนินการ
 
ขอแสดงความนับถือ
 
(นางนุชนารถ แท่นทอง)
ตัวแทนคณะกรรมการ
เครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย
 
(นายพงษ์ศักดิ์ สายวรรณ์)
ตัวแทนเครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง
 
(นายกนกศักดิ์ ดวงแก้วเรือน)
ตัวแทนชุมชนในเครือข่ายสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net