Skip to main content
sharethis

พม่าตั้งด่านตรวจเข้มสมาชิกพรรคมอญใหม่ - รถไฟตกรางทำผักขึ้นราคา - ทูตพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนเตรียมนำเรื่องทหารพม่าฆ่าเด็กหนุ่มถกในการประชุมสมัชชาใหญ่ - เตซา ยื่นคำขาดปลดนักเตะและโค้ช หากพลาดแชมป์การแข่งขันฟุตบอล - KNLA ดักโจมตีทหารพม่า เสียชีวิต 2 เจ็บอีก 6

6 กันยายน 53

พม่าตั้งด่านตรวจเข้มสมาชิกพรรคมอญใหม่
แหล่ง ข่าวจากพรรคมอญใหม่ (The New Mon State Party - NMSP) เปิดเผยว่า ทางการพม่าได้ตั้งด่านตวรจเข้มและสอบปากคำสมาชิกพรรคมอญใหม่ที่เดินทาง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา

มีรายงานว่า ทางการพม่าเริ่มตั้งจุดตรวจรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ ตลอดทางหลวงที่วิ่งจากเมืองเมียวดีถึงเมืองมะละแหม่ง และในเส้นทางระหว่าง เมืองตานพยูซัดมายังด่านเจดีย์สามองค์ และจากเมืองมูดงมายังด่านเจดีย์สามองค์ และจากมะละแหม่งถึงจังหวัดเยด้วยเช่นกัน  ซึ่งเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อไปยังชายแดนไทยทั้งหมด

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา เป็นวันครบกำหนดวันสุดท้ายของการตอบรับเข้าร่วมเป็นกองกำลังรักษาชายแดน (Border Guard Force) ภายใต้รัฐบาลทหารพม่า อย่างไรก็ตาม พรรคมอญใหม่ได้ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกับกองทัพพม่า

ด้านสมาชิกพรรคยืนยันว่า ผลของการปฏิเสธ ทางการพม่าได้มีการตรวจสอบสมาชิกพรรคมอญใหม่ที่เดินทางออกนอกพื้นที่อย่างเข้มงวด ขณะที่สมาชิกพรรคมอญใหม่ได้งดการเดินทางในช่วงนี้ เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย ขณะที่ก่อนหน้านี้ผู้ที่ถือบัตรสมาชิกพรรคมอญใหม่ ได้รับการอำนวยความสะดวกสบายในการเดินทางจากทางการพม่าเป็นอย่างดี (IMNA)

รถไฟตกรางทำผักขึ้นราคา
ราคาผักสดและดอกไม้ในเมืองหลวงของรัฐคะฉิ่นมีราคาสูงขึ้นถึง 60% หลังจากที่ขบวนรถไฟที่บรรทุกสินค้ามาตกรางในเส้นทางระหว่าง เมืองมัณฑะเลย์- มิตจีนา เมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ระบบการเชื่อมต่อทางการค้าได้รับความเสียหาย

โดยรถไฟสายดังกล่าวได้ตกรางที่เมืองมัณฑะเลย์ในบ่ายวันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน ที่ผ่านมาระหว่างสถานีนัมคำ-โบชอง ในตำบลวันโตะ ภาคสกาย โดยหัวรถจักรและหนึ่งในเก้าของตู้ผู้โดยสารพลิกคว่ำ ทั้งนี้ความเสียหายบางส่วนได้รับการซ่อมแซม แต่ทางรถไฟยังไม่เปิดให้ใช้

ส่วนสิ่งของที่บรรทุกมาเป็นพืชผักต่างๆ เช่น กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก มะเขือเทศ ทำให้พ่อค้าต่างได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยกำหนดเดิมของรถไฟต้องมาถึงเมืองมิตจีนาในเวลา ตี 4 ครึ่ง ของวันอังคารที่ 7 กันยายน แต่เกิดเหตุเสียก่อน

“พ่อค้าบางราย ขาดทุนกว่า 1-2 แสนจั๊ต (ประมาณ 3,300-6,600 บาท) ส่วนธุรกิจขนาดกลางเป็นต้นไปขาดทุนประมาณ 5 แสนจั๊ต (ประมาณ 16,500 บาท)” ผู้ค้ารายหนึ่งเปิดเผย

แม่บ้านในเมืองมิตจีนากล่าวว่า “ราคาของดอกไม้เช่นดอกกลาดิโอลัส ดอกเบญจมาศ ขึ้นราคาจาก 800 จั๊ต (28 บาท) เป็น 1,300 จั๊ต (35 บาท) ราคาผักก็แพงขึ้นเหมือนกัน แต่เราทำอะไรไม่ได้ ก็จำเป็นต้องซื้อของในราคาแพง”

ทั้งนี้ แม้จะมีการรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 2 คน จากรถไฟตกราง แต่ผู้แทนของสถานีรถไฟมิตจีนาก็ออกมาระบุว่าไม่มีใครเสียชีวิต ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่ของสถานีรถไฟมัณฑะเลย์ ก็ระบุไม่พบว่ามีใครเสียชีวิตเช่นกัน (Mizzima)

 

8 กันยายน 53

ทูตพิเศษด้านสิทธิมนุษยชน เตรียมนำเรื่องทหารพม่าฆ่าเด็กหนุ่มถกในการประชุมสมัชชาใหญ่
นาย โทมัส โอเจีย ควินตานา ทูตพิเศษสหประชาชาติด้านสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า จะนำเรื่องที่เด็กหนุ่มสองคนในเมืองพะโค (หงสาวดี) ที่ถูกฆ่าโดยทหารพม่าเมื่อเร็วๆ นี้ ขึ้นรายงานต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่จะมีขึ้นในเดือน พฤศจิกายนนี้

ในการการสัมภาษณ์กับ Radio Free Asia ขณะนี้เขากำลังหารายละเอียดเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในเมืองพะโค เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมระบุ การสังหารเด็กหนุ่มทั้งสองถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน

ทั้งนี้ งานศพของวัยรุ่นทั้งสองคน คือ นายอ่องทูเฮง อายุ 22 ปี และนายโซป่ายซอ อายุ 18 ปี ถูุกจัดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศที่ตรึงเครียดในวันอังคารที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา พวกเขาถูกยิงโดยทหารพม่าจากกองบังคับการทหารราบกองพลที่ 59 ในวันเสาร์หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายทะเลาะวิวาทกัน

ด้านครอบครัวผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า พวกเขาไม่มีความหวังหากหวังพึ่งกฎหมายในการไต่สวนสาเหตุการตาย ขณะที่น้าของนายอ่องทูเฮงผู้ตาย กล่าวว่า“เราจะเชื่อมั่นในระบบกฎหมายได้อย่างไร เราไม่ได้แม้แต่ข้อมูลของคดีที่สถานีตำรวจ”

มีรายงานว่า ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ดูศพก่อนที่จะนำไปเผา ยกเว้นสมาชิกในครอบครัวที่ใกล้ชิด และขณะพิธีฌาปนกิจ มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบรักษาความปลอดภัยทั่วทั้งเมือง “เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำอยู่ทุกจุด และถามเราว่าเราเกี่ยวข้องกับผู้ตายอย่างไร ก่อนที่จะให้เราดูศพ” หญิงคนเดิมกล่าว

ทั้งนี้ คนในพื้นที่ได้ระบุว่า ครอบครัวของผู้เสียชีวิตรายหนึ่งยอมรับเงินจำนวน 1 ล้านจั๊ต (ประมาณ 33,000 บาท) ที่กองทัพเสนอให้เป็นค่าชดเชย แต่มีรายงานว่า ครอบครัวของเหยื่ออีกรายหนึ่งยังไม่ได้รับเงินชดเชยแต่อย่างใด

ทางด้านนายเต่งเท ผู้นำพรรคสหภาพประชาธิปไตย ผู้มาร่วมงานศพกล่าวว่า  “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้แสดงให้เราเห็นว่า รัฐบาลละเลยกฎหมายและสามารถทำอะไรก็ได้กับการปล่อยให้คนผิดลอยนวล นี่เป็นการคุกคามประชาชนจนกระทั่งถึงวันเลือกตั้ง” (Irrawaddy)

11 กันยายน 53

เตซา ยื่นคำขาดปลดนักเตะและโค้ช หากพลาดแชมป์การแข่งขันฟุตบอล
มีรายงานว่า นายเตซา นักธุรกิจผู้มีความใกล้ชิดกับรัฐบาล และเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอล “ย่างกุ้งยูไนเต็ด” ได้ยื่นคำขาดแก่นักฟุตบอลรวมถึงโค๊ชและผู้จัดการทีมว่า หากทีมฟุตบอลของเขาไม่สามารถคว้าแชมป์ เบอร์ม่า เนชั่นแนลลีก แชมป์เปี้ยน (Burma National League championship - BNL) ในฤดูกาลนี้ก็จะถูกไล่ออกทั้งหมด

ทั้งนี้ ผู้จัดการทีมอย่างนายอ่องจ่อวิน ได้ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง “ใช่ มันเป็นเรื่องจริง นายเตซาได้เตือนเป็นพิเศษเพื่อเป้าหมายของการชนะเพื่อครองแชมป์ BNL ในปีนี้ และเราต้องชนะในนัดการฟาดแข้งกับทีมโอ๊กทา ซึ่งก็ใกล้ถึงวันแข่งขันแล้ว”

หลังจากผลการแข่งขันที่แพ้รวด 3 นัดติดต่อกัน นายเตซาได้กล่าวกับทีมฟุตบอลของเขาและลูกชายของเขาที่ชื่อ นายเผเพียวเตซา ซึ่งเล่นให้กับทีมนี้เช่นกันว่า จะต้องเล่นเพื่อเขตย่างกุ้ง ไม่ใช่เล่นเพื่อสโมสรเท่านั้น และจะต้องเอาชนะได้ทุกรอบการแข่งขันที่เหลืออยู่ใน BNL

ด้านผู้จัดการทีมได้กล่าวเพิ่มเติมถึงสิ่งที่นายเตซาระบุว่า ลูกทีมและผู้จัดการทีมกำลังได้รับแรงกดดัน แต่เชื่อว่าทีมจะสามารถเก็บชัยชนะที่เหลือได้  ทั้งนี้ นายเตซาได้ใช้เงินกว่า 500 ล้านจั๊ต (ประมาณ 15 ล้านบาท) ในการสร้างทีมสำหรับการแข่งขันในฤดูกาลนี้ รวมถึงสร้างสนามฝึกและการซื้อตัวนักแตะมาเสริมทีมอีกด้วย (Mizzima)
 

KNLA ดักโจมตีทหารพม่า เสียชีวิต 2 เจ็บอีก 6
มีรายงานจากแหล่งข่าวในรัฐกะเหรี่ยงว่า เมื่อวันพุธที่ 8 กันยายนที่ผ่านมากองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Liberation Army - KNLA) ได้ซุ่มโจมตีทหารพม่าที่เมืองติงยางีนอง ในรัฐกะเหรี่ยง โดยมีทหารพม่าสองนายถูกสังหาร และอีก 6 คนได้รับบาดเจ็บ

ประธาน KNU ในเขตเมืองพะอัน รัฐกะเหรี่ยง นายพลอ่องหม่องเอ เปิดเผยว่า กองกำลังชาติพันธุ์กะเหรี่ยงจากกองพันที่ 202 ของกองพลน้อยที่ 7 ของKNLA ได้ส่งกำลังเข้าโจมตีทหารของรัฐบาล ขณะที่กำลังลาดตระเวนในซินผิ่วต่าวหรือภูเขาช้างเผือก

ขณะที่กำลังทหารพม่าที่ถูกซุ่ม โจมตีครั้งนี้มาจากกองกำลังทหารราบที่ 587  (LIB 587) ภายใต้การบังคับบัญชาจากกองพันที่ 19 ที่มีฐานตั้งอยู่ในเมืองติงยางีนอง ที่อยู่ทางภาคตะวันตกของรัฐกะเหรี่ยง ห่างจากเมียวดีไป 30 กิโลเมตร

ทางด้านนางซีโพร่า เส่ง  เลขาธิการ KNU ยืนยันถึงการต่อสู้ที่เกิดขึ้นใน พื้นที่ของ กองพลที่ 7 แต่ไม่มีรายงานการเสียชีวิตของทหารฝ่าย KNLA

เช่นเดียวกับรายงานของ องค์กรข่าวกะเหรี่ยง Kwekalu ระบุว่า ก่อนหน้านี้ในวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา เกิดการปะทะกันของทั้งสองผ่าย มีทหารพม่า 2 นาย จากกองพันที่ 584 เสียชีวิตและอีก 7 นาย ได้รับบาดเจ็บในระหว่างการต่อสู้กับกองพลที่ 4 ของ KNLA ก่อนหน้านี้ในเดือนสิงหาคมก็มีการปะทะกัน มีรายงานว่า ทหารพม่าเสียชีวิต 9 นาย และบาดเจ็บ 14 นายด้วยเช่นกัน (Irrawaddy)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net