Skip to main content
sharethis
19 ก.ย.53 เวลา 9.30 น. กลุ่มประชาคมธรรมศาสตร์คัดค้านอำนาจนอกระบบ กลุ่มประชาคมจุฬาฯ เพื่อประชาชน และกลุ่มคนเสื้อแดงเข้าร่วมกิจกรรม "ปล้น 19 ตาย 91 ครบรอบวันปล้นอำนาจถึงวันฆ่าประชาชน" รำลึกสี่ปี รัฐประหาร 19 กันยา และสี่เดือน 19 พฤษภา เหตุการณ์การปราบปรามประชาชน โดยออกแถลงการณ์ วางพวงหรีด ดอกไม้จัน ไว้อาลัยให้แก่ผู้สูญเสีย และอาลัยแด่ประชาธิปไตยไทยที่ล้าหลัง ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 
 ขณะเดียวกันสหพันธ์นิสิตนักศึกษาภาคอีสาน (สนนอ.) ออกแถลงการณ์ 4 ปีเผด็จการรัฐประหาร 4 เดือน การล้อมสังหารหมู่ประชาชนกลางเมืองหลวง เรียกร้องรัฐบาลยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และการคุกคามประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งขอให้รัฐบาลออกมารับผิดชอบและขอโทษต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

 
แถลงการณ์ร่วม
กลุ่มประชาคมธรรมศาสตร์คัดค้านอำนาจนอกระบบ
 และกลุ่มประชาคมจุฬาฯเพื่อประชาชน
 
เนื่องในโอกาสครบรอบ 4 ปีการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549
และ 4 เดือนเหตุการณ์ 19 พฤษภาคม 2553
 
ด้วยเป็นที่ปรากฎโดยแน่ชัดว่า หลังจากคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขได้ทำการรัฐประหารในวันที่ 19 กันยายน 2549 จนถึงปัจจุบัน ได้ก่อให้เกิดความเสื่อมถอยในระบอบประชาธิปไตยอย่างที่ได้เคยปรากฎมาแล้วในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์ จอมพลถนอม กิตติขจรและพลเอกสุจินดา คราประยูร ในสภาพการณ์ปัจจุบันฝ่ายผู้มีอำนาจพยายามเอาชนะศัตรูทางการเมืองด้วยวิธีการหลากหลายรูปแบบ และนับวันมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยประชาชนส่วนใหญ่เคลือบแคลงสงสัยต่ออนาคตประเทศไทยกันอย่างกว้างขวาง มีการบังคับใช้กฎหมายที่จงใจกระทำต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพียงฝ่ายเดียว ดังจะเห็นชัดจากการจับกุมนักโทษการเมือง การแทรกแซงสื่อ การดึงสถาบันพระมหากษัตริย์ลงมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองโจมตีฝ่ายตรงข้ามของตนอยู่บ่อยครั้ง แม้ในหลายภาคส่วนของสังคม จะได้พยายามเรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบต่อการสลายการชุมนุมในเหตุการณ์เมษา-พฤษภา 53 อันเป็นเหตุให้ประชาชนเสียชีวิตตามตัวเลขล่าสุดคือ 92 ชีวิต แต่ก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมีการออกมาแสดงความรับผิดชอบจากฝ่ายรัฐบาลผู้ใช้กองกำลังทหารสลายการชุมนุมแต่อย่างใด
 
กลุ่มประชาคมธรรมศาสตร์คัดค้านอำนาจนอกระบบ และกลุ่มประชาคมจุฬาฯเพื่อประชาชน ซึ่งประกอบไปด้วยนิสิตนักศึกษาผู้ยึดมั่นในหลักประชาธิปไตย เสรีภาพในการพูด และเคารพในสิทธิมนุษยชน จึงมีความจำเป็นต้องใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตยจัดพิธีรำลึกเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 และเหตุการณ์ 19 พฤษภาคม 2553 เพื่อให้สังคมได้ตระหนักถึงระบอบประชาธิปไตยที่กำลังเสื่อมถอยลง และรำลึกถึงประชาชนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่ผ่านมา พวกเราขอยืนยันว่า ไม่มีเจตนาที่จะเข้ามาเป็นเจ้าของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเสียเอง แต่จะคืนให้กับท่านผู้หวาดกลัวพลังบริสุทธิ์ของเหล่านิสิตนักศึกษาโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้เพื่อธำรงรักษาไว้ ซึ่งศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์ และเสรีภาพในการพูด รวมทั้งรักษาไว้ซึ่งแนวทางตามระบอบประชาธิปไตยอันเป็นเจตจำนงสูงสุดของประชาชนคนไทยทุกคน
                                                  กลุ่มประชาคมธรรมศาสตร์คัดค้านอำนาจนอกระบบ
กลุ่มประชาคมจุฬาฯเพื่อประชาชน
 
(แถลงการณ์นี้เขียนขึ้นโดยล้อ แถลงการณ์คณะปฎิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ฉบับที่1)
 
 

 
แถลงการณ์สหพันธ์นิสิตนักศึกษาภาคอีสานฉบับที่ 1/2553
4 ปีเผด็จการรัฐประหาร 4 เดือน การล้อมสังหารหมู่ประชาชนกลางเมืองหลวง
นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารขึ้นในวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งกระทำโดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ผ่านมาแล้วเป็นเวลา 4 ปีเต็มนั้น ทางสหพันธ์นิสิตนักศึกษาภาคอีสาน (สนนอ.) ขอแสดงความไว้อาลัยในการ “ฆาตกรรมประชาธิปไตย” ของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ฯ มา ณ โอกาสนี้ด้วย
            ตลอดระยะเวลา 4ปี ในการทำรัฐประหารสังคมไทยเหมือนดั่งตกลงสู่หุบเหวแห่งความขัดแย้งที่ไม่อาจประนีประนอมกันได้ ซึ่งประชาชนภาคอีสาน มองเห็นแล้วว่าได้เกิดระบบสองมาตรฐานขึ้นในสังคมไทยซึ่งหลังการรัฐประหารที่ผ่านมาประชาชนผู้รักประชาธิปไตยและความเป็นธรรม พวกเขาได้เห็นความสำคัญความหมายของระบอบประชาธิปไตย หนึ่งคนหนึ่งเสียง ระบบพรรคการเมืองที่ต้องทำตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชน ไม่ได้โง่เง่า ขาดการศึกษา ถูกซื้อได้ อย่างที่ฝ่ายสนับสนุนเผด็จการรัฐประหาร นักวิชาการสันดานอำมาตย์ได้โฆษณาชวนเชื่อให้ประชาชนหลงผิด หมิ่นแคลน จิตใจนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
ประชาชนคนอีสานได้ตื่นลุกยืนขึ้นแล้ว พร้อมจะต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิ์ เสรีภาพ ความเป็นมนุษย์ของพวกเขา ที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตัวแทน ระบอบอำมาตยาธิปไตย ได้กระทำการแย่งยึดอำนาจจากประชาชน และเมื่อประชาชนได้เข้าเรียกร้อง ร้องขออำนาจอธิปไตยซึ่งเป็นของตนเองอยู่เดิม ด้วยการเรียกร้องให้ ยุบสภา คืนอำนาจให้กับประชาชน ด้วยวิถีทางประชาธิปไตย รัฐบาลได้ใช้อำนาจรัฐ เข้าเข่นฆ่าประชาชน บาดเจ็บ ล้มตายเป็นจำนวนมหาศาล
1.เราขอประณามรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในการล้อมสังหารหมู่ประชาชน ในเหตุการณ์การชุมนุมในเดือนเมษายน –พฤษภาคม ที่ผ่านมาและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องแสดงความรับผิดชอบในฐานะผู้นำรัฐบาลด้วยการออกมาขอโทษต่อเหตุการณ์รุนแรงดังกล่าว
2.รัฐบาลหยุด ข่มขู่ คุกคาม ตามล่าสังหาร เยาวชน นักศึกษา นักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและ แกนนำในระดับพื้นที่ภาคอีสานทันที
3.ขอเรียกร้องให้ยกเลิก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ภาคอีสาน เพื่อให้ประชาชนทุกฝ่ายได้แสดงออกทางความคิดได้อย่างเสรี
สหพันธ์นิสิตนักศึกษาภาคอีสานพร้อมเป็นส่วนหนึ่งกับพี่น้องคนอีสานผู้รักประชาธิปไตยและความเป็นธรรมและร่วมต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ยั่งยืนต่อไป
อาวุธอาจจะมีอานุภาพอย่างมหาศาล แต่อำนาจอันยิ่งใหญ่ไม่ได้อยู่ที่ปืน รถถัง ทหาร ถึงมันจะมีความสามารถที่จะเข่นฆ่าผู้คน แต่อำนาจที่แท้จริงอยู่ในความพร้อมที่จะตายของประชาชนผู้รักประชาธิปไตยและความเป็นธรรมในสังคม ของผู้คนเหล่านั้นต่างหาก ทำให้การต่อสู้ เสียสละ นำมาสู่ซึ่งชัยชนะของการต่อสู้เพื่อ เสรีภาพ ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
                                                                            อำนาจสูงสุดเป็นของราษฎรทั้งหล
                                                                                 นายพัฒนศักดิ์ อภัยสม
                                                                     เลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาภาคอีสาน(สนนอ.)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net