Skip to main content
sharethis

กลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 100 คน รอต้อนรับ “วิษณุ กมลแมน” หรือเล้ง หลังพ้นโทษข้อกล่าวหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ วันนี้ ด้านทนาย นปช.เผยเตรียมยืนฟ้องนายกฯ - ศอฉ. - ธาริต ดำเนินคดี นปช.ไม่ชอบ ขณะอดีตนักโทษคนเสื้อแดงที่ถูกปล่อยตัวพบนายกฯ ที่อาคารรัฐสภา ปิดห้องเจรจา ห้ามสื่อเข้าสังเกตการณ์

 

วันนี้ (11 พ.ย.53) เวลาประมาณ 09.00 น.บริเวณด้านหน้าเรือนจำคลองเปรม ศูนย์ข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบเหตุสลายชุมนุมเม.ย.-พ.ค.53 (ศปช.) ร่วมกับ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) พร้อมญาติผู้ต้องขังและกลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 100 คน ได้นัดหมายกันมารอต้อนรับและให้กำลังใจนายวิษณุ กมลแมน หรือเล้ง อายุ 19 ปี ซึ่งถูกทหารจับกุมเมื่อวันที่ 15 พ.ค.53 เวลาประมาณ 16.30 น. บริเวณใกล้กับปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ปากซอยรางน้ำ ขณะที่กำลังช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ จากนั้นนายวิษณุถูกส่งฟ้องศาลในวันที่ 17 พ.ค.53 นายวิษณุถูกตัดสินจำคุก 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ด้วยข้อกล่าวหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และมีกำหนดพ้นโทษในวันนี้ 
 
อย่างไรก็ตาม หลังจากผู้มาให้การต้อนรับจำนวนหนึ่งเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมก็ได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่เรือนจำว่า นายวิษณุได้รับการปล่อยตัวตั้งแต่เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น.ก่อนเวลานัดหมาย ทำให้คลาดกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาคอยให้กำลังใจ จึงมีการพยายามโทรศัพท์ติดต่อนายวิษณุเพื่อยืนยันว่ามีการปล่อยตัวจริง หลังจากนั้นนายวิษณุก็ได้เดินทางกลับมาที่บริเวณหน้าเรือนจำเพื่อพบปะกับผู้มารอรับขวัญ ในสภาพสวมกางเกงขาสั้น และเสื้อยืดคอกลมสีเหลือง จากนั้นกลุ่มคนที่มารอรับได้ทำการมอบเสื้อแดง และเงินให้สำหรับช่วยเหลือเป็นค่าเดินทาง
 
 
เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาพูดคุยกับนายวิษณุ จากนั้นนายวิษณุจึงได้เดินออกมาพูดคุยกับคนเสื่อแดง และมีการมอบเสื้อแดงรณรงค์ "ปล่อยตัวนักโทษการเมือง" ให้สวมใส่
 
นายวิษณุ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ผ่านมาเขาเคยไปรวมการชุมนุมกับคนเสื้อแดงบ้าง และขณะถูกจับกุมเขาถูกทำร้ายร่างกายอย่างหนัก ซึ่งเหตุการณ์เป็นไปอย่างรวดเร็วมาก อย่างไรก็ตามขณะที่ถูกคุมขังในเรือนจำเจ้าหน้าที่เรือนจำดูแลด้วยดี และการอยู่ร่วมกับผู้ต้องขังคนอื่นๆ ไม่มีปัญหาอะไร 
 
นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า ระหว่างถูกคุมขังตนได้พบกับคนเสื้อแดงที่ถูกจับหลายคน และอยากขอร้องให้ช่วยเหลือคนที่ยังถูกคุมขังอยู่ด้วย ถ้ามีโอกาสคนข้างในก็อยากให้ถูกปล่อยตัวออกมา ส่วนตัวเขาหลังจากนี้หากมีโอกาสก็จะมาเข้าร่วมกิจกรรมของคนเสื้อแดงอีก
 
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้าที่นายวิษณุจะขึ้นพูดกับสื่อมวลชน พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ได้เข้ามาพูดคุยด้วย โดยได้เตือนในเรื่องการแสดงออกว่าให้อยู่ในกฎเกณฑ์ อย่าแสดงออกมากเกินไป เพราะอาจจะส่งผลต่อคนที่ยังถูกคุมขังอยู่หรือคนที่กำลังจะถูกประกันตัวออกมาได้ ซึ่งจะไม่เป็นผลดี
 
 
 กิจกรรมของคนเสื้อแดงในวันนี้
 
ตำรวจเข้าเจรจากับกลุ่มคนเสื้อแดงให้ย้ายพื้นทีรวมตัวเนื่องจากกีดขวางทางรถเข้าออก
 
 มีการนำแผงเหล็กมากันบริเวณทางเข้า หลังคนเสื้อแดงย้ายจุดรวมตัวแล้ว
 
ในส่วนของบรรยากาศด้านหน้าเรือนจำคลองเปรม มีการจัดกิจกรรมต้อนรับนายวิษณุโดยมีการขึงผ้าใบที่มีข้อความต้อนรับซึ่งมีภาพของนายวิษณุที่ใบหน้ามีร่องรอยจากจากการถูกทำร้าย และป้ายข้อความเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักโทษการเมือง พร้อมรายชื่อผู้ถูกจับกุมคุมขังกว่า 400 คน และมีการแสดงดนตรีร่วมขับกล่อม 
 
นอกจากนี้ นายระเบียบ พริ้งพงศ์ และ นางสุรีย์พร พริ้งพงศ์ พ่อและแม่ของ นายสุรชัย พริ้งพงศ์ อายุ 19 ปีผู้ต้องขังในคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่เดินทางมาจากจังหวัดนครราชสีมา เพื่อรอรับนายสุรชัย แต่ลูกชายไม่ได้รับการปล่อยตัวก็ได้มาร่วมพูดคุยกับคนเสื้อแดงในวันนี้ด้วย
 
นายระเบียบ พริ้งพงศ์ พ่อของ นายสุรชัย พริ้งพงศ์ ผู้ต้องขังในคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่ยังไม่ถูกปล่อยตัว กล่าวขอบคุณในความช่วยเหลือของคนเสื้อแดง
 
ตัวแทน สนนท.อ่านแถลงการณ์ต้อนรับ 
 
ด้านกลุ่มนักศึกษา สนนท.นำโดยน.ส.สุญญาตา เมี้ยนละม้าย นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โฆษก สนนท.มีการอ่านแถลงการณ์เพื่อเป็นการต้อนรับนายวิษณุด้วย โดยหลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมที่เรือนจำคลองเปรม ในช่วยบ่ายวันเดียวกันนี้ นักศึกษากลุ่มเดียวกันนี้จะไปยื่นจดหมายถึงสถานทูตอิตาลี และญี่ปุ่น เนื่องด้วยวันพุธที่ 10 และ 19 พ.ย.53 เป็นวันครบรอบ 7 เดือนการเสียชีวิตของนายฮิโร มูราโมโต้ ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวรอยเตอร์ ชาวญี่ปุ่น และช่างภาพอิตาลี นายฟาบิโอ โปเลนจิ เพื่อเป็นการแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต 
 
อนึ่ง จากข้อมูลของสมัชชาสังคมก้าวหน้าซึ่งร่วมประชาสัมพันธ์กับ ศูนย์ข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบเหตุสลายชุมนุม เม.ย.-พ.ค.53 (ศปช.) ในกิจกรรม “ต้อนรับเพื่อนสู่อิสรภาพ วิษณุ กมลแมน เราไม่ทอดทิ้งกัน” ระบุว่า ในวันที่ถูกจับนั้น หลังจากนายวิษณุและนายสุรชัย เพ็ชรพลอย อายุ 29 ปี ช่วยกันหามคนเจ็บข้ามกำแพงหลังปั๊มน้ำมันเอสโซ่ไปได้ พวกเขาเตรียมปีนข้ามกำแพง แต่ถูกทหารเข้ามาประชิดตัวและเอาปืนรุมจี้หัว ทหารกลุ่มนั้นได้รุมซ้อมพวกเขา ปลดทรัพย์ แล้วนำตัวส่งสถานีตำรวจ จากนั้นพวกเขาถูกส่งฟ้องศาล และถูกตัดสินจำคุก 6 เดือนด้วยข้อกล่าวหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยของกลางที่เจ้าหน้าที่รัฐใช้ฟ้องเอาผิด คือ “บัตร นปช.แดงทั้งแผ่นดิน” เท่านั้น 
 
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา ทางเรือนจำคลองเปรม ได้ทำการปล่อยตัว นายประยูร สุรพินิต ผู้ต้องขังอีกรายที่ถูกจับกุมในคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เช่นกัน
 
ทนาย นปช.ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน 
 
ทนาย นปช.เตรียมยืนฟ้องนายกฯ - ศอฉ. - ธาริต ดำเนินคดีนปช.ไม่ชอบ
 
ขณะที่นายคารม พลทะกลาง ทนายความกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งได้มารอรับผู้ต้องขังในวันนี้ด้วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการต่อไปด้วยว่า หลังจากนี้ทางทนายจะดำเนินการช่วยเหลือในเรื่องคดีแก่แนวร่วม นปช.ที่ถูกดำเนินคดีทั้งหมดที่ไม่ได้ความเป็นธรรมจากรัฐบาล และขณะนี้กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อเตรียมฟ้องกลับนายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นผู้ออกคำสั่งในขณะนั้น รวมถึงเจ้าหน้าที่ในระดับปฏิบัติการที่กระทำการรุนแรงเกินอำนาจหน้าที่ ในประเด็นความผิดที่มีความเสียหายชัดเจน เช่น การดำเนินคดีโดยไม่ชอบ ไม่มีการชันสูตรพลิกศพก่อน การรับสารภาพผิดที่อาจเป็นไปโดยมิชอบ และกระบวนการสืบสวนสอบสวนที่ล่าช้าทำให้ขั้นตอนการปล่อยตัวหรือขอประกันตัวต้องชะลอออกไป โดยเฉพาะกรณีที่ไม่มีความคืบหน้าในการหาข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิต 91 ศพ จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมด้วย
 
“การฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ถือว่าช้าเกินไป เพราะผู้ที่เป็นผู้ต้องหายังคงถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำ และคดีความผิดที่ถูกกล่าวหายังมีอายุความ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบว่าคดีจะสิ้นสุดลงเมื่อใด และเชื่อว่าการฟ้องกลับอาจทำให้มีรายละเอียดชัดเจนมากขึ้น” นายคารม กล่าว
 
 
 
 
2 อดีตนักโทษคนเสื้อแดงเข้าพบนายกฯ
 
ด้าน INN รายงานข่าวว่า อดีตนักโทษ 2 คน ที่ได้รับการประกันตัว ภายหลังจากที่ถูกจับกุม เนื่องจากเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดง ได้เดินทางเข้าพบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ ห้องวิปรัฐบาล อาคารรัฐสภา โดย นายสมหมายอินทนาคา หนึ่งในอดีตนักโทษ กล่าวว่า พวกตนได้เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดง แล้วถูกเจ้าหน้าที่จับกุมบริเวณสวนลุมพินี ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จากนั้น ศาลจึงตัดสินจำคุกเป็นเวลา 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา ที่ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และเรือนจำคลองเปรม 
 
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ได้รับโทษไปแล้ว 6 เดือน กระทรวงยุติธรรม ก็ได้มีการประกันตัว เพื่อให้พวกตนออกมาต่อสู้อุทธรณ์คดี หลังจากนั้น ตนก็ได้รับโทรศัพท์จากบุคคลนิรนาม ว่า นายกรัฐมนตรี ต้องการพบพวกตน จึงได้
เดินทางมายังรัฐสภา ในวันนี้ 
 
ขณะเดียวกัน ภายในห้องวิปรัฐบาลสื่อมวลชนก็ไม่ได้รับการอนุญาตให้เข้าไปทำข่าวแต่อย่างใด
 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net