Skip to main content
sharethis

ปมบึ้มสุไหงปาดีรับปีใหม่ส่อวุ่น หลังเจ้าหน้าที่ฯ พลีชีพคาชุดป้องกันระเบิด สงสัยประสิทธิภาพต่ำซ้ำรอย “จีที 200” บิ๊กสีกากีแจงหุ่นยนต์กู้บึ้มเสียจึงต้องเข้าไปในรัศมีทำลายล้าง แต่ยังตอบไม่ได้ทำไมถึงขั้นตายคาที่ “คนอีโอดี” แฉเอง บอมบ์สูทหมดอายุ-หุ่นยนต์ด้อยคุณภาพ

 
เหตุระเบิดรับปีใหม่ที่ ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 1 ม.ค.2554 กำลังตกเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง เมื่อตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ทำลายล้างวัตถุ หรือ อีโอดี เสียชีวิตคาชุดป้องกันระเบิดหรือ "บอมบ์สูท" ทั้งๆ ที่น่าจะบรรเทาแรงระเบิดได้ ขณะที่หุ่นยนต์ที่ใช้เก็บกู้ก็เสีย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องสังเวยชีวิต
 
โดยเหตุระเบิดรับปีใหม่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.45 น.วันที่ 1 ม.ค.2554 ร.ต.อ.หมัดอูเซ็ง เหมาะสะนิ ร้อยเวร สภ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส รับแจ้งว่าเกิดระเบิดที่บริเวณริมถนนตรงข้ามร้านขายผักเลขที่ 820/4 ถนนฉัตรวาริน เขตเทศบาลตำบลปะลุรู อ.สุไหงปาดี จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.พีระพล ณ พัทลุง ผู้กำกับการ สภ.สุไหงปาดี นายจำนัล เหมือนดำ นายอำเภอสุไหงปาดี พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ หัวหน้ากองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส (นปพ.บก.ภ.จว.นราธิวาส)
 
ในที่เกิดเหตุพบศพตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) สวมชุดบอมบ์สูท นอนจมกองเลือดอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ที่ล้มคว่ำอยู่ ทราบชื่อคือ ด.ต.กิตติ มิ่งสุข อายุ 50 ปี เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดสังกัดกองร้อย ตชด.447 บ้านเจาะวา อ.สุไหงปาดี โดยร่างกายของ ด.ต.กิตติ แหลกเหลวเพราะอานุภาพของระเบิด ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงปาดี อาสารักษาดินแดน (อส.) ประจำที่ว่าการอำเภอสุไหงปาดี และประชาชน รวม 10 ราย พลเมืองดีช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลไปก่อนแล้ว
 
จากการตรวจจุดเกิดเหตุโดยละเอียด พบเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก น้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ กระจายเกลื่อนพื้นถนน แรงระเบิดยังทำให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายเล็กน้อยจำนวน 2 หลังด้วย
 
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปดูอาการผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาล และพบว่า จ ส.ต.กฤษดา ทองโอ ผู้บังคับหมู่งานจราจร (ผบ.หมู่ จร.) สภ.สุไหงปาดี ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 นาย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บที่เหลืออีก 9 คน อาการไม่สาหัสมากนัก ประกอบด้วย ร.ต.อ.วรวิเชียร คงถม หัวหน้าชุดอีโอดี ตชด.447 ด.ต.เจริญ โต๊ะหมอ เจ้าหน้าที่ชุดอีโอดี ส.ต.อ.ศราวุธ ชูภักดี ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.สุไหงปาดี อส.อุสตาแม ยือละ อส.ธีระศักดิ์ สะแลแม ทั้งคู่เป็น อส.ประจำที่ว่าการอำเภอสุไหงปาดี ด.ช.รุสดี เจ๊ะอาแว น.ส.รุสดียา อาแวกะจิ นายอนันต์ ทองหลอด และ นายรอปีอาม อารง
 
สอบสวนพยานผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีชายวัยรุ่น 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดใกล้ๆ ร้านขายผัก แล้วนำวัตถุต้องสงสัยใส่ในตะกร้าวางไว้ริมถนนตรงข้ามร้านขายผักอย่างมี พิรุธ จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
 
จากนั้น ร.ต.อ.วรวิเชียร ได้นำชุดกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี) ตชด.447 มาถึง และ ด.ต.กิตติ ผู้ตาย ได้สวมชุดบอมบ์สูทเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย โดยมี จ.ส.ต.กฤษดา เข้าสังเกตการณ์ จังหวะนั้นเองคนร้ายที่แฝงตัวอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุ ได้ใช้โทรศัพท์มือถือกดจุดชนวนระเบิดจนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้ ด.ต.กิตติ เสียชีวิตคาที่ ส่วน จ.ส.ต.กฤษดา ได้รับบาดเจ็บสาหัสและไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบที่มุ่งก่อ เหตุร้ายช่วงเทศกาลปีใหม่ตามที่หน่วยข่าวเคยแจ้งเตือนเอาไว้
 
 
บิ๊ก ตร.แจงหุ่นยนต์เก็บกู้เสีย
 
การเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่อีโอดีคาชุด "บอมบ์สูท" และการไม่ใช้หุ่นยนต์กู้ระเบิดเข้าปฏิบัติงาน จนเกิดความสูญเสียขึ้น ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในหมู่เจ้าหน้าที่ด้วยกันเองที่ตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพของบอมบ์สูท เนื่องจากทุกคนเข้าใจว่าเมื่อสวมใส่แล้วสามารถป้องกันและบรรเทาแรงระเบิดได้ อย่างน้อยก็ระดับหนึ่ง
 
พล.ต.อ.วิเชียร์ พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองผบ.ตร. และ พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้เดินทางลงพื้นที่ด้วยตนเอง จากการตรวจสอบพบว่าหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิดเกิดขัดข้อง ทำให้ ด.ต.กิตติ เข้าไปเก็บกู้เอง โดยสวมชุดบอมบ์สูท ซึ่งระหว่างการเก็บกู้นั้นเกิดระเบิดขึ้น ทำให้ ด.ต.กิตติ เสียชีวิตทันที และสะเก็ตระเบิดยังไปโดน จ.ส.ต.กฤษดา ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 80 เมตรเสียชีวิตด้วย แสดงว่าวัตถุระเบิดมีอานุภาพร้ายแรงมาก
 
 
ยังมึนสาเหตุตายคา "บอมบ์สูท"
 
ขณะที่ พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบช.ศชต.) ตอบข้อถามของผู้สื่อข่าวกรณีเจ้าหน้าที่สวมชุดป้องกันระเบิด (บอมบ์สูท) แล้ว แต่ไม่สามารถป้องกันได้ ว่า ในเบื้องต้นยังไม่สามารถตอบได้ ต้องรอการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญก่อนว่าเป็นเพราะเหตุใด
 
อนึ่ง ประสิทธิภาพของอุปกรณ์ป้องกันระเบิด เคยถูกตั้งคำถามมาแล้วกรณีเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด จีที 200 ซึ่งเจ้าหน้าที่นำไปใช้งานแล้วเกิดความผิดพลาด ตรวจหาวัตถุระเบิดไม่พบ จนเกิด "คาร์บอมบ์" ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 6 ต.ค.2552 และเกิดระเบิดในตลาดสด อ.เมืองยะลา ในวันที่ 16 ต.ค.ปีเดียวกัน กระทั่งมีการจัดทดสอบเครื่อง จีที 200 และพบว่าไม่มีประสิทธิภาพในการตรวจหาระเบิดได้ กระทั่งรัฐบาลต้องสั่งเลิกใช้ในที่สุด
 


อีโอดีแฉเอง “บอมบ์สูท” หมดอายุ-หุ่นยนต์ด้อยคุณภาพ
 
ด้านนายตำรวจประจำหน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดรายหนึ่ง ซึ่งปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาหลายปี กล่าวว่า เหตุระเบิดที่ ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี เจ้าหน้าที่ได้ทำตามขั้นตอนการเก็บกู้ทุกประการ ไม่ได้ประมาท แต่ที่เกิดความผิดพลาดครั้งใหญ่ เพราะคนร้ายกำหนดเป้าสังหารเป็นชุดอีโอดี
 
"ก่อนจะเกิดระเบิด เจ้าหน้าที่ตำรวจกับทหารเข้าไปสังเกตการณ์ก่อนแล้ว 2 ครั้ง แต่คนร้ายไม่กดจุดชนวน กระทั่งชุดอีโอดีเข้าไปจึงกดระเบิด ฉะนั้นคนร้ายจึงมีเป้าที่ชุดอีโอดี และระเบิดที่คนร้ายใช้ก็มีน้ำหนักถึง 5 กิโลกรัม และยังเป็นระเบิดแรงสูงที่หมายเอาชีวิตด้วย"
 
ต่อข้อถามถึงชุด "บอมบ์สูท" ที่เจ้าหน้าที่อีโอดีสวมใส่ เหตุใดจึงไม่สามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้ นายตำรวจนักกู้ระเบิด กล่าวว่า ชุด "บอมบ์สูท" ชุดนี้ผลิตเมื่อปี ค.ศ.2004 ตามหลักแล้วอายุการใช้งานที่มีประสิทธิภาพจะอยู่ที่ 5 ปี ชุดนี้ถ้าพูดตรงๆ คือหมดอายุแล้ว
 
"ที่ตัวบอมบ์สูทจะมีรหัสเขียนเอาไว้ ตัวนี้เป็นอีโอดี 8 แต่เพื่อนๆ บางหน่วยได้อีโอดี 9 กันแล้ว เมื่อชุดบอมบ์สูทใช้งานนานเกินไป จะทำให้ประสิทธิภาพการป้องกันต่ำลง อย่างไรก็ดี ชุดบอมบ์สูทจะสามารถป้องกันระเบิดได้ที่น้ำหนัก 1.5 ปอนด์ แต่ระเบิดที่คนร้ายใช้ครั้งนี้หนักเกือบ 3 ปอนด์ (5 กิโลกรัม) และยังเป็นดินระเบิดแรงสูง ประกอบกับหุ่นยนต์เก็บกู้ที่ใช้ทำงานก็ไม่มีประสิทธิภาพ เพราะผลิตจากสถาบันการศึกษาภายในประเทศ ต่างจากหุ่นที่ผลิตจากอเมริกาที่มีคอมพิวเตอร์ควบคุม ทั้งหมดจึงกลายเป็นช่องว่างทำให้เกิดความสูญเสียอย่างมหันต์" นายตำรวจนักกู้ระเบิด ระบุ
 
 
เทพาก็ป่วน-ลอบบึ้มทหารพรานเจ็บ 3
 
ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 31 ธ.ค. เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณหลุมขยะข้างร้านขายก๋วยเตี๋ยว ในท้องที่บ้านควนตีหมุน หมู่ 7 ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา ทำให้มีทหารพรานได้รับบาดเจ็บ 3 นาย คือ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) ชัชวาล ศรีปราชญ์ อส.ทพ.วรชัย ฉายแสง และ อส.ทพ.สุรัช สุสมแก้ว โดยทั้งหมดสังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4213 กรมทหารพรานที่ 42 และได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย
 
ทั้งนี้ เหตุเกิดขณะทหารพรานทั้งหมดกำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัดบนถนนสายบ้านตาแปด-บ้าน ควนตีหมุน แล้วได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุคนร้ายลอบเผายางรถยนต์ จึงจัดกำลังเดินเท้าไปตรวจสอบ ระหว่างทางถูกดักระเบิดได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยดังกล่าว เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
 
 
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net