Skip to main content
sharethis

ครม.เห็นชอบงบ 9,190 ล้านบาทจัดทำแผนปฏิบัติการปฏิรูป ประเทศไทยประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ นายกฯนั่งเป็นประธานคณะกรรมการสั่งตามงานทุกเดือนเพื่อให้ได้ผลตามเป้า / เบรกเก็บภาษีโรงกวดวิชา

11 ม.ค. 54 - นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแผนปฏิบัติการปฏิรูปประเทศไทยประกอบด้วยยุทธศาสตร์ 4 ด้าน พร้อมอนุมัติงบประมาณดำเนินการ9,190.30 ล้านบาท คือ 1. ยุทธศาสตร์การสร้างอนาคตของชาติด้วยการพัฒนาคนเด็กและเยาวชน วงเงิน 1,636.50 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณปี 2554 วงเงิน 1,286.50 และงบปี 2555 อีก 278 ล้านบาท และปี 2556-2557 อีก 72 ล้านบาท นอกจากนั้นในปี 2554 จะมีเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ(SAL)575 ล้านบาท และเงินสมทบจากภาคเอกชนด้วย 2.ยุทธศาสตร์การยกระดับคุณภาพชีวิตของ ประชาชนและขยายระบบสวัสดิการสังคม วงเงิน 5,447.80 แบ่งเป็นปีงบ 2554 วงเงิน 3,868.80 ล้านบาท และงบปี 2555 วงเงิน 1,579ล้านบาท 3.ยุทธศาสตร์การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม การเมือง และความไม่เท่าเทียมในสังคม ตั้งงบประมาณปี 2554 วงเงิน 150 ล้านบาท จากนั้นการบริหารจัดการจากงบปกติและขอตั้งงบประมาณต่อเนื่องในปี 2555 4.ยุทธศาสตร์การสร้างระบบเศรษฐกิจที่เท่าเทียมและเป็นธรรมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งงบประมาณรองรับในปีงบ 2554วงเงิน 1,951 ล้านบาท

นอกจากนี้ มีการบริหารจัดการกลไกขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการฯ ใช้งบ 5 ล้านบาทด้วย พร้อมกันนี้ได้กำหนดวิธีการบริหารโครงการให้มีกลไกระดับชาติในการบูรณาการแผนปฏิบัติการปฏิรูปประเทศไทยในลักษณะคณะกรรมการขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศไทย โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมีหน่วยงานกลางเป็นองค์ประกอบหลัก อาทิ สำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และ ให้มีคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการทั้ง 4 ด้าน เพื่อกำกับและรายงานผลการดำเนินงานต่อคณะกรรมการระดับชาติ ตลอดจน จัดตั้งสำนักงานประสานงานร่วมภาคเอกชนในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคม(CSR ) ขึ้นในสำนักนายกรัฐมนตรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในยุทธศาสตร์ที่ 4 คือ ยุทธศาสตร์การสร้างระบบเศรษฐกิจที่เท่าเทียมและเป็นธรรมเป็นมาตรการเดียวกับ ที่นายกรัฐมนตรี แถลงเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมาเพื่อมอบของขวัญให้ประชาชน 9 ข้อ ตามที่นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ใช้ชื่อว่าประชาวิวัฒน์ และมีชื่อดั้งเดิมว่า เร่งรัฐปฏิบัติการด่วนเพื่อคนไทยซึ่งการใช้ชื่อเรียกโครงการนี้เคยมีความเห็นขัดแย้งกันภายในพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งที่ประชุม ครม.ได้เห็นชอบกรอบเวลาดำเนินการคือ ในเดือนม.ค.นี้ ตั้งเป้าเริ่มลดอาชญากรรมในกรุงเทพ 20%ภายใน 6 เดือน และค่าไฟฟรีสำหรับผู้ใช้ไฟน้อยกว่า 90 หน่วยต่อเดือน เป้าหมายต่อมาในเดือนมี.ค.มอเตอร์ไซค์รับจ้างจะถูกกฎหมาย 100% ทำมาหากินได้เป็นธรรมให้ผู้ประกอบอาชีพเข้าถึงแหล่งทุนและในเดือนเม.ย.จะมีการเพิ่มจุดผ่อนผันให้แม่ค้าหาบเร่แผงลอยและเดือนมิ.ย.จะขยายประกันสังคมให้ ครอบคลุมชาวไทยทุกคนจะลอยตัวก๊าซแอลพีจีสำหรับภาคอุตสาหกรรม ลดต้นทุนราคาอาหาสัตว์และพันธุ์สัตว์และขายไข่แบบกิโล และตั้งเว็บไซต์ฐานข้อมูลราคาในช่องทางต่างๆ

ครม.อนุมัติตั้ง"สน.สุวรรณภูมิ"ดูแลชาวต่างชาติ

นอกจากนี้ยังมีมติ ครม.ในการจัดตั้งสถานีตำรวจที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดูแลปัญหาที่เกิดกับนักท่องเที่ยวเป็นกรณีพิเศษ โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดหลักเกณฑ์ กติกา คุณสมบัติ รวมทั้งการแต่งตั้งโยกย้ายบุคลากร โดยคนที่จะเข้าไปทำงานในสถานีตำรวจต้องมีความสามารถรองรับปัญหาที่จะเกิดในสนามบินได้ รักษาความเรียบร้อยรักษาชื่อเสียงประเทศชาติ เป็นการทำงานในระดับสากลจะต้องพูดภาษาต่างประเทศได้ และมีการกำหนดสถานีให้อยู่ภายใต้การดูแลของตำรวจภูธรภาคที่ 1 และให้มีการสนับสนุนงบประมาณโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยว

ครม.เบรกเก็บภาษีโรงกวดวิชา

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณา กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เสนอให้กระทรวงการคลัง พิจารณาจัดเก็บภาษีโรงเรียนกวดวิชา ที่มีลักษณะเป็นการประกอบธุรกิจ และดำเนินการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้เหมาะสมสอดคล้อง  ตลอดจนให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กำหนดให้มีระเบียบข้อบังคับในการตรวจสอบ และปรับปรุงเรื่องความปลอดภัยของอาคารสถานที่ ก่อนการอนุมัติให้ใช้เป็นสถานที่สำหรับการเรียนกวดวิชา โดย ครม.มีมติเห็นว่ายัง ไม่ควรจัดเก็บภาษีโรงเรียนกวดวิชาในขณะนี้ และมอบให้ ศธ. กระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกันศึกษากรณีดังกล่าวว่าจะดำเนินการอย่างไร ที่จะให้โรงเรียนกวดวิชาไม่ดำเนินการแสวงหากำไรเกินควร ตลอดจนให้ไปศึกษาว่าจะจัดระบบการศึกษาอย่างไร ให้มีคุณภาพเพื่อแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุในการที่นักเรียนจะต้องมีคุณภาพจากห้องเรียน

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า ครม.ยังได้ตั้งข้อสังเกต กรณีมีครูบางรายแทนที่จะใช้เวลาสอนนักเรียนในห้องเรียนอย่างเต็มที่ แต่กลับมาสอนกวดวิชา โดยมอบให้ ศธ.ไปตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเคร่งครัด เพื่อให้การพัฒนาคุณภาพการศึกษาเกิดจากห้องเรียน อีกทั้งให้กวดขันเรื่องความปลอดภัยของอาคารสถานที่ โดยโรงเรียนกวดวิชา ทุกแห่งต้องจัดให้มีทางหนีไฟ ติดตั้งเครื่องดับเพลิง มีระบบส่องสว่าง และสัญญาณเตือนภัย เป็นต้น

ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: ไทยรัฐ, สยามรัฐ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net