Skip to main content
sharethis

"พธม." เพิ่มมาตรการกดดัน รบ. ขู่ปูดคอร์รัปชั่น "จำลอง" ฮึ่มคราวนี้เหลืออด แย้มไม่แน่บุกทำเนียบฯ "สุเทพ" ลั่น 3 ข้อเสนอ พธม.ทำไม่ได้ จะทำให้ประเทศเสียหาย

26 ม.ค. 54 - พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) นายประพันธ์ คูณมี โฆษกและผู้ประสานงานการชุมนุมรวมพลังปกป้องแผ่นดิน นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่ม พธม. พร้อมผู้ชุมนุมประมาณ 500 คน ยังคงปักหลักชุมนุมบริเวณแยกมิสกวัน เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 มกราคม จากนั้นร่วมกันแถลงข่าวเรื่อง "การชุมนุมรวมพลังปกป้องแผ่นดิน" ว่าจะชุมนุมอย่างต่อเนื่อง โดยมีข้อเรียกร้องเดิม 3 ข้อ คือ เรียกร้องให้ยกเลิกเอ็มโอยู 2543 ให้ถอนตัวจากคณะกรรมการมรดกโลก และผลักดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ทับซ้อน หากรัฐบาลไม่ทำตามจะเพิ่มมาตรการกดดัน โดยปราศรัยเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น

นายประพันธ์กล่าวว่า การที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมตรี และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุหากยกเลิกเอ็มโอยู หวั่นจะเกิดสงครามนั้นความจริงไม่ใช่ เพราะด้วยศักยภาพของกัมพูชาไม่มากพอทำสงครามได้อยู่แล้ว และฝ่ายที่ไม่อยากเลิกคือ กัมพูชา เพราะจะสูญเสียผลประโยชน์ ดังนั้นการพูดลักษณะนี้ของนายสุเทพ เท่ากับเอื้อประโยชน์ให้สมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา

"สำหรับเวทีวันนี้ เราจะดำเนินการตามกฎหมายกับนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ และผู้เกี่ยวข้องที่มีพฤติกรรมสมคบกัน โดยข้อกล่าวหามีพฤติการณ์สมคบกัน ทำให้ราชอาณาจักรหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของราชอาณาจักรไทยตกอยู่ใต้รัฐต่าง ประเทศ และกรณีเป็นปรปักษ์กับชาติของตน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 จะยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อถอดถอนนายก รัฐมนตรีกรณีเพิกเฉยต่อปัญหาคนไทย 7 คนที่ถูกจับกุม" นายประพันธ์กล่าว

นายประพันธ์กล่าวว่า ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ นายตายแน่ มุ่งมาจน และนายวีระ สมความคิด แกนำเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีลักลอบเข้า เมืองกัมพูชาโดยผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นผู้เสียหายสามารถยื่นคำฟ้องต่อศาลฎีกา ตามมาตรา 270 และมาตรา 275 เพื่อถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือจะยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  โดยให้ทีมกฎหมายร่างคำฟ้อง และข้อกล่าวหาเพื่อแสดงว่านายกฯ บกพร่องไม่ทำหน้าที่รักษาอธิปไตย นอกจากนั้นยังปกป้องผลประโยชน์ของกลุ่ม และนักการเมือง

"เราจะนำเรื่องทุจริตไปปราศรัยบนเวที โดยจะพูดถึงพรรคร่วมว่า มีพฤติกรรมทุจริตอย่างไรบ้าง อาทิ เรื่องประมูลข้าว หรือ เรื่องที่นายสุเทพต้องชี้แจงทำไมต้องไปเป็นประธานคณะกรรมการปาล์มน้ำมันแห่ง ชาติ ขอตั้งข้อสังเกตเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน รัฐบาลนี้เหมือนกับที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำ พธม.พูดว่าไม่ได้แตกต่างจากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่ยังเลวร้ายมากกว่า เพียงแต่อาศัยภาพลักษณ์ของนายอภิสิทธิ์มาช่วย" นายประพันธ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าตำรวจให้ชุมนุม 4-5 วันเท่านั้น พล.ต.จำลองกล่าวว่า คงไม่ได้ เพราะครั้งนี้คือการชุมนุมปกป้องดินแดน ถ้าอยากให้ชุมนุมเลิกเร็วง่ายนิดเดียว บอกให้นายกฯทำตามข้อเรียกร้อง เพราะปัญหาเรื่องดินแดนเราถูกกัมพูชารุกหนักมาตลอด "มีคนถามว่าจะไปทำเนียบอีกไหม ก็ไม่แน่ คราวนี้เหลืออดเป็นเรื่องบ้านเมือง ต้องช่วยกันปกป้อง ตอนนี้ก็อยู่ที่ความเหนียวแน่น ความอดทนของผู้ชุมนุม ส่วนเรื่องจำนวนนั้นเป็นส่วนประกอบ"

รมว.กลาโหมเผย รบ.พร้อมเจรจากับ"พันธมิตร" เพื่อยุติการชุมนุม รับห่วงไม่อยากให้มีม็อบ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 มกราคม ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานในการประชุมสภากลาโหม ถึงการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ว่าเราทำไปตามหน้าที่ เป็นเรื่องของตำรวจที่จะดูแล และผู้ชุมนุมก็ชัดเจนและทราบดีอยู่แล้วว่าจะปฏิบัติอย่างไร ซึ่งทางตำรวจมีขั้นตอนในการดำเนินการอยู่ และเป็นไปตามกฎหมาย ส่วนข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมนั้นเป็นเรื่องของรัฐบาลและทางนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ตอบไปแล้ว
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันว่าหากรัฐบาลไม่ทำตามข้อเสนอก็จะไม่ยุติการชุมนุม พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า คงต้องแก้ปัญหากัน รัฐบาลไม่ได้อยู่นิ่งเฉย ทำทุกอย่างเพื่อประเทศชาติ บ้านเมือง และประชาชนอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าได้ประเมินการชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุมหรือไม่ว่าอาจจะ ขยายเพิ่มเติม พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้ประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางตำรวจไม่ได้วิตกอะไร แต่ตนก็ห่วงและไม่อยากให้มีการชุมนุม เพราะทุกอย่างเราสามารถพูดจากันได้

เมื่อถามว่าในฐานะที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตร ก็เคยเป็นทหารเราจะใช้ช่องทางนี้เจรจาพูดคุยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการอยู่ แต่คงไม่ถึงกับต้องคุยกับ พล.ต.จำลอง เพราะท่านก็อยากทำทุกอย่างเพื่อบ้านเมือง และรัฐบาลก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อบ้านเมืองเช่นกัน คงต้องพูดจากันว่ามีอะไรที่ พล.ต.จำลองสงสัย ซึ่งทุกอย่างนายกรัฐมนตรีก็ได้ชี้แจงแล้ว

มาร์คเล็งเปิดเวทีสาธารณะเจรจาพันธมิตรฯ

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะส่งตัวแทนและผู้ที่เกี่ยวข้องไปประสานเจรจากับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตย (พธม.) เกี่ยวกับข้อเรียกร้อง 3 ข้อ โดยจะเปิดเจรจาผ่านเวทีสาธารณะ ส่วนการยึดทำเนียบรัฐบาลตามที่กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศไว้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปพูดคุย พร้อมกับเชื่อว่าเป็นคนไทยด้วยกันน่าจะคุยกันได้ ขณะเดียวกันไม่ได้มีการเตรียมทำเนียบสำรองเอาไว้

"สุเทพ" ลั่น 3 ข้อเสนอ พธม.ทำไม่ได้ จะทำให้ประเทศเสียหาย

ที่ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ออกมาเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลว่า ตนก็ยังมองโลกในแง่ดีอยู่ และเคารพในความเห็นของทุกฝ่าย และตั้งสมมติฐานว่าทุกฝ่ายน่าจะมีความหวังดีต่อบ้านเมือง เพียงแต่มุมมองไม่เหมือนกันก็จะได้พูดคุยเจรจากัน

"ที่กลุ่มพันธมิตร ชุมนุมและตั้งเงื่อนไขไว้ 3 ข้อนั้น ขอเรียนว่าเป็นเงื่อนไขที่ปฏิบัติยาก ปฏิบัติไม่ได้ ขืนปฏิบัติอย่างนั้น ก็ทำให้ประเทศชาติเสียหาย การไปเลิกเอ็มโอยู ปี 2543 ก็ทำให้เกิดกระทบกระทั่งที่ชายแดน จนอาจจเกิดเป็นการสู้รบกันได้ ส่วนที่จะให้รัฐบาลขับชาวเขมรพ้นประเทศไทยนั้น ต้องบอกว่าประเทศไทยมีชายแดนติดกับเพื่อนบ้านทุกด้าน ทั้งกัมพูชา ลาว พม่าและมาเลเซีย มีคนเชื้อชาติอื่นที่อาศัยในเขตดินแดนประเทศไทย เหมือนที่คนไทยชื้อชาติไทยต้องอาศัยอยูในเขตดินแดนของประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นรัฐบาลก็ต้องปฏิบัติกับคนเหล่านั้นด้วยดีและระมัดระวัง" นายสุเทพกล่าว

นายสุเทพกล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องมกรดโลก เราเป็นสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ จึงมีพันธะที่ต้องร่วมมือกันอยู่ ซึ่งประเด็นที่ พธม. ให้ถอนตัวออกจากคณะกรรมการมรดกโลกนั้น ประเทศไทยทำได้ หากสามารถพิสูจน์ให้ชาวโลกได้รับรู้ได้ว่าเราถูกรังแกและไม่ได้รับความเป็น ธรรม ซึ่งขณะนี้ยังเป็นเรื่องที่ไกลออกไป แต่ก็จะหาผู้รู้มาวิเคราะห์ถึงผลดีผลเสียด้วยแล้วชั่งน้ำหนักกันดู

เมื่อถามว่า พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำ พธม.บอกว่าถ้ารัฐบาลไม่ตอบรับข้อเรียกร้งของ อาจแวะเยี่ยมเยียนภายในทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพกล่าวว่า พล.ต.จำลองเป็นผู้ใหญ่แล้ว คงไม่ทำอะไรที่ขัดต่อสายตาคนทั้งประเทศ และคิดว่าท่านคงไตร่ตรองเป็นอย่างดี

ผบ.ตร.ยันไม่ยอมให้ม็อบบุกทำเนียบฯ

พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ยืนยันจะไม่ให้กลุ่มพันธมิตรฯ ชุมนุมปิดล้อมหรือบุกเข้าไปในทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภาอย่างเด็ดขาด เนื่องจากที่ผ่านมาถือว่าตำรวจยอมกลุ่มผู้ชุมนุมมากพอแล้ว โดยเฉพาะการให้ตั้งเวทีปราศรัยและปิดถนนโดยรอบที่ชุมนุม ทั้งนี้หากประเมินแล้วเห็นว่าสถานการณ์จะไปถึงจุดที่ตำรวจควบคุมไม่ได้ ก็จะเสนอให้รัฐบาลประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน ทันที

“ปณิธาน” ชี้ มทภ.2 ซ้อมรบริมพระวิหารตามแผนปกติ ปัด “มาร์ค” สั่งพิเศษ

ที่รัฐสภา นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่จะมีการซ้อมรบของทหารในกองทัพภาคที่ 2 ตามพื้นที่ชายแดนด้านเขาพระวิหาร ว่า จริงๆ แล้ว ทางกองทัพได้แจ้งให้ทางรัฐบาลทราบเป็นเวลาพอสมควรแล้ว ว่า จะมีการฝึกตามวงรอบในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว แล้วได้มีการสื่อสารไปยังทางกัมพูชาในเรื่องนี้ หลังจากนั้น เข้าใจว่า เมื่อเดือน ธ.ค.2553 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติงบประมาณให้กับกองทัพไปบริหารจัดการความมั่นคง เข้าใจว่า 500 ล้านบาท บริเวณพื้นที่ตามแนวชายแดน ยืนยันว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่ได้สั่งการให้มีการใช้กำลังในบริเวณพื้นที่ เป็นเรื่องของกองทัพที่เสนอเข้ามา และจะมีการบริหารจัดการความมั่นคง ซึ่งส่วนใหญ่นั้นจะเป็นเรื่องการทำงานตามปกติ ส่วนการจัดกำลังหรือว่าสลับกำลังนั้น ได้มีการสื่อสารไปยังกัมพูชา ซึ่งทางกัมพูชาก็รับทราบ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ทั้งนี้ ยังเป็นแผนงานตามปกติ เพียงแต่ว่าในรอบหลายปีที่ผ่านมา ทางกองทัพมีงบประมาณจำกัดในการฝึกซ้อม ซึ่งขณะนี้เลยของบเป็นกรณีพิเศษ เป็นกรณีๆ ไป เข้าใจว่า มี 2-3 ครั้งที่ได้มีการขอมาในการบริหารจัดการตามแนวชายแดน

นายปณิธาน กล่าวต่อว่า มีหลายแนวชายแดนที่ได้มีการอนุมัติไป แต่ว่าถือเป็นกรณีปกติ ยืนยันว่า เราไม่ได้มีเจตนาที่จะไปส่งสัญญาณอะไรที่ทำให้ทางเพื่อนบ้านไม่สบายใจ ขณะเดียวกัน ก็ทำให้เรามีขีดความสามารถในการบริหารจัดการในพื้นที่ได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในหลายบริเวณที่มีปัญหาอยู่
      
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในช่วงจังหวะเวลาที่เข้ามาพอดีกับการเผชิญหน้าระหว่างกันกับเรื่องของปัญหา ภาคใต้ จะไม่ทำให้กัมพูชาเข้าใจว่ารัฐบาลต้องการแสดงแสนยานุภาพ นายปณิธาน กล่าวว่า เขาได้รับทราบก่อนหน้าเป็นเดือนแล้ว ฉะนั้น ไม่ได้มีปัญหาอะไรทางทหารก็ได้มีการแจ้งมา เพราะปกติเวลามีการฝึกซ้อมก็จะมีการแจ้งเตือนให้ทราบซึ่งกันและกัน ในบางกรณีจะมีผู้สังเกตการณ์เข้ามา เมื่อถามว่า กรณีนี้ได้มีการแจ้งกัมพูชาไปก่อนล่วงหน้า หรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า เข้าใจว่า ทาง พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สื่อสารไปแล้ว ในกลไกท้องถิ่น ถือว่าเป็นเรื่องปกติ
      
นายปณิธาน ยังกล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่ นายซก อาน รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะเข้าพบ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่า เขาแจ้งว่าจะมาแต่ยังไม่ได้กำหนดวัน ทั้งนี้ ยังรอการประสานงานกันอยู่

"บุญจง" สั่งพ่อเมือง ชี้แจงพันธมิตรฯ ห้ามเข้าสมทบการชุมชน ชี้มวลชนแค่ 3,500 คน

ที่กระทรวงมหาดไทย ระหว่างการประชุมผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทยกล่าวตอนหนึ่งว่าการชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้นขณะนี้ ผู้ว่าฯ คงทราบว่าการชุมนุมเกิดขึ้นต่อเนื่องหลังจากยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงมีการใช้สิทธิ ซึ่งสามารถทำได้ ยังไม่มีเหตุร้าย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางรัฐบาล รวมถึงกลุ่มต่างๆ ออกมาชุมนุมใน กทม. ซึ่งเมื่อวันที่ 25 ม.ค.นับเป็นวันชุมนุมครั้งแรก มีผู้เข้าร่วมประมาณ 3,500 คน ซึ่งมีการประกาศชัดเจนว่าไม่ชนะไม่เลิก ก็ถือว่า เป็นสิทธิของเขา
      
รมช.มหาดไทยจากพรรคภูมิใจไทยกล่าวต่อว่าสิ่งหนึ่งที่ต้องขอไปยังผู้ ว่าฯ คือ ต้องทำความเข้าใจต่อประชาชนที่อยู่ต่างจังหวัด เพราะประเด็นการชุมนุมของพันธมิตรฯ อาทิ ให้รัฐบาลถอนตัวออกจากคณะกรรมการมรดกโลก ยกเลิกเอ็มโอยู 43 ผลักดันชาวกัมพูชาออกจากประเทศ

"นายกฯ ประกาศชัดเจนว่าไม่สามารถทำตามได้แม้แต่ข้อเดียว หากทำตามก็จะทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ผู้ว่าฯจะต้องรับทราบ และนำไปถ่ายทอดนายอำเภอ ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้รู้ว่าการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ มีข้อเรียกร้องอะไร และทำไมรัฐบาลไม่สามารถปฏิบัติตามได้ และปฏิบัติตามแล้วมีผลกระทบอย่างไร หากประชาชนรู้ก็จะไม่มาเข้าร่วมการชุมนุมใน กทม. วันนี้ประเทศบอบช้ำ ทุกคนไม่อยากมาเป็นส่วนร่วมในการเผาบ้านเผาเมือง "
      
นายบุญจงย้ำตอนท้ายว่ากระทรวงมหาดไทยอยากให้บ้านเมืองสงบ หากไม่มีการเติมคนจากต่างจังหวัด เชื่อว่าคนต่างจังหวัดก็ไม่อยากมา เพราะไม่อยากเห็นความขัดแย้งกัน คนที่อยู่แถบชายแดนรู้ดี เขาอยากอยู่สงบ ค้าขายราบรื่น ถ้าประชาชนต่างจังหวัดรู้เหตุผล การชุมนุมก็ไม่รุนแรง

ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: สำนักข่าวอินโฟเควสท์, มติชนออนไลน์, ASTV ผู้จัดการออนไลน์, โพสต์ทูเดย์, สำนักข่าวไทย

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net