อัมสเตอร์ดัมยันอภิสิทธิ์ยังถือสัญชาติอังกฤษ เรียกร้องแถลงข้อเท็จจริงสลายชุมนุมเสื้อแดง

สำนักงานกฎหมายอัมสเตอร์ดัม แอนด์ เปรอฟ ของนายโรเบิร์ต อัมเสตอร์ดัมยันนายกรัฐมนตรีไทยยังคงถือสัญชาติอังกฤษ ระบุหากสละสัญชาติต้องทำการแถลงเมื่อบรรลุนิติภาวะ พร้อมเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ชี้แจงข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำฟ้องคดีต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ

วันนี้ (1 ก.พ. 54) นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความกลุ่ม นปช. แถลงที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เรียกร้องให้อภิสิทธิ์ชี้แจงข้อเท็จจริงในคำฟ้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ

โดยคำแถลงระบุว่า เมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา ทนายความที่ได้รับมอบอำนาจจากกลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งเป็นกระบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยในประเทศไทย ได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court หรือ ICC) เกี่ยวกับการกระทำของรัฐบาลไทย ที่ถือเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติในการใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมในระหว่างเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมปีที่แล้ว และในวันนี้ทนายความของกลุ่มคนเสื้อแดงได้เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ชี้แจงข้อเท็จจริงที่ระบุไว้ในรายงานฉบับดังกล่าว

“บรรดาเหยื่อของการใช้กำลังสลายการชุมนุมจำนวนมากมายได้รอคอยอย่างอดทนนานถึงเก้าเดือน เพื่อที่จะฟังคำตอบของอภิสิทธิ์ แต่อภิสิทธิ์กำลังตอบคำถามอย่างกำกวม โดยอ้างข้อกฎหมายว่าไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ตามกฎหมายระหว่างประเทศ” โรเบิร์ท อัมสเตอร์ดัม ทนายความของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการหรือ นปช. กล่าว “ครอบครัวชาวไทยนับพันครอบครัวต้องสูญเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากนโยบายของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ และขณะนี้เป็นเวลาที่เหมาะที่สุดที่นายกรัฐมนตรีจะออกมายอมรับผิดและพูดถึงความจริงของเรื่องราวที่เกิดขึ้น”

หลังจากที่มีการยื่นคำฟ้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ ซึ่งเปิดเผยแผนการใช้กำลังทางทหารในการฆาตกรรมแกนนำการชุมนุม นปช. และกลั่นแกล้งจับกุมและกล่าวโทษกลุ่มแกนนำ นปช. ปฏิกิริยาของรัฐบาลต่อคำฟ้องดังกล่าว กลับมุ่งไปที่ประเด็นข้อกฎหมายที่ทำให้ศาลอาญาระหว่างประเทศมีอำนาจพิจารณาคดีนี้ คือการที่นายอภิสิทธิ์มีสัญชาติอังกฤษ และจนถึงขณะนี้นายอภิสิทธิ์ก็ยังไม่ปฏิเสธแต่ประการใดว่าตนไม่มีสัญชาติอังกฤษ ซึ่งตามกฎหมายสัญชาติของอังกฤษ ปี 1948 อภิสิทธิ์จะคงถือสัญชาติอังกฤษตลอดชีวิตจนกว่าจะได้มีการสละสัญชาติอังกฤษ

“ไม่มีประเทศใดในโลกนี้ที่นายกรัฐมนตรีจะยังสามารถอยู่ในตำแหน่งต่อไปได้ ท่ามกลางข้อกล่าวหาว่าเขาละเมิดกฎหมายอาญาโดยก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ แถมยังไม่มีความกล้าแม้แต่ที่จะออกมาโต้แย้งว่าตนเองบริสุทธิ์” อัมสเตอร์ดัมกล่าว

“นับแต่วินาทีที่เรายื่นฟ้องต่อศาล ICC เราได้เปิดช่องแห่งแสงสว่างท่ามกลางบรรยากาศแห่งความหวาดกลัวที่อภิสิทธิ์สร้างขึ้น” อัมสเตอร์ดัมกล่าว “มีพยานและผู้รู้เห็นเหตุการณ์ที่กล้าเปิดเผยตัวมากขึ้น และข้อเรียกร้องของเราต่อผู้คนในกองทัพให้นำพยานหลักฐานของการกระทำความผิดของรัฐบาลอภิสิทธิ์มาเปิดเผยได้รับการตอบสนองมากขึ้น ตอนนี้ประชาชนคนไทยเริ่มเข้าใจมากขึ้นว่า ความยุติธรรมสามารถเกิดขึ้นได้จริง ไม่ว่าจะที่ศาล ICC หรือที่ใดก็ตาม และวิธีคิดที่เปลี่ยนไปครั้งนี้ มีแต่จะขยายตัวขึ้นท่ามกลางการใช้แทคติคสกปรกของนายกรัฐมนตรีรายนี้”

และหลังจากที่วานนี้ (31 ม.ค.) นายนายโรเบิร์ต อัมเสตอร์ดัม ได้แถลงถึงความคืบหน้าว่าทางสำนักงานกฎหมายอัมสเตอร์ดัมแอนด์เปรอฟได้ดำเนินการฟ้องร้องรัฐบาลไทยต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ กรณีการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง ซึ่งแม้ว่าประเทศไทยจะยังมิได้เป็นภาคีศาลอาญาระหว่างประเทศ แต่ทางสำนักงานกฎหมายอัมสเตอร์ดัมแอนด์เปรอฟอ้างเหตุว่าอภิสิทธิ์เป็นพลเมืองสหราชอาณาจักรโดยการเกิด ซึ่งสหราชอาณาจักรเป็นภาคีและและอนุวัตรตามธรรมนูญกรุงโรมแล้วว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศแล้ว

โดยสำนักงานกฎหมายอัมสเตอร์ดัมแอนด์เปรอฟ อ้างอิงตัวกฏหมายสัญชาติอังกฤษ ปี 1984 ซึ่งมาตรา 4 ระบุว่า บุคคลใดที่เกิดในสหราชอาณาจักรหลังวันที่กฏหมายนี้มีผลใช้บังคับ บุคคลนั้นย่อมได้สัญชาติอังกฤษ เว้นแต่เป็นบุตรของบุคลต่างชาติที่ได้รับเอกสิทธิ์ทางการทูต หรือเป็นบุตรของบุคคลต่างชาติที่ถือว่าเป็นศัตรูของราชอาณาจักร

ทั้งนี้ ทางสำนักงานฯ ระบุว่า นายอภิสิทธิ์ ได้สัญชาติอังกฤษโดยการเกิด และหากจะสละสัญชาติอังกฤษ ต้องทำเมื่อตอนบรรลุนิติภาวะตามมาตรา 19 ซึ่งระบุว่าบุคคลที่ถือสัญชาติอังกฤษและถือสัญชาติของรัฐต่างชาติ ต้องทำการประการสละสัญชาติ และตราบเท่าที่ยังไม่มีการประกาศดังกล่าว บุคคลนั้นยังถือเป็นพลเมืองอังกฤษ

ดังนั้น ตามกฏหมายอังกฤษ อภิสิทธิ์จะมีสัญชาติอังกฤษอยู่จนกว่าจะมีการสละสัญชาติ

ท้ายคำแถลงระบุว่า สนใจสามารถอ่านและดาวน์โหลดข้อมูลและวีดีโอของเหตุการณ์และถ้อยคำเบิกความของพยานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บได้จาก http://www.thaiaccountability.org และสำเนาคำฟ้อง ICC และเอกสารประกอบอยู่ที่ http://www.robertamsterdam.com/thailand

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท