Skip to main content
sharethis

กรรมการกำกับกิจการพลังงาน รับฟังปัญหาจากเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าชีวมวล เผยพบบางบริษัทก่อสร้างไม่ได้รับอนุญาต พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการดำเนินงานบริษัทโรงฟฟ้า เพื่อติดตามผลกระทบกับชาวบ้านในพื้นที่

คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ไม่รับพิจารณาโรงไฟฟ้าบ้านตาก จ.ตาก เพราะก่อสร้างก่อนได้รับอนุญาต กรณีบัวสมหมาย ไบโอแมส จำกัด จ.อุบลราชธานี ขุดบ่อน้ำทำชาวบ้านเดือดร้อน สั่งยกเลิกได้ ส่วนกรณีบริษัทพลังงานสะอาดดี 2 จ.เชียงราย เป็นงง ไม่ได้รับจดหมายแจ้งว่าไม่ให้สร้างจากจังหวัด ทั้งที่มีเอกสารแจ้งผลแล้ว พร้อมเดินหน้าตั้งกรรมการแก้ไขปัญหาตามข้อเสนอของเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบ จากโรงไฟฟ้าชีวมวล หากพบว่าไม่โปร่งใส ทำชาวบ้านเดือดร้อน พร้อมยกเลิกใบอนุญาต

สืบเนื่องจากกรณีที่ชาวบ้านจาก “เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากบริษัทโรงไฟฟ้าชีวมวล” อันประกอบด้วยชาวบ้านจากจังหวัดเชียงราย ที่ประท้วงโรงไฟฟ้าชีวมวลของบริษัท พลังงานสะอาดดี 2 จำกัด ที่บ้านไตรแก้ว ต.เวียงเหนือ อ.เวียงชัย จ.เชียงราย จังหวัดสุรินทร์ ที่ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้า บริษัท จัสมิน กรีน เพาเวอร์ แอนด์ เอ็นเนอร์จี จำกัด อยู่ที่หมู่ที่ ๑๐ บ้านน้อยสนาม ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ชาวจังหวัดลำพูน ได้รับผลกระทบจากบริษัท สหโคเจนกรีน จำกัด สวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ อยู่หมู่ที่ ๕ บ้านหนองปลาขอ ต.ป่าสัก อ.เมือง จ.ลำพูน จังหวัดตาก ได้รับผลกระทบจากบริษัท โรงไฟฟ้าบ้านตาก จำกัด อยู่ที่หมู่ ๑๑ บ้านวังไม้สร้าง ต.ตากออก อ.บ้านตาก จ.ตาก ชาวประจวบคีรีขันธ์ ได้รับผลกระทบจากบริษัท พลังงานสะอาดทับสะแกจำกัด บ้านหมู่ที่ ๓ บ้านทุ่งยาว ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.อุบลราชธานี ได้รับผลกระทบจากบริษัท บัวสมหมายไบโอแมส จำกัด กำลังก่อสร้างอยู่ที่ ต.ท่าช้าง อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี ได้เข้าร่วมกับขบวนการประชาชนเพื่อสังคมเป็นธรรม ปักหลักชุมนุมบริเวณลานพระบรมรูปทรงมา เพื่อขอให้รัฐบาลแก้ไขปัญหา และเดินหน้าเข้าพูดคุยกับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน โดยเมื่อวันที่ 2 มี.ค.54 ทางเลขา กกพ. ได้ร่วมพูดคุยกับชาวบ้าน และผลักดันให้เกิดการพูดคุยหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันระหว่าง กกพ. และชาวบ้านที่เดือดร้อน

ล่าสุด วันนี้ (4 มี.ค.54) ตัวแทนเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าชีวมวลได้เดินทางเข้าพบ กกพ. ณ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ตึกจามจุรี โดยมีนายศุภิชัย ตั้งใจตรง คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เข้าร่วมพูดคุยกับชาวบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การพูดคุยครั้งนี้เริ่มต้นโดยตัวแทนเครือข่ายได้ให้ข้อมูลสถานการณ์ใน พื้นที่ ซึ่งตัวแทนจาก จ.เชียงราย ได้กล่าวว่า ในพื้นที่มีสถานการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น มีการดำเนินคดีกับชาวบ้าน และมีการส่งคนมายั่วยุก่อกวนชาวบ้านที่ชุมนุมหน้าบริเวณที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้า พร้อมทั้งได้ยื่นหนังสือแจ้งผลการพิจารณาคณะกรรมการกลั่นกรองการขอรับใบ อนุญาตที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานซึ่งมีมติว่าไม่สมควรให้มีการก่อ สร้างโรงไฟฟ้าชีมวล ให้แก่ กกพ. ส่วนตัวแทน จ.ตาก ให้ข้อมูลกับว่า ปัจจุบันนายทุนนั้นได้ดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแล้ว โดยที่ชาวบ้านไม่ทราบว่านายทุนได้ใบอนุญาตจาก กกพ. หรือไม่ ส่วนตัวแทนจาก จ.อุบลราชธานี กล่าวให้ข้อมูลว่า จากการศึกษาผลกระทบทางสุขภาพ ภายใต้การสนับสนุนของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ พบว่า การสร้างโรงไฟฟ้าจะทำให้ชาวบ้านสญเสียรายได้ถึงปีละ 14 ล้านบาท อาจเจ็บป่วยจากละอองฝุ่นแกลบ ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นแล้วคือ ชาวบ้านซึ่งต้องใช้น้ำใต้ดินในการอุปโภคบริโภค และทำการเกษตรต้องเดือดร้อนเนื่องจากไม่มีน้ำใช้ เพราะนายทุนซึ่งได้ใบอนุญาตสร้างโรงไฟฟ้าได้ขุดบ่อขนาดใหญ่ ทำให้น้ำใต้ดินไหลไปรวมกันที่บ่อน้ำของนายทุน

หลังจากได้รับฟังข้อมูลแล้ว นายศุภชัย ตั้งใจตรง ได้กล่าวกับชาวบ้านว่า กรณีของบริษัทโรงไฟฟ้าบ้านตาก หรือบริษัทสตาร์เพาเวอร์แพนท์ ถือว่าทำผิดกฎหมายเพราะยังไม่ได้ใบอนุญาตแต่ดำเนินการก่อสร้างแล้ว ส่วนกรณีของบริษัทพลังงานสะอาดดี 2 จังหวัดเชียงรายทาง กกพ. ไม่เคยได้รับหนังสือจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายที่ระบุว่าไม่สมควรให้มี การก่อสร้างโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยชีวมวลแต่อย่างใด ซึ่งตรงนี้ผู้รวบรวมเอกสารคือสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ส่วนกรณีของบริษัทบัวหมาย ไบแมส จำกัด จ.อุบลราชธานี ถือว่าการขุดบ่อนั้นส่งผลกระทบต่อชุมชนแล้ว หากตรวจสอบแล้วพบว่าชาวบ้านเดือดร้อน ทาง กกพ. ก็สามารถสั่งระงับ และยกเลิกโครงการได้ สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหา ทาง กกพ.จะตั้งคณะกรรมการ่วมระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มชาวบ้านที่ เดือดร้อนตามที่เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบฯ เสนอมา เพื่อร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริงและความโปร่งใสในการออกใบอนุญาตให้กับนายทุน ว่ามีความโปร่งใสหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าการอนุญาตไม่โปร่งใส และสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน กกพ.ก็สามารถสั่งยกเลิกการอนุญาต และไม่ออกใบอนุญาตประกอบกิจการพลังงานให้กับนายทุน
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net