Skip to main content
sharethis

ชาวบ้านซึ่งได้รับผลกระทบจากก่อสร้างโรงไฟฟ้าของบริษัทบัวสมหมายไบโอแมส จำกัด สุดทน บ่อน้ำโรงไฟฟ้าทำข้าวและมะม่วงหิมพานต์ตาย บุกพบผู้ว่าให้ลงตรวจสอบในพื้นที่ ด้านจังหวัดพอทราบข่าวถึงกับเต้น เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง

สืบเนื่องจากกรณีที่ชาวบ้าน 6 ชุมชน ในพื้นที่ ต.ท่าช้าง และ ต.บุ่งมะแลง อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี ได้รวมตัวคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาด 9 เมกะวัตต์ ของบริษัท บัวสมหมายไบโอแมส จำกัด เนื่องจากกระบวนการอนุญาตไม่โปร่งใส และเกรงว่าจะได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองแกลบ รวมทั้งปริมาณน้ำใต้ดินที่ชาวบ้านใช้ในการอุปโภคบริโภคอาจจะขาดแคลนเนื่อง จากโรงไฟฟ้าต้องใช้น้ำใต้ดินในกระบวนการผลิตไฟฟ้า ซึ่งจะส่งผลต่อการปลูกพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านนั้น

ล่าสุด วันนี้ (25 มี.ค. 54) ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนกว่า 10 คน ได้เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมกับถือป้ายข้อความที่ระบุว่าการก่อสร้างของบริษัท บัวสมหมายไบโอแมส จำกัด ได้ส่งผลกระทบทำให้ชาวบ้านขาดแคลนน้ำ โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านเดินทางมาในครั้งนี้ เพื่อขอให้นายสรุพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการ จ.อุบลราชธานี มีคำสั่งให้บริษัทบัวสมหมายไบโอแมส จำกัดหยุดขุดบ่อน้ำและหยุดการดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้า โดยมีนายสุรสิทธิ์ เกิดผล รองป้องกันภัยจังหวัดอุบลราชธานีรับหนังสือแทน

นางทองคับ มาดาสิทธิ์ ชาวบ้านซึ่งได้รับผลกระทบ กล่าวว่า ตอนนี้ทางบริษัทได้ขุดบ่อน้ำขนาดประมาณ 15 ไร่ เพื่อทำเป็นบ่อเก็บและบำบัดน้ำเสียของโรงไฟฟ้า น้ำใต้ดินของชุมชนไหลไปร่วมกันในบ่อน้ำดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านในหมู่ที่ 13 บ้านคำนกเปล้า และหมู่ที่ 18 บ้านคำสร้างไชย ขาดน้ำในการทำนาปรัง ซึ่งมีชาวบ้านเดือดร้อนทั้งหมด 26 ราย เนื้อที่ร่วมกันแล้วกว่า 97 ไร่ นอกจากนี้ดอกมะม่วงหิมพานต์ซึ่งเป็นพืชที่สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านถึงปีละ ไม่ต่ำกว่า 22,050,000 บาท ก็ดอกแห้งแล้วดำเนื่องจากขาดน้ำ ตอนนี้ชาวบ้านเดือดร้อนมาก อยากขอให้ผู้ว่าราชการช่วยยับยั้งการขุดบ่อน้ำของบริษัทอย่างเร็วที่สุด

ด้าน น.ส.สดใส สร่างโศรก กล่าวว่า อยากทำความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า การก่อสร้างไม่ได้หมายถึงการสร้างตัวโรงงานเท่านั้น แต่การขุดบ่อเพื่อทำบ่อน้ำเสีย หรือการถมดิน ก็เป็นส่วนหนึ่งของการก่อสร้าง และทำให้ประชาชนเดือดร้อน ดังนั้นทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเข้าไปดูแล เพราะถือว่าทางบริษัทไม่ได้ทำตามมติที่ตกลงกันไว้ และควรลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่

หลังจากได้รับทราบข้อมูล นายสุริสิทธ์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบทางคณะกรรมการแก้ไขปัญหาในระดับจังหวัดได้มีมติให้บริษัทฯ หยุดดำเนินการใดๆ ไว้ก่อนจนกว่าปัญหาจะมีข้อยุติ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นจะนำเรียนผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งอาจจะมีการลงไปตรวจสอบในพื้นที่ตามที่ชาวบ้านเสนอ โดยตนจะทำการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อ และแจ้งให้ชาวบ้านทราบผลภายในวันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคมนี้
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net