Skip to main content
sharethis

เดินหน้าเรียกร้องความเป็นธรรม กรณี “Insects in the Backyard” ได้เรตห้ามฉาย เผยฟ้องเพื่อตีความ พ.ร.บ.ภาพยนตร์ฯ ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ แถม “ไม่อนุญาตให้ฉาย” ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้เสียสิทธิ์ทั้งคนทำและคนดู

 
28 มี.ค.54 เมื่อเวลา 13.00 น. ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “Insects in the Backyard” ยื่นฟ้องคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ และคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ต่อศาลปกครอง ถ.แจ้งวัฒนะ โดยมีนายทรงยศ สุขมากอนันต์ นายกสมาคมผู้กำกับ และนายพันธุ์ธัมม์ ทองสังข์ ผู้กำกับเรื่องมะหมาสี่ขาครับและไอ้ฟัก ร่วมให้กำลังใจ
 
สืบเนื่องจากกรณี “Insects in the Backyard” ถูกคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์สั่งไม่อนุญาตให้ฉาย (ให้เรตห้ามฉาย) ด้วยเหตุผลว่า “เนื้อหาขัดต่อศีลธรรมอันดี” ตาม พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 และแม้ต่อสู้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งกับคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ก็ถูกยกคำร้องอีกครั้ง จนกระทั่งธัญญ์วารินได้จัดพิธีฌาปนกิจภาพยนตร์เรื่องนี้ของตัวเอง ในวันรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา
 
ธัญญ์วาริน กล่าวว่า ตนและเครือข่ายคนดูหนัง ได้ยื่นฟ้อง 4 ประเด็น ประกอบด้วย 1.ให้ศาลปกครองส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อตีความว่า พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ 2.คำสั่ง “ไม่อนุญาตให้ฉาย” ของคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ เป็นคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย 3.เนื้อหาของภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้ขัดต่อศีลธรรมอันดี และ 4.การไม่อนุญาตให้ฉายเป็นการลิดรอนสิทธิในการแสดงความคิดเห็นทั้งผู้สร้าง และผู้ชม ขณะที่คนทำก็เสียรายได้ ตนได้เรียกค่าเสียหาย 4 แสนบาท ซึ่งเป็นค่าลงทุนสร้างภาพยนตร์
 
“จริงๆ แล้วอยากฟ้องเรียกบาทเดียว แต่เหมือนไปดูถูกสิทธิและเสรีภาพของคนดู เลยเรียก 4 แสนเป็นค่าโปรดักชั่นที่เราลงทุนไป หนังเราถูกสั่งห้ามฉาย ทั้งที่ยังไม่ได้เข้าฉาย แม้ว่าเราจะเสนอว่าเราเลือกฉายแค่โรงภาพยนตร์เดียว จำกัดรอบ และจำกัดคนดูต้องมีอายุเกิน 20 ปี แต่ก็ถูกห้าม เขาไม่ให้คนดูมีสิทธิ์ว่าจะเลือกดูหรือไม่ดู เป็นการเสียสิทธิ์ทั้งคนทำและคนดู”
 
ผู้กำกับเรื่อง “Insects in the Backyard” กล่าวว่า ที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ไม่เคยให้เหตุผลจริงๆ ว่าถูกสั่งห้ามเพราะอะไร ไม่เหมาะสมในฉากใด บอกเพียงว่า “ผิดศีลธรรมอันดีงาม” แค่ประโยคเดียว จนปัจจุบันก็ยังไม่รู้ หวังว่าการฟ้องศาลครั้งนี้จะได้คำตอบว่าทำไมถึงไม่ได้ฉาย แต่ศาลปกครองคงยังไม่ตัดสินได้เร็วๆ นี้ เนื่องจากได้ยื่นเรื่องผ่านศาลปกครองให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยด้วย
 
เมื่อถามว่า หากไม่ชนะคดีในชั้นนี้จะทำอย่างไรต่อไป ธัญญ์วาริน กล่าวว่า จะยื่นอุทธรณ์ที่ศาลปกครองสูงสุดอีกครั้ง และยืนยันจะสู้จนถึงที่สุด นอกจากนี้ ธัญญ์วารินยอมรับ มีหลายชาติสนใจภาพยนตร์เรื่องนี้และติดต่อให้ไปฉาย ซึ่งงานต่อไปที่จะไปฉายคือ เทศกาลภาพยนตร์เกย์และเลสเบี้ยนนานาชาติ ที่เมืองตูริน ประเทศอิตาลี
 
ด้านนายทรงยศ กล่าวว่า มาสนับสนุนธัญญ์วารินที่ยื่นเรื่องนี้ เป็นการทำเพื่อวงการภาพยนตร์และผู้กำกับภาพยนตร์ทุกคน นอกจากนี้ อยากรื้อฟื้นการแก้ไข พ.ร.บ.ภาพยนตร์ด้วย “เมื่อธัญญ์วารินเริ่มทำ ก็เหมือนนับ 1 และต้องมีต่อไปเรื่อยๆ แต่ไม่สามารถพูดได้ว่าจะไปถึงการแก้ไข พ.ร.บ.ฉบับนี้หรือไม่”
 
เรียบเรียงจาก: มติชนออนไลน์
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net