Skip to main content
sharethis

“นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์” เชื่อทักษิณ-เพื่อไทย-เสื้อแดงเตรียมไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งหากไม่เป็นไปตามที่ต้องการ “สาธิต ปิตุเดชะ” ชี้ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไรได้เสียงอันดับหนึ่งหรือสอง เพื่อไทยก็จะขอตั้งรัฐบาล และถ้าไม่สำเร็จเสื้อแดงจะชุมนุมไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือให้ทักษิณกลับบ้านและไม่ติดคุก โฆษก ปชป. ยันยุบสภาแน่สัปดาห์แรกเดือน พ.ค. ด้าน ส.ส. ลงพื้นที่ช่วงสงกรานต์ วานนี้ (10 เม.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าขณะนี้มีความชัดเจนในเรื่องผ่าน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญโดยสภาผู้แทนราษฎร เป็นการยืนยันว่าทันกำหนดที่จะกราบบังคมทูลเกล้าฯขอพระราชกฤษฎีกายุบสภาใน สัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม ซึ่งคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ก็แสดงความพร้อมในการดำเนินการเลือกตั้งตาม กรอบระยะเวลาที่นายกฯได้หารือ และระบุไว้กับประชาชน ส่วนนโยบายในการหาเสียงของพรรค คณะกรรมยุทธศาสตร์และนโยบายได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว โดยได้เตรียมการที่จะให้ผู้สมัคร และ ส.ส. ของพรรคทุกคนเร่งลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดสงกรานต์ เพื่อที่จะประชาสัมพันธ์นโยบายของพรรค รวมทั้งการติดป้ายหาเสียงตามจุดต่างๆด้วย ขณะเดียวกันนายกฯจะใช้เวลาที่ กกต. จัดสรรให้ชี้แจงผลงานพรรคการเมือง คือวันที่ 20 เมษายน 54 ในการบันทึกเทปเพื่อประกาศกรอบนโยบายพรรค เพื่อให้ประชาชนรับทราบนโยบาย “เดินหน้าต่อไปด้วยนโยบายเพื่อประชาชน.” ชี้ทักษิณ-เพื่อไทย-เสื้อแดง เตรียมไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง หากไม่เป็นไปตามที่ต้องการ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกฯ ให้สัมภาษณ์วาระสารต่างประเทศ ว่า มีสาระสำคัญเห็นได้ชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีความพยายามที่จะสร้างความเข้าใจผิดต่อระบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยยังอ้างถึงมือที่มองไม่เห็นว่าจะเป็นส่วนกำหนดทิศทางในการเลือกตั้ง ถือว่าเป็นการลดความน่าเชื่อถือของสถาบันทางการเมือง และการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้พรรคได้มีการประเมินว่าการอ้างอิงเหตุผลดังกล่าวนั้นดำเนินการเพื่อ เตรียมการไม่ยอมรับผลของการเลือกตั้งหากผลนั้นไม่ได้เป็นไปตามที่กลุ่มตนเอง ต้องการ ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ก็สอดรับกับ กลุ่ม นปช. และ พรรคเพื่อไทย ออกมาสร้างความเชื่อว่ามีการเตรียมการโกงการเลือกตั้ง มีการทำบัตรเหลืองปลอม หรืออะไรต่างๆ เพื่อให้การการเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยบริสุทธิ์ยุติธรรม โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า พรรคในฐานะแกนนำรัฐบาลเห็นว่าการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ การที่ให้ทุกฝ่ายยอมรับกระบวนการกติกา และผลการเลือกตั้งนั้น จะเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะสร้างบรรทัดฐานทางการเมืองในการระบบประชาธิปไตย นั้นเป็นทางออกให้กับความขัดแย้ง แทนการนำไปสู่ความวุ่นวายที่สังคมไทยประสบในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ชี้ทักษิณเสนอนิรโทษกรรม ผิดกับจุดยืนประชาธิปัตย์ที่ทำเพื่อทุกคนในประเทศ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่าส่วนสาระที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ว่าจะประกาศนโยบายสำคัญในเรื่องผลักดันการนิรโทษกรรมคนที่ถูก ดำเนินคดีทางกการเมืองในช่วง 4 ปี ที่ผ่านมานั้น ตรงนี้เห็นเจตนาชัดเจนว่ารวมถึงความผิดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกศาลวินิจฉัยจนถึงที่สุด เพื่อเป็นการปูทางให้ตัวเองกลับมาประเทศไทยโดยไม่ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ และความผิดที่เกิดขึ้น ซึ่งแนวทางดังกล่าวนั้นตรงข้ามกับจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ยืนยันว่าคนที่จะมาเป็นผู้นำของประเทศในวันนี้จะต้องมีการกระทำที่เห็น ได้ว่าดำเนินการไม่ใช่เพื่อเพียงคนหนึ่งคนใด แต่ต้องดำเนินการทุกอย่างเพื่อประชาชนทุกคนในประเทศ นอกจากนี้คำสัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณยังได้ระบุถึงทางเลือกในการเลือกตั้งว่า “วันนี้ประเทศไทยควรกลับไปเริ่มตั้งใหม่หมด” ตนมองว่าหากเป็นเช่นนั้นก็เท่ากับประเทศไทยต้องกลับไหเริ่มต้นที่ศูนย์ใหม่ ซึ่งอยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจว่าปัญหาทุกอย่างของประเทศชาติ จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขทันที ซึ่งนโยบายของพรรคในการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายนั้น จะผลักดันได้บ้านเมืองต้องเดินหน้าต่อไปเท่านั้น ซึ่งประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจเลือกระหว่างแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ยืนยันว่าจะต้องให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไป ไม่ใช่การเริ่มต้นใหม่ตามที่พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทยได้ประกาศ อัดจตุพรบอกว่าทหารฆ่าประชาชนถือเป็นข้อความเท็จ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มบ้านเลขที่ 111 ได้ยื่นฟ้องรัฐบาลให้ชดเชยทางแพ่งต่อความสูญเสียในช่วง 10 เม.ย. -19 พ.ค. 53 นั้น นายกฯ ได้ระบุชัดเจนว่ารู้สึกเสียใจกับความสูญเสียที่เกิดขึ้นทั้งต่อประชาชนที่ เข้าร่วมชุมนุมและเจ้าหน้าที่ ที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ซึ่งเหตุการณ์การที่เกิดขึ้นนั้นจะให้ครบรอบ 10 เม.ย. เป็นอุทาหรณ์ของการยืนยันปฏิเสธความรุนแรงจากความวุ่นวายทางการเมืองทุกรูปแบบ ก็ควรจะยืนยันด้วยการชุมนุมที่เป็นไปด้วยความสงบ ไม่ปลุกระดมเพื่อสร้างความเกลียดชัง เพราะแกนนำของกลุ่ม นปช. และพรรคเพื่อไทย โดยนายจตุพร พรหมพันธ์ ออกมาบอกว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการปลุกประชาชนให้มาต่อสู่กับทหาร ที่ฆ่าประชาชน ซึ่งตนเห็นว่าเป็นการปลุกระดมด้วยถ้อยความที่เป็นเท็จ เพราะความสูญเสียที่เกิดขึ้นก็ชัดเจนว่าเกิดจากกลุ่มที่เคลื่อนไหวแอบอิงอยู่กับผู้ชุมนุม และมีการสั่งการในลักษณะแบ่งงานกันทำ สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน และต่อชีวิตของผู้ร่วมชุมนุม ทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่ “สาธิต ปิตุเดชะ” อัด “จตุพร” เชื่อเพื่อไทยจะเดินยุทธศาสตร์เอาทุกทาง ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ว่า สำหรับผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เลขาธิการพรรค ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการเลือกตั้ง จะนัดหารือหลังสงกรานต์ และจะทยอยเปิดชื่อผู้สมัคร โดยภาคกลาง จัดทำรายชื่อผู้สมัครเสร็จเกือบ 100 % ซึ่งไม่มีอะไรเซอร์ไพรซ์ เพราะเป็นผู้สมัครหน้าเดิม จะมีคนใหม่เพียงเล็กน้อย แต่ไม่ได้เป็นผู้มีชื่อเสียงอะไร ส่วนใน กทม.ก็จะทยอยเปิดตัวเช่นกัน นายสาธิต กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่มนปช. ที่ออกมากล่าวหาว่าทหารจะเข้าไปแทรกแซงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น รวมถึงท่าทีของพรรคเพื่อไทยที่ตนเรียกร้องให้มาทำสัตยาบรรณในการพูดเรื่อง สร้างสรรค์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ให้ความร่วมมือและจะเดินตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้คือยุทธศาสตร์เอาทุกทาง เพื่อไทยจะทำทุกอย่างให้ได้เป็นรัฐบาล ถ้าไม่สำเร็จเสื้อแดงจะชุมนุมไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง โดยทางแรก ถ้าชนะก็จะตัดตั้งรัฐบาลขณะเดียวกันก็สร้างกระแสว่าพรรคที่ชนะอันดับหนึ่ง ต้องได้รับเกียรติเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ทางที่สอง ถ้าได้อันดับสองก็ไม่ได้ทำตามในสิ่งที่ตนเองเรียกร้อง ก็จะรวมกับพรรคที่มีเสียงขนาดกลางจัดรัฐบาลแข่งด้วยเพื่อมาเป็นแกนนำหรือ เป็นนายกรัฐมนตรี ทางที่สามถ้าไม่ได้เป็นพรรคแกนนำ หรือเป็นพรรคอันดับสองก็ขอเป็นพรรคร่วมเพื่อมาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ว่าใครจะได้เป็นนายกฯ ทางที่สี่ ถ้าไม่สำเร็จเกลุ่มเสื้อแดงก็จะไม่หยุดการชุมนุม และจะเอาเหตุผลที่นายจตุพรพูดในวันนี้ไปอ้างในวันข้างหน้า ไม่ยอมรับการเลือกตั้ง โดยบอกว่าไม่สุจริต ไม่เที่ยงธรรม มีการปลุกระดมไม่ให้ยอมรับผลเลือกตั้งที่จะมีขึ้น เชื่อเป้าหมายสูงสุดคือให้ทักษิณกลับบ้านและไม่ติดคุก นายสาธิต กล่าวว่า ในอดีตการชุมนุมจะมีผู้สนับสนุนคือแก้ว 3 ประการ คือ พรรคการเมือง มวลชน และกองกำลังติดอาวุธ แต่ตอนนี้มีกองกำลังมาเพิ่มเป็นแก้วประการที่ 4 ที่น่าวิตกมาก คือ กองทัพสื่อที่ไร้จรรยาบรรณ จะมาสนับสนุนตามยุทธศาสตร์ที่พรรคเพื่อไทยต้องการ โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือทำอย่างไรก็ได้ให้ได้อำนาจรัฐมา อันจะเป็นปัจจัยที่เอื้อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับมาบ้านโดยไม่ติดคุก พรรคจึงหวังว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีประชาชนเสียงส่วนใหญ่มาเป็นตัวตัดสินปัญหาทั้งหมด และเดินไปข้างหน้า เพื่อทำให้สถานการณ์บ้านเมืองทุเลาเบาบางลง จึงขอให้ทุกฝ่ายเอากลับมาสู่การเลือกตั้ง เอาความขัดแย้งวางไว้แลชะเดินไปข้างหน้า เริ่มต้นให้กับประเทศกันใหม่ นายสาธิต กล่าวว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ หลังจากที่รัฐบาลประกาศนโยบายดำเนินการจริงจังกับเรื่องยาเสพติด ขณะนี้มีตัวเลขคดีอาชญากรรมลดลงระดับหนึ่ง แต่จากการทำงานของกรรมาธิการยังพบปัญหาในทางปฏิบัติ คือข้อมูลที่ได้รับจากประชาชนยังไม่ใช่ข้อมูลที่แท้จริงทั้งหมด หรือถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะประชาชนยังไม่ไว้วางใจเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะจริงจังกับการปราบปรามยา เสพติดหรือไม่ หรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำเองหรือไม่ หรือกลัวจะไม่ปลอดภัยกับตัวเองในการให้ข้อมูล ดังนั้นเพื่อสร้างความไว้วางใจจากประชาชนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในฐานะที่ตนมีอำนาจศึกษา ตรวจสอบการทำงานของตำรวจทั่วประเทศ ขอให้ประชาชนทุกคนถ้ามีข้อมูลที่พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ว่าจะชั้นยศอะไร ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้ส่งข้อมูลที่มีหลักฐาน พยาน มาที่คณะกรรมาธิการการตำรวจ เพื่อตนจะรวบรวมข้อมูลและส่งต่อนายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ที่มา: เรียบเรียงจากเว็บไซต์พรรคประชาธิปัตย์ [1] , [2]

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net