Skip to main content
sharethis

นปช. แถลงโต้ทัพบกฟ้องหมิ่นเบื้องสูง \จตุพร\" ลั่นเตรียมฟ้องกลับแจ้งความเท็จ ด้าน ผบ.ทอ.สั่งฟันเสืออากาศทันทีหากจาบจ้วงเบื้องสูง \"เทพไท\" เชื่อ นปช. รู้ความหมายผ้าพันคอฟ้า-ชมพู 13 เม.ย. 54 - เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมากลุ่ม นปช. ได้จัดแถลงข่าว โดยณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวว่าการปราศัยในวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมาของกลุ่ม นปช. เป็นไปอย่างเปิดเผย มีการถ่ายทอดสด และก็รับรู้กันดีว่ามีการส่งหน่วยข่าวต่างๆ เข้ามาปะปนกับผู้ชุมนุม และในวันนั้นทุกอย่างก็มีการดำเนินการไปอย่างเรียบร้อย สืบเนื่องจากกรณีที่ผู้บัญชาการทหารบกได้มอบหมายให้นายทหารพระธรรมนูญ เดินทางไปแจ้งความกับผู้ปราศัย 3 คน ได้กล่าววาจาที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ในขณะที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ประกาศจะยื่นการประกันตัวแกนนำ นปช. นั้น ทาง นปช. จึงอยากแถลงข่าวเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง ธิดา ถาวรเศรษฐ์ ระบุว่าการออกมาชุมนุมเรียกร้องของ นปช. เมื่อวันที่ 10 เมษายน นั้นก็เพื่อต้องการหาความจริงในการนำผู้ที่เข่นฆ่าประชาชนมาลงโทษ แต่สิ่งที่ได้รับกลับกลายเป็นว่าคนที่ออกมาพูดถามหาความจริง ทวงความยุติธรรมให้กับวีรชนที่ได้เสียชีวิตไป กำลังจะโดนจับ ทั้งนี้ธิดาระบุว่าฝ่ายตรงข้ามกับคนเสื้อแดงเห็นว่าการชุมนุมที่ผ่านมามวลชนของคนเสื้อแดงออกมาชุมนุมมาก และกลัวว่าความจริงจะถูกเปิดเผย ทำให้ฝ่ายตรงข้ามต้องหาทางสกัดคนเสื้อแดงโดยใช้กรณีแจ้งจับแกนนำ รวมถึงวิเคราะห์ว่าการกระทำแบบนี้อาจจะเป็นการเปิดประเด็นปราบปรามประชาชนรอบใหม่ อาจจะใช้วิธีการเหมือนกับเหตุการณ์ 6 ต.ค. 2519 \"เพราะ 6 ตุลา 19 การแสดงละครก็ถูกหาว่าหมิ่น และอ้างเป็นเหตุในการปราบปรามนักศึกษาอย่างป่าเถื่อน ประวัติศาสตร์ประเทศไทยการอ้างข้อหาหมิ่น เรื่องข้อหาล้มเจ้า เป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้เกิดการฆ่าประชาชนมาตลอดเวลา\" ธิดากล่าว นายจตุพรกล่าวว่า สำหรับการแจ้งความคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ขอยืนยันว่าคนเสื้อแดงไม่เคยมีความคิดจะล้มล้างสถาบัน โดยในวันที่ 17 เมษายน เวลา 13.00 น. ตนและพวกจะเดินทางไปที่ สน.สำราญราษฎร์ เพื่อแจ้งความกลับทหารที่แจ้งความดำเนินคดีกับตนข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ว่าเป็นการแจ้งความเท็จ และต่อจากนี้ตนจะไปแจ้งความดำเนินคดีกับหลายบุคคลที่เคยให้สัมภาษณ์ที่เข้าข่ายข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ \"ขอฝากไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ ที่บอกให้ผมระวังตัวไว้ อยากถามว่านี่คือคำขู่ใช่หรือไม่ ผมเป็น ส.ส. เป็นประชาชน คุณเป็นเจ้าหน้าที่แล้วมาขู่ผมอย่างนั้นเหรอ หมายความว่าจะฆ่าผมใช่ไหม ถ้าจะฆ่ากันก็บอกกันมาตรงๆ จะเดินไปให้ฆ่าเอง และอยากเตือนสติ พล.อ.ประยุทธ์ว่าพวกที่หมิ่นสถาบันนั้นก็คือพวกนักการเมืองที่เอาชื่อสถาบันไปแอบอ้าง ไม่ใช่คนเสื้อแดง\" นายจตุพรกล่าว โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้แถลงสรุปอีกครั้ง กล่าวว่า อยากให้ที่ปรึกษาหรือใครก็ตามที่มีสติไปเตือน พล.อ.ประยุทธ์ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ รวมถึงนายอภิสิทธิ์ ว่าความพยายามหยิบฉวยเรื่องสถาบันมาเป็นประเด็นเคลื่อนไหวเพื่อทำลายคู่ต่อสู้ทางการเมืองและประชาชนนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่ผ่านมาคนเสื้อแดงเป็นฝ่ายถูกกระทำมาตลอดทั้งบาดเจ็บ ล้มตาย และถูกคุมขังอีกเป็นจำนวนมาก ด้วยการยัดเยียดข้อกล่าวหาก่อการร้าย ป้ายสีว่าเป็นคอมมิวนิสต์ และล่าสุดกำลังถูกป้ายว่าเป็นพวกโค่นล้มสถาบัน ซึ่งสิ่งที่ผู้มีอำนาจกำลังกระทำอยู่นี้ไม่เป็นผลดี เพราะประชาชนถูกใส่ร้ายมามาก และความอดทนของประชาชนก็มีขีดจำกัด อย่าบีบคั้นจนเรากลายเป็นประชาชนนอกรัฐขึ้นมาอีก เพราะที่ไหนมีแรงกดที่นั้นก็มีแรงต้าน ดังนั้นอย่าบีบคั้นประชาชนมากเกินไป อย่าคิดว่าเอาปืนมาจี้แล้วประชาชนจะก้มหัวให้ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ในวันที่ 18 เมษายนนี้ ทางแกนนำจะมอบหมายให้ทีมทนายความไปยื่นเอกสารและหลักฐานต่ออัยการเพื่อขอคัดค้านการถอนประกันและทางแกนนำพร้อมเข้าให้ปากคำต่อผู้รับผิดชอบคดี แต่ขอให้ได้ดำรงความเป็นอิสระปฏิบัติหน้าที่อย่างสง่างาม ให้กระบวนการยุติธรรมเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง เพราะเรื่องราวจะไปกันใหญ่หากประเทศเป็น 2 มาตรฐานทุกมิติไม่เว้นแม้แต่เรื่องปกป้องสถาบัน ผบ.ทอ.สั่งฟันเสืออากาศจาบจ้วงเบื้องสูง ด้านพล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ(ผบ.ทอ.) ให้สัมภาษณ์เนื่องในเทศกาลวันสงกรานต์ในช่วงเช้าว่า วันสงกรานต์ถือเป็นวันสำคัญยิ่งของประเพณีไทย และเป็นวันครอบครัวด้วย จึงอยากให้หลังจากเทศกาลสงกรานต์ปีนี้แล้ว ประเทศไทยมีความสงบเรียบร้อย และอยากให้คนไทยมีความสามัคคีกัน เพื่อให้ประเทศเจริญก้าวหน้าและความสงบสุข ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนนี้มีกลุ่มคนจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง กองทัพจะดำเนินการกับเรื่องนี้ให้ชัดเจนได้อย่างไร ผบ.ทอ. กล่าวว่า เรื่องเกี่ยวกับการชุมนุม ถ้าอยู่ในกรอบของกฎหมายก็สามารถชุมนุมได้ แต่ถ้ามีการละเมิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหมิ่นสถาบัน ทางกองทัพจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดหากเป็นกำลังพลของทอ. แต่ถ้าไม่ได้เป็นข้าราชการทหารก็เป็นหน้าที่ตำรวจจะติดตามและดำเนินการอย่างจริงจัง \"เทพไท\" เชื่อ \"นปช\" จาบจ้วงเบื้องสูง \"ผ้าพันคอฟ้า-ชมพู\" ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แจ้งข้อหาเพิ่มในคดีหมิ่นสถาบัน และถอนประกันตัวแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ว่า เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับการที่ดีเอสไอ จะเข้ามาจัดการกับแกนนำ นปช.ที่กระทำความผิด และฝ่าฝืนเงื่อนไขการประกันของศาล เพราะจากพฤติกรรมของแกนนำ นปช.บนเวทีบนเวทีเสื้อแดง เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น ได้สร้างความไม่สบายใจให้กับคนไทยทั้งประเทศเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังได้มีประชาชนโทรศัพท์มาเรียกร้องพรรคประชาธิปัตย์ผ่านตนว่า ปล่อยให้คนเหล่านี้ อยู่เหนือกฎหมายได้อย่างไร ซึ่งพรรคก็เข้าใจความรู้สึกของประชาชน แต่ต้องตรวจสอบก่อนว่า การกระทำดังกล่าวผิดกฎหมายอย่างไรบ้าง เนื่องจากบางประเด็นที่ล่อแหลมคนพูดพยายามกล่าวเลี่ยงกฎหมาย เพื่อไม่ให้สามารถเอาผิดได้ แต่มีลักษณะการพูดสื่อความเข้าใจในหมู่คนเสื้อแดง อาทิ การพูดถึงผ้าพันคอสีชมพู กับผ้าพันคอสีฟ้า นายเทพไท ยังกล่าวอีกว่า อยากจะให้ดีเอสไอ เอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้รวมไปถึงหน่วยงานความมั่นคง จะต้องเข้าไปตรวจสอบและก็ถอดเทปคำปราศรัยทุกครั้ง รวมไปถึงการปราศรัยที่เวทีโบนันซ่า เขาใหญ่ในครั้งก่อนด้วย เพราะหากปล่อยไว้กระบวนการนี้จะเหิมเกริม และขยายแนวร่วมออกไปในวงกว้าง นอกจากนี้ ควรจะต้องจับตามองการเปิดโรงเรียน นปช.ของคนเสื้อแดงด้วยว่า ในการฝึกอบรมแต่ละครั้งมีการสอดแทรกแนวความคิดเกี่ยวกับการล้มล้างสถาบันหรือไม่ รวมถึงเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นพรรคเพื่อไทย ก็ต้องรับผิดชอบด้วยจะปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องไม่ได้ เพราะทั้ง 2 กลุ่มอยู่ภายใต้การสนับสนุน และบงการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่เพียงผู้เดียว ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ สุเทพยันเอาผิด 3 แดงหมิ่นเบื้องสูง ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ยืนยันว่า ต้องดำเนินการกับแกนนำกลุ่ม นปช. ที่ขึ้นเวทีปราศรัยจาบจ้างสถาบัน ในการชุมนุมของกลุ่ม นปช. เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นการกระทำที่ไม่บังควร และกระทบกระเทือนจิตใจของคนไทยทั้งประเทศ ขณะที่เห็นว่า แกนนำกลุ่ม นปช. โดยเฉพาะ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ไม่ควรนำเรื่องสถาบันมาเป็นประเด็นทางการเมือง หรือหาเสียงเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าว ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และศาล จะเป็นผู้ดำเนินการ และขอปฏิเสธว่าการคัดเสือกสว.สรรหา ชุดนี้ ไม่ได้ตั้งมาเพื่อขัดขวาง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตามที่มีการกล่าวหา และไม่มีบุคคลใดมีความเกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ อีกทั้ง ส.ว.สรรหา ต้องทำหน้าที่เพื่อประชาชน ดังนั้น ต้องเป็นกลางทางการเมือง นอกจากนี้ นายสุเทพ ยังกล่าวอีกว่า ที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ถอนร่างบันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย - กัมพูชา หรือ เจบีซี จากรัฐสภานั้น เนื่องจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีการหารือและสอบถามความคิดเห็นของเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา และรัฐมนตรีทุกคน ซึ่งมีความเห็นตรงกันในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่เห็นว่า กระบวนการทำงานของคณะกรรมการ เจบีซี ยังไม่สิ้นสุด จึงไม่จำเป็นที่จะต้องนำเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภา ทั้งนี้ การถอนร่างเจบีซี ไม่ถือว่าเป็นการเสียหน้ากลุ่มพันธมิตรฯ ที่ออกมาเรียกร้องก่อนหน้านี้ เนื่องจากร่างดังกล่าวไม่ได้ทำผิดตามกฎหมาย อีกทั้งการทำงานของคณะกรรมการเจบีซี ยังคงสามารถดำเนินการประชุมได้อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวนั้น กระทรวงการต่างประเทศ จะชี้แจงขั้นตอนให้กับกัมพูชา อาเซียน และองค์การสหประชาชาติให้เข้าใจ สตช.เผยประสาน DSI ส่งพยานหลักฐานจตุพรหมิ่น พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึง กรณีที่ พ.อ.จีรพล หลงประดิษฐ์ นายทหารพระธรรมนูญ สำนักงานพระธรรมนูญทหารบก กองทัพบก รับมอบอำนาจจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เข้าพบ พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธุ์ ผกก.สน.สำราญราษฎร์ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายจุตพร พรหมพันธุ์ นายวิเชียร ขาวขำ และ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ข้อหาหมิ่นเบื้องสูง กรณีขึ้นปราศัยบนเวที นปช. บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในการชุมนุมรำลึก 1 ปี เหตุการณ์ปะทะ เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 ที่ผ่านมา ว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทาง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้รีบดำเนินการในโดยให้ทาง ผกก.สน.สำราญราษฎร์ มอบหมายให้พนักงานสอบสวน รับแจ้งความและสอบปากคำไว้เป็นหลักฐาน และให้ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. ในฐานะฝ่ายกฎหมาย ได้พิจารณาการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ส่งเรื่องให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ไปดำเนินการเป็นผู้สืบสวนตั้งแต่วันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากว่า ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 คน ซึ่งมี นายจตุพร นายวิเชียร และ นายสุภรณ์ นั้น มีรายชื่อที่ถูกดำเนินคดีพิเศษอยู่ที่ DSI อยู่แล้ว เมื่อถามว่า หากมีการยุบสภาไปแล้ว นายจตุพร ยังมีเอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครองหรือไม่ พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า หากเป็น ส.ส.อยู่ก็ยังได้รับการคุ้มครองเอกสิทธิ์ แต่หากว่าไม่ได้เป็น สส. หลังจากมีการประกาศยุบสภา ให้มีการเลือกตั้งใหม่ ก็ต้องดูว่าพ้นสภาพการเป็น ส.ส. เมื่อไหร่ หากว่าไม่ได้เป็น ส.ส. เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถดำเนินคดีได้ทันที \"ปลอดประสพ\"ไม่ออกความเห็น \"ตู่\"ดึงสถาบัน โบ้ยเรื่องส่วนตัว พรรคไม่เกี่ยว นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคำปราศรัยของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน แกนนำ นปช.อาจเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพว่า ความจริง ไม่อยากออกความเห็นเรื่องนี้เท่าใด เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อย่างไรก็ดีสถาบันกษัตริย์ทรงอยู่เหนือการเมือง ทั้งโดยกฎหมายและจารีตประเพณี ถ้าเรารักและจงรักภักดีจริงๆ ต้องเคารพสถาบัน ต้องไม่ยุ่ง ไม่ดึงท่านลงมา ขอให้ท่านอยู่เหนือการเมืองและความขัดแย้งใดๆ เราไม่ควรพูดถึงหรือแสดงความรักมากกว่าคนอื่น หรือไปพูดจาใกล้เคียง ไม่ควรเลย เราพูดกับคนธรรมดานั่นแหละดีที่สุดแล้ว เมื่อถามว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวนายจตุพรกับ พล.อ.ประยุทธ์ โดยพรรคไม่เกี่ยวข้องด้วยใช่หรือไม่ นายปลอดประสพกล่าวว่า พรรคไม่เกี่ยวแน่นอน ขอให้เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของนายจตุพรและ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อถามว่าคนในพรรครู้สึกต่อคำปราศรัยนายจตุพรอย่างไรบ้าง นายปลอดประสพ กล่าวว่า ยังไม่ได้เจอใคร เลยยังบอกไม่ได้ แต่เชื่อว่าทุกคนคงไม่สุขใจเท่าไหร่ ซักอีกว่าพรรคจะต้องเตือนนายจตุพรหรือไม่ นายปลอดประสพกล่าวว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น เพียงแต่สิ่งเหล่านี้ไม่ว่ามาจากผู้ใด ไม่ควรเกิดขึ้น ฝ่ายเราก็ควรคุยกับฝ่ายเรา ฝ่ายโน้นก็ควรคุยกับฝ่ายโน้นด้วย ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: เว็บไซต์เดลินิวส์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net