สงครามพม่า – SSA เหนือปะทุต่อเนื่อง พบเชื่อมโยงท่อส่งก๊าซจีน

สำนักข่าวคะฉิ่น (Kachin News Group) รายงานว่า รัฐบาลพม่ามีแผนที่จะกวาดล้างชนกลุ่มน้อยติดอาวุธที่อยู่ทางภาคเหนือของรัฐ ฉานทั้งหมด ขณะที่เจ้าหน้าที่ SSA -เหนือเชื่อ สงครามระหว่างกองทัพพม่าและ SSA -เหนือนั้น อาจเชื่อมโยงกับท่อส่งก๊าซและน้ำมันที่จีนเข้าไปลงทุนในรัฐอาระกัน ทางภาคตะวันตกของประเทศพม่า ทั้งนี้ ทหารในพื้นที่เปิดเผยกับสำนักข่าวคะฉิ่นว่า ท่อส่งก๊าซและน้ำมันของจีนจากชายฝั่งรัฐอาระกัน ทางภาคตะวันตกของพม่าไปยังเมืองรุ่ยลี่ของจีนนั้นพบว่า จะต้องผ่านทางภาคเหนือของรัฐฉาน ดังนั้น ทางกองทัพพม่ามีแผนจะกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธที่อยู่ทางภาคเหนือของรัฐฉานให้หมด สอดคล้องกับที่เจ้าหน้าที่ SSA – เหนือ ที่เปิดเผยว่า การที่กองทัพพม่าสั่งให้กองทัพรัฐฉานเหนือ(State Army-North) หรือ SSA – เหนือ ถอนกำลังออกจากที่มั่นของตัวเองที่อยู่ทางภาคเหนือของรัฐฉานนั้น น่าจะเชื่อมโยงกับที่ทางการจีนแสดงความเป็นห่วงต่อเส้นทางท่อส่งก๊าซและ น้ำมันของตัวเองก่อนหน้านี้ มีรายงานด้วยว่า พื้นที่ในเมืองมีด เมืองสี่ป้อและเมืองจ็อกเมเพิ่งได้รับการสำรวจจากบริษัทจีน ซึ่งรับผิดชอบในการก่อสร้างท่อส่งก๊าซและน้ำมันที่จะมาจากรัฐอาระกัน ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้เตือนประชาชนของตัวเองที่เข้าไปทำงานในรัฐฉานให้เดินทางกลับ บ้าน เนื่องจากหวั่นสงครามระหว่าง SSA -เหนือและกองทัพพม่าจะรุนแรงมากขึ้น นอกจากนี้ จีนยังแสดงความกังวลว่า สงครามที่เกิดขึ้นจะลุกลามไปยังเขตพื้นที่ควบคุมของกองทัพเอกราชคะฉิ่น (Kachin Independence Army) และกองทัพสหรัฐว้า (United Wa State Army) ซึ่งทั้งสองกลุ่มต่างมีฐานที่มั่นทางทหารอยู่ในรัฐฉาน ทั้งนี้ พบว่ามีชาวจีนเป็นจำนวนมากที่เข้าไปทำธุรกิจและเกี่ยวกับเหมืองแร่ในรัฐฉาน และรัฐคะฉิ่น ขณะที่สถานการณ์สู้รบระหว่างทั้งสองฝ่ายยังยืดเยื้อต่อเนื่อง มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา ทางกองทัพพม่าได้ส่งตัวแทนไปเจรจากับทางพรรคก้าวหน้ารัฐฉาน (Shan State Progressive Party - SSPP) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองของ SSA – เหนือ ว่าให้ถอนกำลังออกจากเมืองสี่ป้อ เมืองจ้อกเม เมืองน้ำสั่นและเมืองมีด ซึ่งเคยเป็นพื้นที่ของ SSA - เหนือมาก่อน ไม่เช่นนั้นทางกองทัพพม่าก็จะโจมตีกองทัพรัฐฉานเหนืออย่างต่อเนื่อง แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีคำตอบว่าทาง SSA – เหนือจะถอนกำลังออกจากพื้นที่ดังกล่าวหรือไม่ เพราะคณะกรรมการระดับสูงของ SSA - เหนือยังอยู่ในระหว่างการประชุมหารือกันและสอบถามความเห็นจากประชาชน รวมถึงทหารภายในกองทัพว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป “หากเราถอนกำลังทั้งหมดออกไปอยู่ทางใต้รัฐฉาน ทางพม่าก็จะอนุญาตให้เราอยู่ แต่พวกเขาจะไม่อนุญาตให้เราจับอาวุธหรือแต่งเครื่องแบบของเรา และหากพวกเราไม่ทำตามที่พวกเขาสั่ง พวกเขาก็จะไม่หยุดโจมตีเรา ซึ่งขณะนี้ คำตอบขึ้นอยู่กับประชาชน ทางเราต้องการแก้ปัญหาการเมืองด้วยการเมือง ไม่ใช่การใช้กำลัง เพราะเราไม่ใช่กลุ่มก่อการร้าย เราไม่ได้ออกมาเรียกร้องขอแยกดินแดน เราแค่ถามถึงการปกครองแบบสหพันธรัฐที่ให้ความเสมอภาคและความยุติธรรมแก่ทุก คน รวมถึงสิทธิในการปกครองตนเอง” เจ้าหน้าที่ทหาร SSA – เหนือกล่าว เจ้าหน้าที่ SSA – เหนือเปิดเผยว่า การหารือที่ผ่านมายังไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้คลี่คลายลงได้ เพราะกองทัพพม่าไม่จริงใจในการสร้างความสงบให้เกิดขึ้น พร้อมทั้งกล่าวเพิ่มเติมว่า จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงดีขึ้น ถึงแม้ SSA- เหนือจะถอนกำลังออกจากพื้นที่ เนื่องจากกองทัพรัฐฉานใต้ หรือ SSA – ใต้ ภายใต้การนำของเจ้ายอดศึกเองได้เข้าไปเคลื่อนไหวในพื้นที่แล้วอย่างไรก็ตาม การสู้รบจากทั้งสองฝ่ายได้ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่ มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายจากการสู้รบและชาวบ้านเป็นจำนวนมากถูกละเมิด สิทธิมนุษยชนจากกองทัพพม่า และล่าสุดมีชาวบ้านที่อาศัยอยู่ระหว่างเมืองสู้และเมืองต้างยาน ซึ่งอยู่ในเขตปะทะกันระหว่างทหารพม่าและทหาร SSA – เหนือ ถูกฆ่าเสียชีวิตรวม 10 ศพ จากกลุ่มไม่ทราบฝ่าย โดยเป็นชาวไทใหญ่ 5 คนและที่เหลืออีก 5 คน เป็นชาวลาหู่ (SHAN/ Kachin News Group 19 เมษายน 54) แปลและเรียบเรียงโดย สาละวินโพสต์ \สื่อทางเลือกเพื่อแบ่งปันความเข้าใจสู่เพื่อนบ้าน\"อ่านข่าวและบท ความอื่นๆ อีกมากมายได้ที่เว็บไซต์ www.salweennews.org เฟซบุ๊ค http://www.facebook.com/Salweenpost ทวิตเตอร์ http://twitter.com/salweenpost"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท