Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

 

ในสังคมทุกวันนี้หลายคนแสดงตัวเป็นคนดี  แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็นคนดีจริงหรือไม่  เราควรรู้ให้ถ่องแท้ หาไม่คนชั่วในคราบคนดีอาจหลอกลวงให้เราเสียรู้  หรือมาหลอกให้ประเทศชาติของเราเสียหาย

คนดีแต่เปลือก?
คนชั่วแท้ ๆ โจรกักขฬะ มักจะเป็นที่สังเกตเห็นได้โดยไม่ยาก  แต่คนที่เปลือกนอกดูดี แต่แท้จริงเป็นโจร  โดยเฉพาะพวก ‘ปากปราศรัย น้ำใจเชือดคอ’ นั้น เรายิ่งต้องระวังให้จงหนัก  เราจะตัดสินว่าใครเป็นคนดีนั้น  ไม่ใช่สักแต่ว่าเขาเป็น

1. ครู-อาจารย์ เพราะคนที่ใช้คุณวุฒิหลอกลวงเรามีให้เห็นอยู่ทั่วไป

2. นักบวช  ในหมู่นักบวช ก็ยังมีพวก ‘แกะดำ’   บางรูปแม้ไม่ใช่คนเลว แต่ก็ไม่ใช่คนดีเด่นอะไร เพราะออกอาการอิจฉาริษยากันและกันให้เห็นอยู่บ่อย ๆ

3. คนเคร่งศาสนา บางคนออกแนวธรรมะ ธรรมโม  พวกนี้ก็คล้ายนักบวช บางทีเคารพ-รับใช้เจ้ากูมากกว่าคำสอนของศาสดา  ตอนนั่งสมาธิก็ดูสงบเย็น พอออกจากสมาธิก็เต้นเหมือนเจ้าเข้า

4. ข้าราชการระดับสูง เพราะคนระดับนี้แหละที่โกงชาติ ขายชาติได้แนบเนียนเหนือใคร ๆ

5. นายทหารชั้นผู้ใหญ่  เพราะคนระดับนี้แหละที่ทำรัฐประหาร ทำลายประชาธิปไตยให้เห็นมาหลายสิบปี รุ่นแล้วรุ่นเล่า  เราต้องสังวรว่า คนที่บูชายศศักดิ์และยิ่งมียศศักดิ์สูง ยิ่งเห็นคนอื่นต่ำต้อยด้อยค่า

6. ผู้เทิดทูนสถาบันบางคน ที่อ้างว่ายอมตายถวายชีวิต แต่ความจริงแค่พูดเอาดีใส่ตัว แอบอ้างสถาบัน เช่น‘เซ็งลี้’ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ดังข่าวในอดีต จนถึงการใช้สถาบันมาทำลายคู่แข่งทางการเมือง กระทั่ง ‘ปรีดี พนมยงค์’ ก็ยังไม่รอด  ในความเป็นจริงสถาบันจะแคล้วคลาดหากไม่มีพวกเขา  ในทางตรงกันข้ามหากขาดสถาบัน พวกเขาต่างหากที่จะอยู่ไม่รอด หมดทางทำมาหากิน

อาจกล่าวได้ว่าคนไม่ดีหรือคนดีแต่เปลือกมักเป็นนักโฆษณาชวนเชื่อ หรือให้ลูกสมุนยกหางของตนอย่างไม่ละอาย  แต่ตัวตนที่แท้จริงกลับเป็นซาตานเกาะกิน ทำลายชาติ อาศัยอาภรณ์ของความดีมาแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัว ประเทศชาติกลับต้องหาเลี้ยงคนเหล่านั้นด้วยภาษี  แล้วพวกเขายังใช้สถานะที่เหนือปุถุชนกอบโกย โกงกินจนร่ำรวยมหาศาล

ปุถุชนนี่แหละคนดี
ปุถุชนธรรมดาทั่วไปนี่แหละคือคนดีแท้ เพราะพวกเขา

1. เสียภาษีทั้งทางตรงและทางอ้อมเพื่อให้ประเทศชาติอยู่ได้ เจริญขึ้น และกลายเป็นโอกาสให้กาฝากเสพสุข และฝังลึกลงในกลไกการปกครองแผ่นดิน

2. เป็นผู้ที่ตายเพื่อชาติอย่างแท้จริงในสงครามต่าง ๆ ที่พวกเขาไม่เคยได้ก่อ แต่มักก่อโดยชนชั้นปกครองในอดีตหรือเหล่าจักรวรรดินิยม  แม้ในยามชาติล่มจม เช่น ลาว เขมร เวียดนาม  ปุถุชนนี่แหละคือผู้ที่ยังอยู่สร้างชาติขึ้นมาใหม่ ส่วนพวกคนรวย คนมีสถานะสูงส่ง นายทหารใหญ่ ข้าราชการระดับสูง หรือพวกรักสถาบันจนน้ำลายไหล ล้วนหนีไปเสพสุขใต้ปีกจักรวรรดินิยม

อย่างไรก็ตามปุถุชน มักถูกหาว่าโง่ ไม่ละเอียดอ่อน ขาดศิลปะ ไร้มรรยาท มักจมปลักกับเรื่องเฉพาะหน้า หรือเป็นพวก ‘ละครน้ำเน่า’ ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาของชาวบ้านร้านตลาดที่ไม่ได้มียศศักดิ์หรือหน้ากากอะไรจะสูญเสีย  บ้างก็ดิ้นรนทนทุกข์ จึงก่อเรื่องผิด ๆ ไปบ้าง  จนกลับถูกตราหน้าร้ายแรงว่าเป็น ‘คนบาป’ ในสายตาพวกเคร่งศาสนา  แต่อันที่จริงความผิดบาปของปุถุชนนั้นยังนับว่าเล็กน้อย ไม่อุกฉกรรจ์เท่าความผิดของพวกทรราชหรือกังฉิน

ถ้าเราศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  เราต้องมองเห็นค่าของปุถุชนคนเล็กคนน้อยที่ค้ำจุนสังคม  เราต้องเคารพในเสียงส่วนใหญ่ของปุถุชน  แต่บางคนกลับบิดเบือนว่าเสียงส่วนใหญ่เชื่อไม่ได้โดยยกตัวอย่างว่าชาวเยอรมันส่วนใหญ่หลงผิดจนเกิดฮิตเลอร์  ข้อนี้ไม่จริงฮิตเลอร์ไม่เคยชนะการเลือกตั้งเป็นรัฐบาลพรรคเดียว และต่อมารวบอำนาจโดยการก่อรัฐประหารจนนำเยอรมนีไปสู่วิบัติ  ในทางสังคม เศรษฐกิจการเมือง เราจึงต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ของปุถุชน แต่ถ้าเป็นศิลปะวิทยาการ เราต้องฟังผู้เชี่ยวชาญ เช่นการสร้างจรวดไปดวงจันทร์ เป็นต้น

อย่าถวิลหาดีบริสุทธิ์
พวกคนดีจอมปลอมไม่เชื่อว่า ‘สูงสุดคืนสู่สามัญ’  และมักถวิลหาคนดีบริสุทธิ์ที่สวรรค์ประทานมา  โดยไม่ยอมเข้าใจความจริงว่า ‘สถานการณ์ต่างหากที่เป็นผู้สร้างวีรบุรุษ’  ความดีเป็นสิ่งสัมพัทธ์  คนดีก็อาจทำผิดพลาดได้บ้างเป็นครั้งคราว โดยเฉพาะในยาม ‘จิตตก’  เช่น บางทีเราอาจสอนลูกให้ทิ้งขยะให้ถูกที่ แต่บางทีเราก็อาจลืมตัว มักง่ายขึ้นมาบ้าง เป็นต้น

ถ้าเราเชื่ออย่างหยุดนิ่งแบบที่ว่าคนดีนั้นต้องดีตลอด ดีบริสุทธิ์  เราก็จะถูกคนดีจอมปลอมที่อ้างว่าสรวงสวรรค์ส่งตนมา เช่น คนทรงเจ้าเข้าผีหรืออื่น ๆ หลอกเราได้  การถวิลหาความดีบริสุทธิ์ จึงทำให้เราเชื่อคนง่าย  สรรเสริญคนดีจอมปลอมอย่างไร้สติ  กลายเป็นว่าเราเอาชะตาชีวิตของตัวเองไปฝากไว้กับพ่อหมอ ท่านครู หรือฝากชะตากรรมของประเทศไว้กับผู้ปกครองคนใด  ทั่วโลกชิงชังเผด็จการ เพราะไม่ว่าจะอ้างตนว่าอวตารมาจากไหน ก็ล้วนกลายร่างเป็นทรราชเมื่อมีอำนาจเบ็ดเสร็จคนเดียวหรือคณะเดียว

เกณฑ์วัดคนดี
คนดีต้องพยายามทำผิดให้น้อยที่สุด แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ทำผิดเลย เพราะคนไม่เคยทำผิดก็คือคนที่ไม่ทำอะไรเลย คนไม่ทำอะไรเลยเพราะกลัวผิดย่อมไม่ถือว่าเป็นคนดี แต่เป็นเพียงสวะลอยน้ำ  ในสังคมอารยะสมัยปัจจุบัน เราต้องมีเกณฑ์วัดความดี สิ่งดีหรือคนดี  ไม่ใช่สักแต่เชื่อตามคำร่ำลือหรือการโฆษณาชวนเชื่อ  เกณฑ์เหล่านี้คือบรรทัดฐานที่ทำให้เราวินิจฉัยได้ว่าใครดีจริงหรือดีแบบกำมะลอ  อย่างโบราณว่าไว้ ‘ทองแท้ไม่กลัวไฟ’ ต้องทนทานต่อการพิสูจน์  คนที่จะเป็นคนดีจริง ก็ต้องเจริญสติ หมั่นตรวจสอบตนเอง และเพียรทำดีอยู่เสมอ

เราต้องมีระบบการตรวจสอบ และประกันความผิดพลาด เช่น หมออาจลืมกรรไกรไว้ในท้องคนไข้  ไม่มีหมอคนไหนตั้งใจทำ แต่อาจเกิดขึ้นได้ด้วยความประมาท  ดังนั้นจึงต้องมีการประกันความผิดพลาด คุ้มครองทั้งนักวิชาชีพและผู้รับบริการ

อาจกล่าวได้ว่า ความดี ความสำเร็จที่แท้ มาจากการฝึกฝน ยืนหยัดปฏิบัติอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอต่างหาก ไม่ใช่มาจากการท่องมนต์ ท่องคาถา  ไม่ใช่มาจากการนั่งยุบหนอ พองหนอ  หรือไม่ใช่มาจากการเที่ยวไปจาริกแสวงบุญยังสถานที่สำคัญของพระศาสดาแต่อย่างใด

คนดีจริง ‘ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้’ 

 

 
 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net