สันติอโศกเตรียมส่ง \แก่นฟ้า แสนเมือง\" เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คนของพรรค \"เพื่อฟ้าดิน\" แต่ส่งตามระเบียบ กกต. โดยนโยบายพรรคยังเป็น \"โหวตโน\" ด้าน \"สมศักดิ์\" เล็งฟ้อง \"สุริยะใส\" ลั่น \"การเมืองใหม่\" จะส่ง ส.ส. ทั้งแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ \"พรรคเพื่อฟ้าดิน\" เตรียมส่ง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 1 คน เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า น.ส.ขวัญดิน สิงห์คำ หัวหน้าพรรคเพื่อฟ้าดิน (พฟด.) กล่าวภายหลังการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคว่าที่ประชุมพรรคมีมติให้ส่งผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งจำนวน 1 คน ในระบบบัญชีรายชื่อ คือ นายแก่นฟ้า แสนเมือง ทั้งนี้ เนื่องจากพรรคไม่ต้องการแสวงหาชื่อเสียงหรือลาภยศ และต้องการทำงานเพื่อประชาชนมากกว่า และที่สำคัญคือไม่ต้องการให้พรรคถูกยุบ อย่างไรก็ตาม นโยบายของพรรคยังคงเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนโหวตโน เพื่อเป็นการหาทางออกให้แก่ประชาชนได้มีทางเลือก กรณีที่มีความอึดอัดจากพรรคการเมืองต่างๆ ในปัจจุบัน ด้าน นายแก่นฟ้า แสนเมือง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อฟ้าดิน กล่าวว่า รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้รับความไว้วางใจจากพรรค และยืนยันว่าภารกิจครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อประชาชน ส่วนหากได้รับการเลือกตั้ง คงต้องรอดูกันอีกครั้งว่าจะเป็นอย่างไร แต่รับรองได้ว่ามีเซอร์ไพรส์อย่างแน่นอน ขณะที่ ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ เลขาธิการพรรคเพื่อฟ้าดิน เปิดเผยว่า ทางพรรคได้ตัดสินใจส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่และเป็นเรื่องใหม่ของพรรค เพราะตั้งแต่ก่อตั้งพรรคมา 8 ปี พรรคเพื่อฟ้าดิน ไม่เคยส่งผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส.เลยสักคน แต่เมื่อเป็นระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ที่พรรคจะต้องส่งผู้สมัครนั้น ทางพรรคก็ได้เรียกประชุมใหญ่สมาชิกพรรคทันที ทั้งนี้ เสียงส่วนใหญ่ของพรรคตัดสินใจส่งนายแก่นฟ้า แสนเมือง ลงสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ โดยมีนโยบายพัฒนาประชาธิปไตยด้วยการเมืองอัจฉริยะ \"สมศักดิ์\" ยัน \"การเมืองใหม่\" ส่งผู้สมัครทั้งแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อแน่ เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ รายงานด้วยว่า ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) กล่าวถึงกรณีที่ นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรค พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรคเสียงข้างมากรวม 10 คน เข้ายื่นหนังสือต่อ กกต.เพื่อขอให้นายทะเบียนพรรคการเมืองระงับการรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรค อันเกิดจากหัวหน้าพรรคฝ่าฝืนนโยบายพรรค ข้อบังคับพรรค และมติที่ประชุมใหญ่ว่า ตนขอยืนยันว่า พรรคจะส่งผู้สมัครทั้งแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ แต่อาจไม่ครบทุกพื้นที่ เนื่องจากได้ดำเนินการเตรียมเลือกตั้งมาโดยตลอด ตามมติที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค เมื่อวันที่ 22 มี.ค.และ 19 เม.ย.2554 ซึ่งกรรมการบริหารพรรค 15 เสียงที่เข้าประชุมเห็นตรงกันว่าให้ส่งผู้สมัครตามเจตนารมณ์ของการจัดตั้งพรรคการเมือง โดยมีบันทึกการประชุมชัดเจน ซึ่งในวันที่ 19 พ.ค.นี้ตนจะนำหลักฐานดังกล่าวมาให้สื่อมวลชนได้ดู เล็งฟ้อง \"สุริยะใส\" โอดกลั่นแกล้งพรรค เมื่อถามถึงกรณีที่ นายสุริยะใส ระบุ ที่ประชุมใหญ่สามัญของพรรคการเมืองใหม่ เมื่อวันที่ 24 เม.ย.2554 มีมติไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง เนื่องจากจะขัดต่อเจตนารมณ์ของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่กำลังรณรงค์โหวตโนได้ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญ มติของที่ประชุมสามัญของสมาชิกพรรคไม่ถือเป็นมติพรรคได้ แต่การส่งผู้สมัครถือเป็นอำนาจของกรรมการบริหารเท่านั้น นอกจากนี้ กฎหมายยังให้หัวหน้าพรรคมีอำนาจดำเนินการแทนพรรคการเมืองได้ ดังนั้นข้อมูลที่ นายสุริยะใส กล่าวอ้างจึงเป็นเรื่องที่ทำให้พรรคเสียหายอย่างมีนัยสำคัญ เพราะทำให้มีผู้สมัครบางรายตัดสินใจลาออกจากการเป็นผู้สมัครด้วย ที่สำคัญ นายสุริยะใส ได้ลาออกจากการเป็นเลขาธิการพรรคแล้ว ซึ่งขณะนี้หนังสือลาออกอยู่ในขั้นตอนของ กกต.ดังนั้น ตนจึงจะกลับไปพูดคุยทำความเข้าใจกับ นายสุริยะใส ในภายหลัง นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า นายสุริยะใส ได้สมคบกับสถานีโทรทัศน์หนึ่ง เพื่อทำให้สังคมเข้าใจเจตนารมณ์ของพรรคผิด และขัดขวางการสมัครรับเลือกตั้งตามแนวทางประชาธิปไตย ดังนั้น ตนจะฟ้องร้องนายสุริยะใส ฐานกลั่นแกล้งพรรคทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดในสาระสำคัญ ซึ่งจะมีโทษจำคุก 2-10 ปี และถือเป็นคดีที่ 3 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ตนได้ฟ้องร้องในคดีกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้ว และคดียักยอกทรัพย์ที่รับบริจาคให้กับพรรคการเมืองใหม่ โดยอยู่ระหว่างดำเนินการ"