Skip to main content
sharethis

ชาวนาอยุธยาเผยหว่านข้าวทั้งน้ำตาและความหวาดกลัว เพราะถูก กฟผ.ใช้รถแบคโฮและรถไถดินขุดดินกลบทำลายข้าวที่ชาวนาหว่านไว้แล้วต่อหน้าต่อตา แจ้งความตำรวจไร้ผลอ้างเกินอำนาจสั่งการ 19 พ.ค. 54 – นักข่าวพลเมืองอยุธยาเผยว่าที่ หมู่ที่ 3 ต.โคกม่วง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ชาวนาหว่านข้าวทั้งน้ำตาและความหวาดกลัว เพราะถูก กฟผ.ใช้รถแบคโฮและรถไถดินขุดดินกลบทำลายข้าวที่ชาวนาหว่านไว้แล้วต่อหน้าต่อตาชาวนาและชาวบ้านโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย และทำลายสิ่งที่ชาวไทยทุกคนกราบไหว้บูชาในวันพืชมงคล รวมทั้งถูกขัดขวางไม่ให้เข้าพื้นที่ทำนาโดยกลุ่มคนที่ กฟผ.จ้างมากว่า 100 คน โดยชาวนาและชาวบ้านรอบข้างที่ทราบข่าวต่างรวมตัวกันออกมาด่าสาปแช่งการกระทำของ กฟผ.และกลุ่มคนดังกล่าวที่ทำลายข้าวทำร้ายแม่โพสพในวันพืชมงคล ทั้งนี้ชาวนาและชาวบ้านที่ทราบข่าวได้ทำการร้องเรียนไปยัง สภอ.ภาชี และสถานีตำรวจประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแล้ว เพื่อให้มาทำการหยุดยั้งการกระทำดังกล่าวแล้ว แต่ไม่ได้รับการช่วยใดๆ โดยอ้างว่าไม่มีอำนาจในการสั่งการ ลำดับเหตุการณ์ วันที่ 11 พ.ค. 54 ที่ผ่านมาชาวนาได้คลาดนา พร้อมหว่านข้าว ถูกผู้รับเหมาของ กฟผ. บุกรุกที่ทำนา และได้ทำลายพื้นนาอย่างบ้าระห่ำ เพื่อให้เกิดความเสียหายให้มากที่สุดโดยผู้รับเหมาของกฟผ. ได้เอารถแบคโฮลงไปในพื้นนา และทำการขุดจกพื้นนาที่ชาวนาได้ คลาดพร้อมหว่านข้าวไว้ จนเสียหาย ชาวนาได้แจ้งความแล้วที่ สภอ.ภาชี แต่ไม่ได้รับการช่วยใดๆเลย วันที่ 12 พ.ค. 54 ชาวนาได้ทำการหว่านข้าวซ้ำอีก เนื่องจากชาวนาถือว่ายังมีสิทธิการเช่านาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทางผู้รับเหมาของ กฟผ. ก็นำรถแม็คโครลงไปในนา พร้อมกับขุดจกกลบข้าว ที่ชาวนาหว่านไว้ ชาวนาได้แจ้งความแล้วที่ สภอ.ภาชี แต่ไม่ได้รับการช่วยใดๆเลย วันที่ 13 พ.ค. 54 ชาวนาถือว่าเป็นวันดี วันพืชมงคล ชาวนาหว่านข้าวเพื่อเอาฤกษ์เอาชัย แต่ถูกทางผู้รับเหมาของ กฟผ. ได้นำรถแทรคเตอร์ไถกลบเมล็ดข้าวอีก ชาวนาได้แจ้งความแล้วที่ สภอ.ภาชี แต่ไม่ได้รับการช่วยใดๆเลย วันที่ 15 พ.ค. 54 ชาวนา ยื่นเรื่องต่อ คชก. ตำบล ให้พิจารณาด่วน เพื่อให้ กฟผ. หยุดการยำยีผืนนา แต่ไม่ได้รับความสนใจ วันที่ 17 พ.ค. 54 ทางผู้รับเหมาของ กฟผ. ได้ล้อมรั้ว เพื่อที่จะปิดกั้นไม่ให้ชาวนาเข้าทำนา ชาวนาได้แจ้งความแล้วที่ สภอ.ภาชี แต่ไม่ได้รับการช่วยใดๆเลย วันที่ 19 พ.ค. 54 ชาวนาเข้าแจ้งความกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่กลับได้รับคำตอบว่าสั่งการไม่ได้ และพูดจาเสียงดังตะโคกใส่ชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อน ความเป็นมาของการคัดด้านการก่อสร้างสถานีส่งไฟฟ้าภาชี ๒ ของ กฟผ. กฟผ.ได้ซื้อที่ดิน ๒๐๓ ไร่ไว้ที่หมู่ ๓ ต.โคกม่วง อ.ภาชี เพื่อก่อสร้างสถานีส่งไฟฟ้าภาชี ๒ ซึ่งเป็นสถานีไฟฟ้าแรงสูงขนาดใหญ่ ที่จะรับกระแสไฟจากหลายแห่งเกือบทั่วประเทศ และจะเริ่มลงมือปรับถมที่ดินเพื่อก่อสร้างสถานีส่งไฟฟ้าย่อยภาชี ๒ สาเหตุของการคัดค้านของชาวบ้านคือ: ๑. ชาวนาที่เช่านาในที่ กฟผ.ไม่ยินยอมและอ้างสิทธิตาม พ.ร.บ.การเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ๒๕๒๔ ที่คุ้มครองผู้เช่านาให้สามารถทำนาต่อไปได้ แม้จะมีการเปลี่ยนมือเจ้าของที่ดิน ซึ่งผู้เช่านาที่ทำนาในที่ดิน กฟผ.ได้ทำนาต่อเนื่องกันมากว่า ๑๐ ปีแล้วสามารถอ้างสิทธิในการเช่านาได้ถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งใน พ.ร.บ.การเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ๒๕๒๔ ยังระบุว่า การเช่านาแต่ละครั้งมีกำหนดเวลาไม่น้อยกว่า ๖ ปี ดังนั้น กฟผ.ไม่สามารถไล่ผู้เช่านาออกไปได้ในขณะนี้ จึงไม่สามารถก่อสร้างได้ ๒. สถานีไฟฟ้าย่อยภาชี ๒ จะก่อให้เกิดเคลื่อนแม่เหล็กไฟฟ้าตลอด ๒๔ ชั่วโมงซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงอาจก่อให้เกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาว และมะเร็งอื่น ๆ ได้ ๓. ที่ดิน ๒๐๓ ไร่เมื่อมีการถมสูงเพื่อการก่อสร้างจะปิดกั้นการระบายน้ำในหน้าน้ำ หรือเมื่อมีฝนตกหนักทำให้น้ำท่วมที่ของชาวบ้านและบ้านเรือนที่อยู่ใกล้เคียงได้ ๔. จะมีเสียงดังรบกวนชุมชนจากการก่อสร้าง เพราะบริเวณโดยรอบมีเกษตรกรเลี้ยงสัตว์จำนวนมาก ซึ่งจะกระทบอย่างร้ายแรง และรบกวนนกที่อยู่ในระบบนิเวศน์ของชาวนาที่มาช่วยกินหอยในนาข้าว ๕. จะมีการขุดดินเป็นบ่อขนาดใหญ่เพื่อเอาดินไปถมสูงเพื่อก่อสร้างสถานีส่งไฟฟ้าย่อยภาชี ๒ และน้ำในบ่อน้ำจะเป็นน้ำเสีย น้ำกร่อย น้ำเปรี้ยว ไม่สามารถใช้ประโยชน์ในการเกษตรได้ และถ้าน้ำล้นบ่อไปเข้านาชาวบ้าน นาจะเสียหาย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net