Skip to main content
sharethis

\สรรเสริญ แก้วกำเนิด\" ยันไม่เคยขอให้ \"สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ\" ถอนฟ้อง แจงไม่ได้เอ่ยชื่อไม่ได้แถลงทั้งเอกสารและวาจาว่าสุธาชัยอยู่ในขบวนการล้มเจ้า แต่สังคมต้องใช้ดุลยพินิจเองว่าคนในผังเกี่ยวข้องสัมพันธ์อย่างไร เว็บไซต์แนวหน้า รายงานวานนี้ (26 พ.ค.) ว่า พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกมาแถลงถึงกรณีที่ศาลมีคำสั่งถอนฟ้องตนเองในข้อหาหมิ่นประมาท ที่ไปพูดถึงนายสุธาชัย อยู่ในขบวนการล้มเจ้า ซึ่งเกิดจากการที่ตนเองไปขอให้ถอนฟ้องและเป็นฝ่ายขอยอมความนั้น ไม่เป็นความจริง และขอยืนยันว่าการออกมาชี้แจงครั้งนี้เป็นการพูดในฐานะส่วนตัวเพราะถูกพาดพิง จาก อ.สุธาชัย โดยไม่อยากอธิบายความให้มากนัก เพราะช่วงนี้ใกล้เลือกตั้งอาจถูกบางฝ่ายนำประเด็นไปเกี่ยวข้องกับการเมือง ส่วนที่ว่า เนื้อหาที่ได้แถลงข่าวที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) นั้นเป็นแค่เพียงความเชื่อ ไม่มีข้อมูลหลักฐานนั้น พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ก็ไม่เป็นความจริง ซึ่งการไกล่เกลี่ย ตนได้อธิบายชี้แจงต่อหน้าศาล ต่อหน้า อ.สุธาชัย ทนายความของ อ.สุธาชัย ทนายความของตน และนายทหารพระธรรมนูญว่า สิ่งที่นำมาเปิดเผยคือข้อมูลที่หน่วยงานด้านความมั่นคง ซึ่งตั้งขึ้นมาตั้งแต่สมัยนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี โดยออกเป็นคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี มีหลักฐาน พยาน ยืนยัน จึงได้มีการนำหลักฐาน เอกสารไปแถลงต่อสื่อมวลชน ขณะนี้เรื่องอยู่ในกระบวนการยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กำลังดำเนินการอยู่ จะบอกว่าเป็นความเชื่อของ ศอฉ.เฉยๆ ไม่มีพยานหลักฐาน คงไม่ใช่ ส่วนที่ว่ามีการสื่อสารว่า อ.สุธาชัย อยู่ในขบวนการนั้น พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ตนไม่ได้สื่อสาร ไม่ได้เอ่ยชื่อ และ รายชื่อที่อยู่ในผังก็ไม่มีคำเขียนอื่นใดว่า อาจารย์ได้ร่วมอยู่ในคณะของขบวนการ เมื่อไม่มีคำแถลงออกมาเป็นวาจา เมื่อไม่มีคำแถลงอยู่ในเอกสาร สังคมก็ต้องพิจารณาว่า บุคคลที่เกี่ยวข้องในผังมีการเกี่ยวข้องในลักษณะใดเป็นญาติพี่น้อง เป็นคนที่เคยรู้จัก เป็นคนที่ทำธุรกิจร่วมกันอย่างไร ซึ่งรายละเอียดมีอยู่ในผัง แล้วสังคมจะใช้ดุลยพินิจเองว่า ใครมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์อย่างไร การสื่อสารต่างกัน เรื่องนี้มีข้อกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้อง “สิ่งที่อาจารย์สุธาชัย มาแถลงว่าโฆษก ศอฉ. พยายามที่จะติดต่อเพื่อขอให้ถอนฟ้อง ไม่เป็นความจริง เพราะการจะถอนฟ้อง การไกล่เกลี่ยของศาล ต้องเป็นความยินยอมของทั้งสองฝ่าย ผมไม่อยากวิเคราะห์ว่าที่เขาแถลงเช่นนี้เพราะอะไร แต่ช่วงนี้อยู่ในช่วงการเลือกตั้ง ถ้าอธิบายความมากไปกว่านี้ ก็จะถูกหยิบยกเอาไปตีความว่าเข้าข้างพรรคโน่นพรรคนี้ ผมกับอาจารย์ ไม่เคยติดต่อกันโดยตรง แต่ผ่านทางทนายความ และ ทหารพระธรรมนูญมาแจ้งว่า ทางศาลท่านนัดไกล่เกลี่ย ทาง อ.สุธาชัย ก็เห็นพ้องให้ไกล่เกลี่ย ก็ไปพูดหน้าบัลลังก์ศาล ไม่ได้ยืนคุยกันสองคนโดยไม่มีมนุษย์ที่ไหนฟัง” พ.อ.สรรเสริญ ระบุ"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net