"ณัฐวุฒิ" ดีเบต "ชำนิ" ออกรายการสรยุทธ์: อภิปรายหนักเรื่องใครคือเสียงข้างมาก ใครจะตั้งรัฐบาล

\ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ\" เสนอให้พรรคที่ได้ ส.ส. อันดับหนึ่งตั้งรัฐบาล ส่วน \"ชำนิ ศักดิเศรษฐ์\" เสนอใครรวมเสียงพรรคต่างๆ เกินครึ่งได้ตั้งรัฐบาล ย้ำถ้าไม่มีพรรคใดได้เสียงเกินครึ่ง หน้าที่เป็นของสภา ลั่นถ้าเพื่อไทยเกิน 251 เสียงจะไม่ตั้งรัฐบาลแข่ง เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา ในรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์โต้กัน มีนายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดาเป็นผู้ดำเนินรายการ ตอนหนึ่งนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถูกรุมเล่นงานจากโครงสร้างอำนาจในสังคมไทย ที่เรียกรวมกันว่าระบอบอำมาตยาธิปไตย ประชาธิปัตย์เป็นกลไกหนึ่งของระบอบนี้ หมายความว่าเมื่อรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนถูกโค่นล้มลงไปด้วยวิธีนอกระบบก็จะต้องมีอีกพรรคการเมืองหนึ่งมารับช่วงต่ออำนาจนี้ เพื่อให้กลไกของอำมาตยาธิปไตยกลับสู่ที่ตั้ง วันนี้ภาพปรากฏชัดว่าประชาธิปัตย์ทำหน้าที่นั้น ด้านนายชำนิ ปฏิเสธว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้อยู่ในกลไกดังกล่าว และประชาธิปัตย์ไม่ได้ประโยชน์จากการโค่นล้มคุณทักษิณ แต่ประชาธิปัตย์อาจจะได้รับผลกระทบน้อยกว่าคุณทักษิณ การที่ประชาธิปัตย์มาเป็นรัฐบาล มาทางเดียวกับคุณสมัคร และสมชายเป็น คือโหวตในสภา เป็นเครื่องมือของระบอบประชาธิปัตย์มาจากเงื่อนไขในสภา นายณัฐวุฒิโต้ว่า พวกผมมาเป็นรัฐบาลเพราะพวกผมชนะเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์แพ้การเลือกตั้งติดต่อกันมาแล้วเกือบ 20 ปี ทุกครั้งที่เป็นรัฐบาลก็วิธีการพิเศษ ยุคท่านชวนก็ว่าไป แต่ยุคคุณอภิสิทธิ์ว่าเกี่ยวเนื่องมาตั้งแต่การโค่นล้มทักษิณ สมัคร สมชาย จนมาเป็นประชาธิปัตย์ในที่สุด นายชำนิ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นเสียงข้างมาก พรรคพลังประชาชนไม่ได้ชนะการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เสียงเกินครึ่งหนึ่งเป็นเสียงของสภา ไม่ใช่เสียงของพรรคพลังประชาชน ถ้าวันนั้นพรรคพลังประชาชน 251 เสียงก็จบ แต่พลังประชาชนยังต้องอาศัยเสียงคนอื่นมาเป็นรัฐบาล การจัดตั้งรัฐบาลในสภาปี 2544 2548 2550 เป็นการตั้งโดยสภา ถ้าครั้งนี้พรรคเพื่อไทยได้เสียงเกินครึ่งก็จบ ในการตั้งรัฐบาลในสภาประชาธิปัตย์เสนอแข่งทุกครั้ง เพราะประชาธิปัตย์ไม่เคยลังเลที่แพ้แล้วจะเป็นฝ่ายค้าน การเลือกตั้งครั้งนี้ ทุกคนต้องเห็นร่วมกันว่าจะเป็นจุดนับหนึ่งในการสร้างสันติ คือปล่อยให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยบริสุทธิ์ ยุติธรรม แล้วผลการเลือกตั้งเป็นอย่างไรต้องเคารพเจตนารมย์ของประชาชน จะต้องไม่มีคำพูดว่าเพื่อไทยชนะถึงยังไงก็ไม่ได้เป็นรัฐบาล ทีคุณชำนิพูดไม่ปฏิเสธว่าใครรวมเสียงข้างมากได้ตั้งรัฐบาล นี่ถูกต้อง แต่ไม่ถูกกับสถานการณ์ในประเทศไทย เวลานี้ประชาชนต้องการการเลือกตั้ง แล้วอยากให้รู้แพ้รู้ชนะในสนาม ใครชนะเป็นรัฐบาลไปก่อน เมื่อเป็นรัฐบาลแล้วก็สร้างกระบวนการปรองดองแล้วมาว่ากันใหม่ นายณัฐวุฒิตอบคำถามสรยุทธ์ว่า เห็นด้วยที่ว่าพรรคอันดับหนึ่งต้องตั้งรัฐบาลได้ พูดตรงไปตรงมามีพรรคเดียวเท่านั้นถ้าพรรคเดียวชนะจะไม่ได้ตั้งรัฐบาลคือพรรคเพื่อไทย ชาติไทยชนะ ภูมิใจไทยชนะ ประชาธิปัตย์ชนะได้เป็นรัฐบาลหมด นายชำนิ โต้ว่า การปรองดองเดี๋ยวนี้ต้องยอมรับร่วมกันเป็นทางออกของวิกฤต และต้องยอมรับว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ต้องจบในสนามเลือกตั้ง ต้องไม่เคลื่อนไหวในการขัดขวางการเลือกตั้ง และเมื่อแพ้เลือกตั้งมาเคลื่อนไหวคัดค้านไม่ให้คนอื่นมาจัดตั้งรัฐบาล ถ้าเพื่อไทยชนะก็ตั้งรัฐบาล แต่ประชาธิปัตย์จะไม่ตั้งแข่งได้อย่างไร คุณเกิน 251 หรือเปล่า ถ้าคุณเกิน 251 ผมก็ไม่แข่ง จะไปแข่งได้อย่างไรในเมื่อเพราะผมมี 249 ถ้าวันนี้ไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมากก็เป็นความชอบธรรมของสภา เพราะฉะนั้นปัญหาอยู่ที่เมื่อเลือกตั้งจบแล้ว กลัวอย่างเดียว เวลาคนอื่นจะตั้งรัฐบาลทุกเสื้อจะออกมาขัดขวาง เคลื่อนไหวอีก ดังนั้นต้องยอมรับตรงนี้ก่อน นายชำนิย้ำด้วยว่า พรรคประชาธิปัตย์จะไม่มีวันใช้เงื่อนไขอย่างอื่นมากดดันนอกสภา นายสรยุทธ์ถามว่า \"คุณชำนิว่า อะไรก็แล้วแต่มันอยู่ที่ใครสามารถรวมได้เกินครึ่ง หลักอยู่ตรงนี้ อีกฝั่งต้องยอมรับ\" นายชำนิตอบว่า \"แน่นอน ถูกต้องครับ\" นายณัฐวุฒิ กล่าวโต้ว่า แพ้ชนะกันอย่างไรดูกันวันที่ 3 ก.ค. แต่ถ้าพรรคประชาธิปัตย์แสดงท่าทีแบบนี้ ประชาชนจะไม่สบายใจ เพราะเขาเห็นว่าถ้าเพื่อไทยชนะได้คะแนนมากๆ แล้ว แทนที่จะยอมรับ ก็กลายเป็นว่าจะต้องมาดึงมายื้อ มาตั้งรัฐบาลแข่งกัน พวกผมไม่เคยแพ้การเลือกตั้งแล้วออกมาป่วน พวกผมมีแต่ชนะการเลือกตั้งแล้วถูกล้มด้วยวิธีนอกระบบ แล้วผมเชื่อว่าประชาชนไม่ต้องการภาพนี้ เพราะประชาชนต้องการให้บ้านเมืองไปตามกลไก ตามเจตนารมย์ของประชาชน นายสรยุทธ์ถามว่า \"ถ้าได้อันดับ 2 ประกาศเป็นฝ่ายค้านเลย\" นายณัฐวุฒิตอบว่า \"ก็คงจะเป็นแบบนั้น เพราะประชาธิปัตย์ก็คงจะต้องเกี่ยวพันกับพรรคร่วมรัฐบาล อย่างน้อยกับพรรคภูมิใจไทยก็เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอยู่\" นายชำนิ กล่าวด้วยว่า ถ้าพรรคใดได้เสียงข้างมากก็จบ ถ้าไม่ได้ก็ต้องขึ้นอยู่กับสภา แม้ผมได้มากกว่าคุณ (เพื่อไทย) ก็แข่งผมเถอะ ช่วยแข่งผมด้วย เพราะที่ผ่านมาก็ไม่กล้าเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภา นายสรยุทธ์ถามว่า \"คุณณัฐวุฒิบอกว่าพรรคการเมืองอันดับหนึ่งคือเสียงประชาชนบอกว่าคุณเป็นรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์กำลังบอกว่าใครก็ตามที่สามารถรวบรวมเสียงข้างมาก ได้เกินครึ่งในสภานั่นคือเสียงประชาชนให้เป็นรัฐบาล มันคนละหลักใช่ไหมครับ\" นายชำนิตอบว่า \"ถูกต้อง เราเลือกผู้แทนนี่ครับ\" ด้านนายณัฐวุฒิถามว่า \"ตอนเลือกตั้งแข่งกับ พล.อ.ชวลิต พรรคความหวังใหม่ ได้ 125 เสียง ประชาธิปัตย์ได้ 123 คุณชวนบอกว่าไม่ตั้งรัฐบาลแข่ง ตอนนั้นเป็นอย่างไร\" นายชำนิบอกว่า ตอนนั้นเป็นการตั้งรัฐบาลนอกสภา ไม่มีการโหวตในสภา ด้านนายสรยุทธ์เสริมว่าเป็นคนละรัฐธรรมนูญ นายชำนิย้ำว่า ตราบใดที่ไม่มีเสียงเกินครึ่งหนึ่ง หน้าที่เป็นของสภา ด้านนายณัฐวุฒิ ถ้าคุณชำนิประกาศว่าประชาธิปัตย์ว่าไม่คิดแพ้ ผมเพื่อไทยก็คิดชนะ ถ้าต่างฝ่ายต่างมั่นใจว่าจะชนะ ถ้าใครแพ้ก็ไม่ตั้งรัฐบาลง่ายเลย นายชำนิเสนอว่า การเลือกตั้งเที่ยวนี้ให้จบในสนามเลือกตั้ง พอเลือกตั้งจบแล้ว มันต้องไม่ใช้การเคลื่อนไหวใดๆ มาก่อกวนอยู่ภายนอกจนตั้งรัฐบาลไม่ได้ นี่ต่างหาก เพราะอะไร เพราะขบวนทักษิณ พรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดง และกองกำลังไม่ทราบฝ่าย ยังเป็นเครื่องมือในการเคลื่อนไหวทางการเมืองในขณะนี้ พรรคประชาธิปัตย์ไปตรงไหนยังมีคนเสื้อแดงออกมาต่อต้าน ด้านนายณัฐวุฒิ โต้ว่า พวกตนไม่เคยทำอย่างนั้นเพราะไม่เคยแพ้เลือกตั้ง มีแต่ชนะแต่ไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเมื่อถึงสถานการณ์นั้นแล้วจะเคลื่อนไหวหรือไม่ก็ต้องมาดูว่าเวลานั้นมันเกิดอะไรขึ้น เป็นไปได้อย่างไร เข้าไปคุยกันในค่ายทหารหรือไม่ พรรคร่วมรัฐบาลมีอิสระในการตัดสินใจหรือไม่ นายชำนิปฏิเสธด้วยว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยขนคนมาร่วมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขับไล่รัฐบาล แต่วันที่เพื่อไทยเจ็บใจที่สุดคือตั้งรัฐบาลรอบสามไม่ได้ เพราะอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีมาสองปี มีนาทีไหนบ้างที่ไม่ถูกต่อต้านจากกลุ่มของคุณณัฐวุฒิ นายณัฐวุฒิ เป็นเสียงข้างมากมาตลอด จนถึงทุกวันนี้ก็มีเสียงมากที่สุดในสภา นายชำนิย้ำด้วยว่า มันเสียงข้างมากตรงไหน ถ้าเสียงข้างมาก ผมจะตั้งรัฐบาลได้อย่างไร นายณัฐวุฒิย้ำว่า ผมบอกว่าเสียงมากที่สุดสภา หมายถึงในบรรดาพรรคการเมืองด้วยกัน ถ้าผมมีเสียงมากที่สุด รวมทั้งหมดทุกพรรคผมก็ต้องเป็นรัฐบาล"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท