Skip to main content
sharethis

เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงสนธิกำลังกว่า 300 นายปิดล้อม “บ้านใหม่หนองผึ้ง” ที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งอยู่ในที่ดิน สปก. โดยแจ้งให้สมาชิกชุมชนย้ายออกไปภายใน 120 วัน หากไม่ย้ายออกไปเจ้าหน้าที่จะมารื้อเอง ตั้งแต่เช้ามืดของวันที่ 9 มิ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ความมั่นคง จากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) จ.เชียงใหม่ นำโดย พ.อ.อัครวัฒน์ วุฒิเดชโชติโภคิน หัวหน้ากลุ่ม งานข่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงใหม่สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ราว 300 นายตำรวจ สภ.แม่แตง ตำรวจ ตชด. ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ปปส. เจ้าหน้าที่สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.เชียงใหม่ และ เจ้าหน้าที่สำนักงานแรงงาน จ.เชียงใหม่ โดยเข้าปิดล้อมพื้นที่บ้านใหม่หนองผึ้งหมู่ 18 ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ในที่ดิน สปก. 4-01 โดยผู้อาศัยส่วนใหญ่เป็นชาวไทใหญ่ถือบัตรสถานะบุคคลบนพื้นที่สูง (สีเขียวขอบแดง) และส่วนหนึ่งถือบัตรอนุญาตทำงานแรงงานต่างด้าว เจ้าหน้าที่ด้านสิทธิแรงงาน ขององค์กรพัฒนาเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ระุบุว่า ในการปิดล้อมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ซึ่งสนธิกำลังมากว่า 300 นาย ได้ทำการสำรวจชุมชน พบมีผู้อาศัยทั้งหมด 63 หลังคาเรือน รวม 162 คน ขณะที่บ้านที่เหลือ 100 กว่าหลังคาเรือนถูกทิ้งร้าง โดยเจ้าหน้าที่ได้บันทึกข้อมูลสมาชิกทั้งหมดและทำประวัติ และชี้แจงว่าการถือครองที่ดินเป็นการทำผิดกฎหมาย และขอให้ชาวชุมชนลงบันทึกถ้อยคำยินยอมว่าจะย้ายออกจากพื้นที่ในเวลา 120 วัน หรือภายใน 1 ต.ค. นี้ โดยให้รื้อถอนวัสดุไปสร้างสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่อื่น แต่หากไม่มีการรื้อถอน เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงจะมาดำเนินการรื้อถอนเอง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ให้ครอบครัวที่มีบุตรหลานเรียนอยู่ในพื้นที่ มาลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงใหม่ เขต 2 เพื่อหาสถานที่เรียนใหม่ หากต้องย้ายตามผู้ปกครองไปอยู่ในพื้นที่อื่น ขณะที่เจ้าหน้าที่จากสำนักงานแรงงาน จ.เชียงใหม่ ได้เชิญนายจ้างของคนในชุมชนมาพูดคุย เพื่อขอให้นายจ้างจัดหาที่อยู่อาศัยใหม่ให้กับแรงงานในชุมชนดังกล่าวด้วย ในวันเดียวกัน พ.อ.โอม สิทธิสาน รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) จ.เชียงใหม่ ได้ให้สัมภาษณ์วิทยุ อสมท.เชียงใหม่ ในวันที่ 9 มิ.ย. ว่ามีข้อมูลว่าแรงงานข้ามชาติ อาศัยในพื้นที่หมู่ที่ 18 ต.อินทขิล ในพื้นที่ 70 ไร่ และตั้งแต่ปี 2551 มีความพยายามรื้อถอน แต่คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจด้านที่ดินและป่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอให้ชะลอการรื้อถอน เพื่อให้ชาวบ้านมีโอกาสหาสถานที่อยู่ใหม่ การดำเนินการผลักดันจึงไม่คืบหน้า มีคนมาอาศัยเพิ่มขึ้น กอ.รมน.เชียงใหม่ ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง พิจารณาแล้วเห็นว่ากระทบความมั่นคงจังหวัด ยาเสพย์ติด การค้ามนุษย์เกี่ยวข้อง ทำให้เจ้าหน้าที่จึงปิดล้อมพื้นที่ดังกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับชุมชนบ้านใหม่หนองผึ้งดังกล่าวตั้งขึ้นในปี 2547 เมื่อเจ้าของที่ดิน สปก. เดิมที่มีที่ดินแปลงติดกันรวม 3 ราย พื้นที่กว่า 70 ไร่ ต้องการขายสิทธิที่ดิน คนเฝ้าสวนซึ่งเป็นชาวไทใหญ่ ถือบัตรสถานะบุคคลบนพื้นที่สูง (เขียวขอบแดง) จึงขอซื้อต่อ แต่เงินไม่พอจึงพากันชักชวนครอบครัวและญาติพี่น้องช่วยกันซื้อที่ดินคนละ แปลงๆ ละประมาณ 80-100 ตารางวา ราคาแปลงละ 20,000 บาท โดยไม่รู้ว่าที่ดิน สปก. ตามกฎหมายข้ามซื้อขาย แบ่งแยก โอนสิทธิ์ และต้องใช้ประโยชน์ด้านเกษตรกรรมเท่านั้น และจากเดิมที่มีชาวบ้านไทใหญ่เข้ามาอาศัยไม่กี่สิบราย ต่อมาก็มีการชักชวนญาติพี่น้องที่เป็นชาวไทใหญ่ด้วยกันซึ่งอาศัยอยู่แถบ ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ซึ่งถือบัตรสถานะบุคคลบนพื้นที่สูง (สีเขียวขอบแดง) และส่วนหนึ่งถือบัตรอนุญาตทำงานแรงงานแต่งด้าวมาร่วมซื้อที่ดินเพื่อสร้าง ที่พักอาศัย ในปี 2551 ชุมชนบ้านใหม่หนองผึ้งมีบ้านกว่า 150 หลังคาเรือน ประชากรกว่า 1,000 คน ส่วนใหญ่ชาวบ้านรับจ้างทำเกษตรกรรมตามฤดูกาล โดยเมื่อปี 2547 ชุมชนแห่งนี้เคยได้รับการแต่งตั้งจากนายสุวัฒน์ ตันติพัฒน์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ ในขณะนั้น ให้เป็นหมู่บ้านชุมชนเข้มแข็งด้วย ต่อมา เมื่อเดือนเมษายนปี 2551 เคยถูกเจ้าหน้าที่ สปก. และเจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังเข้าตรวจสอบและจับกุม และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ขอให้หน่วยงานราชการในพื้นที่ชะลอการรื้อถอนชุมชนเพื่อให้ชาวบ้านมีโอกาสหาที่อยู่ใหม่ ทำให้หลังจากนั้นสมาชิกในชุมชนบางส่วนย้ายออกไป เหลือเพียง 63 หลังคาเรือน และล่าสุดมีเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงจาก กอ.รมน. จ.เชียงใหม่ ได้เข้ามาเร่งรัดการรื้อถอนดังกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net