Skip to main content
sharethis

วันที่ 25 มิ.ย.54 จากรณีที่คณะกรรมการผังเมืองระดับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้เปิดประชุมพิจารณาคำร้องเรื่องผังเมืองรวมชุมชนบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมองค์การบริหารจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังจากที่ได้ทำการปิดประกาศเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน 90 วันไปแล้วนั้น นายเสวก พิมสอ แกนนำกลุ่มเครือข่ายอนุรักษ์บางสะพานกล่าวว่า เครือข่ายกลุ่มอนุรักษ์ประจวบคีรีขันธ์ ได้ไปร่วมกันติดตามเรื่องและอธิบายข้อมูลเพิ่มเติมต่อกรณีดังกล่าว เพราะประเด็นใหญ่คืออุตสาหกรรมเหล็กบางสะพานได้ยื่นขอเปลี่ยนสีผังเมืองจากพื้นที่เกษตร พื้นที่อนุรักษ์ป่าไม้ พื้นที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย พื้นที่อุตสาหกรรมประมง ซึ่งกินขอบเขตประมาณ 80% ของตำบลแม่รำพึง และประมาณ 60% ของตำบลกำเนิดนพคุณ ไปเป็นพื้นที่สีม่วงสำหรับทำอุตสาหกรรมและคลังสินค้า นายเสวกกล่าวว่า ข้อเสนอดังกล่าวชาวบ้านยื่นคัดค้านทั้งหมด และเสนอให้เปลี่ยนพื้นที่อุตสาหกรรมเดิมบริเวณที่ก่อสร้างโรงถลุงเหล็กสหวิริยาให้เป็นพื้นที่เกษตร ด้วยเหตุผลคือมีการผนวกเอาบ้านและสวนมะพร้าวของชาวบ้านที่ไม่ต้องการขายที่ดินไปเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม และเป็นการตัดโอกาสการพัฒนาที่ดินเพื่อการท่องเที่ยว นอกจากนี้ สภาพพื้นที่ที่ลุ่มต่ำรองรับน้ำเอ่อล้นจากป่าพรุแม่รำพึงและเป็นช่องไหลหลากของน้ำจากพื้นที่ใกล้เคียง เหมือนแก้มลิง การทำโรงถลุงเหล็กต้องปรับถมที่ดินให้สูงประมาณ 7 เมตร จึงกีดขวางทางน้ำและลดพื้นที่รองรับน้ำ ซ้ำเติมปัญหาน้ำท่วมในบางสะพานและพื้นที่ตำบลธงชัย บ้านกรูด ให้รุนแรงขึ้น นายเสวก กล่าวด้วยว่า การทำผังเมืองที่ดีต้องช่วยแก้ปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดินไม่เหมาะสมกับสภาพ และยืนยันว่าการทำนิคมอุตสาหกรรมเหล็กที่บางสะพานสร้างความขัดแย้งทางสังคมมาโดยตลอด และมีประเด็นที่อุตสาหกรรมเหล็กอ้างว่าได้ทำสัญญาร่วมกับการนิคมอุตสาหกรรมในการทำนิคมอุตสาหกรรมที่บางสะพานไว้แล้ว ซึ่งเครือข่ายจะต้องติดตามต่อไป ส่วนนางจินตนา แก้วขาว ประธานกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบ้านกรูด กล่าวว่า การขยายพื้นที่อุตสาหกรรมเหล็กบางสะพานจะเกิดผลกระทบต่อการใช้ประโยชน์ที่ดินในประจวบฯ โซนใต้ทั้งหมดตั้งแต่อำเภอทับสะแก บางสะพาน และบางสะพานน้อย จากโครงการที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จะสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินทับสะแก ปตท.จะทำคลังก๊าซ เพื่อเป็นฐานพลังงานป้อนอุตสาหกรรมเครือสหวิริยา พื้นที่อำเภอบางสะพานน้อย กฟผ.ได้ระบุว่าเป็นพื้นที่เหมาะสมในการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่บ้านฝั่งแดงและบางเบิด ทำให้เห็นได้ว่าผลกระทบจะเกิดอย่างต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ แน่นอนว่าการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่บ้านกรูด พื้นที่เกษตร กิจการประมง ต้องถูกผลกระทบถึงขั้นล่มสลายจากมลพิษแน่นอน ดังนั้นจึงต้องช่วยกันคัดค้านพื้นที่อุตสาหกรรมบางสะพานไม่ให้มีเพิ่มจากเดิมที่มีอยู่ นางจินตนา กล่าวแสดงความห่วงใยด้วยว่า คณะกรรมการผังเมืองระดับจังหวัดส่วนใหญ่เป็นข้าราชการที่โยกย้ายมาจากที่อื่นมาอยู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์จะไม่เข้าใจชาวบ้านที่ต้องอยู่ประจวบคีรีขันธ์ตลอดไป “ถึงอุตสาหกรรมเหล็กจะไม่สามารถสร้างได้ที่บางสะพานก็ยังสามารถโยกย้ายไปที่อื่นได้เช่นปัจจุบันก็ไปซื้อกิจการโรงถลุงที่อังกฤษ เราก็ไม่ค้าน แต่ถ้าตั้งที่ข้างบ้านเรา พวกเรายืนยันคัดค้านจนถึงที่สุดแน่” นางจินตนากล่าว ที่มา:ศูนย์ข้อมูลและข่าวสืบสวนเพื่อสิทธิพลเมือง (TCIJ)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net