Skip to main content
sharethis

และมีหลายนโยบายไม่เป็นไปตามที่หาเสียงไว้กับประชาชน ชี้นโยบายกองทุนละล้านให้หมู่บ้านเสื้อแดงจะสร้างความรู้สึกแบ่งแยก วอน \เพื่อไทย\" ไม่ควรใช้แนวทางนี้เล่นการเมือง-จะเป็นการทำลายประเทศชาติ พร้อมแนะหากรัฐบาลไม่มีส่วนช่วยทักษิณให้เข้าญี่ปุ่น ต้องทำหนังสือประท้วงญี่ปุ่น อภิสิทธิ์ชี้นโยบายที่ \"เพื่อไทย\" เตรียมแถลงไม่เป็นไปตามที่หาเสียงกับประชาชน วันนี้ (21 ส.ค.) สำนักข่าวแห่งชาติ รายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า รายละเอียดด้านนโยบายของรัฐบาลที่จะมีการแถลงต่อรัฐสภา ในวันที่ 23-24 สิงหาคม นี้ มีหลายนโยบายที่ไม่เป็นไปตามที่รัฐบาลได้เคยหาเสียงไว้กับประชาชน ซึ่งจะต้องมีการนำเรื่องนี้ไปอภิปรายในที่ประชุม ทั้งนี้มองว่า นโยบายในภาพรวมของรัฐบาล ไม่มีภูมิคุ้มกันเพื่อจะรองรับเศรษฐกิจโลก ที่อาจจะเกิดภาวะวิกฤติขึ้นอีกรอบ พร้อมยอมรับว่ามีความกังวล กรณีการให้สัมภาษณ์ของรัฐมนตรีเศรษฐกิจบางคน ที่ระบุว่าไม่กังวลหรือไม่จำเป็นที่จะต้องแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งส่วนตัวมองว่าเป็นการพูดเพื่อปัดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับรัฐบาล ซึ่งจริงๆจะตัดปัญหาเงินเฟ้อไปไม่ได้ เพราะปัญหาเงินเฟ้อจะทำให้สินค้าราคาสูงขึ้น ประชาชนได้รับผลกระทบโดยตรง ขณะที่มองว่าประชาชนหลายกลุ่มจะไม่ได้รับประโยชน์จากนโยบายบางนโยบายของ รัฐบาลโดยตรง แต่ก็ต้องมารับภาระในส่วนนี้ด้วย ซึ่งรัฐบาลควรจะสร้างกรอบนโยบายที่ชัดเจนเพื่อป้องกันปัญหา โดยเฉพาะกรอบนโยบายการคลัง พร้อมระบุด้วยว่า นายกรัฐมนตรีไม่จำเป็นที่จะต้องลงไปทำหรือเชี่ยวชาญในทุกเรื่อง แต่เรื่องหลักๆ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีจะต้องสามารถตัดสินใจให้เป็นทิศทางของรัฐบาลในภาพร่วม เพื่อให้สามารถคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ขณะที่การพยายามกดดันธนาคารแห่งประเทศไทย ให้หยุดการขึ้นดอกเบี้ยนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การกดดันธนาคารแห่งประเทศไทย จะส่งผลกระทบให้ธนาคารแห่งประเทศไทยสูญเสียความเป็นอิสระในการทำงาน ทั้งนี้การแสดงความคิดเห็นต่างๆ ควรกระทำด้วยความระมัดระวัง และรัฐบาลควรจะมีการพูดคุยกันภายใน ไม่ควรจะมาพูดคุยผ่านสื่อมวลชน เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาระหว่างกัน หากมีกองทุนหมู่บ้านละล้านให้คนเสื้อแดงจะสร้างความรู้สึกแบ่งแยก ส่วนกรณีการเปิดตัวหมู่บ้านคนเสื้อแดง เพื่อประชาธิปไตย ในจังหวัดอุดรธานี ว่า ส่วนตัวอยากฟังแนวทางและนโยบายจากทางรัฐบาลว่าจะดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างไร ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เคยแสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจน ว่า ไม่ควรที่จะให้มีการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้น ส่วนที่มีการพูดถึง การมอบเงินกองทุนให้หมู่บ้านคนเสื้อแดง หมู่บ้านละ 1 ล้านบาท นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากมีการพูดถึงเรื่องเงินอาจจะเป็นการสร้างความรู้สึกแบ่งแยก และกดดันประชาชน ซึ่งไม่สอดคล้องกับเป้าหมายเรื่องความสามัคคี ความเสมอภาค และการสร้างปรองดอง แต่เป็นการส่งสัญญาน ถึงการจัดสรรงบประมาณ ว่าจะส่งไปยังหมู่บ้านคนเสื้อแดงก่อน ซึ่งจะทำให้เกิดความแตกแยกในสังคม เป็นการสร้างแรงจูงใจที่จะทำให้เกิดหมู่บ้านคนเสื้อแดงมากขึ้น ทั้งนี้เชื่อว่าการกระทำดังกล่าว จะทำให้หมู่บ้านคนเสื้อแดงก่อตั้งขึ้นเพื่อเจตนาอื่น ไม่ใช่การแสดงสัญลักษณ์เหมือนที่ผ่านมา ทั้งนี้มองว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสร้างการแบ่งแยกคนไทยในลักษณะนี้ และคนเสื้อแดงก็สามารถที่จะดำเนิน และทำกิจกรรมทางการเมืองได้ ตราบเท่าที่ยังไม่กระทำผิดกฎหมาย นายอภิสิทธิ์ กล่าวฝากไปยังพรรคเพื่อไทยด้วยว่า ไม่ควรใช้แนวทางนี้เล่นการเมือง เพราะที่ผ่านมาได้มีการพยายามที่จะทำให้ประเทศเดินหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้อง การเล่นการเมืองแบบนี้จะเป็นการทำลายประเทศชาติ แนะหากรัฐบาลไม่มีส่วนช่วยทักษิณให้เข้าญี่ปุ่น ต้องทำหนังสือประท้วงญี่ปุ่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะแจ้งความกลับกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ยืนถอดถอน ว่า ส่วนตัวยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว และไม่ทราบว่านายสุรพงษ์จะไปแจ้งความในกรณีใด พร้อมยืนยันว่า การทำหน้าที่ของ ส.ส. ในพรรคประชาธิปัตย์ ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ซึ่งเชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ไม่ใช่การสร้างเรื่องขึ้นมา และยังมีคำยืนยันจากรัฐบาลญี่ปุ่น ว่า รัฐบาลไทยดำเนินการเพื่อให้ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นจริง ทั้งนี้หากนายสุรพงษ์ ติดใจเรื่องดังกล่าวก็ควรฟ้องร้องไปยังประเทศญี่ปุ่นด้วย และหากรัฐบาลไทย เห็นว่า สิ่งที่ทางการญี่ปุ่นกล่าวนั้น ไม่เป็นความจริง ก็จะต้องทำหนังสือประท้วงไปยังรัฐบาลญี่ปุ่น นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์กำลังดำเนินการ ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งพรรคเพื่อไทย แต่ต้องการให้พรรคเพื่อไทยทำเรื่องนี้ให้กระจาง เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาในอนาคต และในฐานะที่เป็นรัฐบาลก็จะต้องยอมรับการตรวจสอบด้วย ส่วนเรื่องระดับความเชื่อมั่นในตัวผู้นำรัฐบาลนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน ที่มา: เรียบเรียงจากสำนักข่าวแห่งชาติ [1]

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net