Skip to main content
sharethis

ป่าต้นน้ำมีชีวิต คนต้นน้ำมีหัวใจ หยุดเถิดอย่าทำลาย รุกผืนป่าต้นน้ำปิง ด้วยจิตวิญญาณ ดิน ป่า และสายน้ำ STOP DAM หยุดเขื่อนกั้นแม่น้ำปิง ป้ายคำขวัญ พร้อมโลโก้สติ๊กเกอร์ติดตามเสื้อยืดสีเขียว และผืนผ้าติดตามรถกระบะร่วมยี่สิบคันพร้อมชาวบ้านร่วม 500 คน เคลื่อนไปตามท้องถนนหลวงหมายเลข 107 หรือถนนโชตนา เชียงใหม่-ฝาง มุ่งหน้าผ่านหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงดาว สถานีตำรวจภูธรเชียงดาว ก่อนวกไปหยุดนิ่งภายในปั๊มน้ำมัน ทางเข้าสำนักงานเทศบาลตำบลเชียงดาว เมื่อลงจากรถ ทุกคนได้รวมตัวกันเป็นขบวน ขึงป้ายผ้ารณรงค์คัดค้านไม่เอาเขื่อนกั้นแม่น้ำปิง พร้อมประกาศเครื่องขยายเสียงดังก้องไปทั่วบริเวณ ก่อนมุ่งหน้าไปที่หอประชุมเทศบาล ต.เชียงดาว เพื่อแสดงเจตนารมณ์คัดค้านการจัดเวทีของกรมชลประทานเกี่ยวกับการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำแม่ปิงตอนบน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ นี่คือภาพเหตุการณ์สำคัญของประวัติศาสตร์ท้องถิ่นในพื้นที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 22 ก.ย.2554 ที่ผ่านมา เมื่อชาวบ้านโป่งอาง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นชุมชนเล็กๆ ที่มีประชากรเพียง 100 กว่าชีวิต ได้ผนึกกำลังร่วมกับพี่น้องชาวบ้านในหลายๆ พื้นที่ อาทิ ชุมชนลุ่มน้ำแม่คอง-แม่แตง เครือข่ายทรัพยากร อ.เชียงดาว และชุมชนลุ่มน้ำแม่ป๋าม อ.เชียงดาว ได้รวมตัวกันชุมนุมเคลื่อนไหว การรวมตัวชุมนุมของชาวบ้านครั้งนี้ เพื่อเรียกร้องให้ยุติการดำเนินการโครงการดังกล่าวโดยเห็นว่า ผลจากการดำเนินการจะส่งผลกระทบต่อประชาชนบ้านโป่งอางและอีกหลายชุมชนโดยตรง บรรยากาศภายในหอประชุมเทศบาลตำบลเชียงดาว มีผู้เข้าร่วมประชุมได้ทยอยเข้ามาลงชื่อเตรียมเข้าห้องประชุมประมาณสิบกว่าคน และทุกคนต่างตกตะลึงเมื่อหันมามองเห็นขบวนชาวบ้านที่เคลื่อนเข้ามาหยุดตรงหน้าหอประชุมพร้อมกับเสียงประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงดังก้อง “นี่เป็นเสียงสะท้อนของน้องชาวบ้าน ในการที่ทางท่านได้มาจัดประชุม ว่าเราไม่เอาเขื่อน และขอยืนยันเป็นคำเดียวที่ว่าเราไม่เอาเขื่อน ที่เรามีการเคลื่อนในวันนี้เนื่องจากที่ผ่านมาเองเราหรือทางกรามชลประทาน ทีมที่เข้ามาศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ที่เข้ามาในหมู่บ้านนั้น ชาวบ้านเองไม่ได้รับรู้ และไม่ได้เข้ามาบอกกล่าวให้ชาวบ้านได้รับรู้ตรงๆ แม้กระทั่งละอ่อน ยังโดนหลอกแม้กระทั่งคนเฒ่าคนแก่ในบ้านเรายังโดนหลอก แล้วท่านเป็นใครที่มาหลอกคนเฒ่าคนแก่” สง่า แนะบือ บอกย้ำด้วยน้ำเสียงจริงจัง ในขณะที่ชาวบ้านหลายคนลุกขึ้นกล่าว นายนิมิต สมบูรณ์วิทย์ ตัวแทนจากทีมคณะที่ปรึกษา คณะผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ ทำการศึกษาความเหมาะสมและวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม บริษัทธารา คอลซัลแตนท์ จำกัด และบริษัท พิสุทธิ์ เทคโนโลยี จำกัดและบริษัท ธารา คอนซัลแตนท์ จำกัด ได้พยายามเดินเข้าไปเจรจากับตัวแทนชาวบ้าน ว่าขอให้ชาวบ้านเข้าร่วมประชุมเสียก่อน แต่ก็ถูกชาวบ้านปฏิเสธพร้อมกับผลักเปลี่ยนกันขึ้นกล่าวโจมตีอย่างต่อเนื่อง “เราไม่ยอมรับ เราขอยุติ เราขอคัดค้านทุกสิ่งทุกอย่างที่ว่าเรา จะไม่เอาเขื่อน และทางพวกท่านเองจะไม่ต้องได้เข้ามาในหมู่บ้านของเราอีก โครงการนี้เป็นเรื่องที่สกปรก หมู่บ้านโป่งอางไม่ยอม แม้ว่าตายก็ไม่ยอม จะมีการสู้จนถึงที่สุด เพราะสิ่งที่จะทำนั้นจะเป็นเรื่องของการส่งผลกระทบให้กับพี่น้องบ้านโป่งอาง” นางบัวเขียว ชุมภู ตัวแทนแม่บ้านโป่งอางลุกขึ้นถือไมค์กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ขณะที่นายเสาร์กุละ ตัวแทนชาวบ้านโป่งอางอีกคนหนึ่ง ก็ได้ลุกขึ้นจับไมค์พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า...“ครั้งแรกที่ผมได้จับไมค์ ผมก็เลยตื่นเต้น แต่ผมจะขอสู้เพื่อเอาชนะครับ อ่างเก็บน้ำแม่ปิงตอนบนหรือเขื่อน ท่านเคยมาประชาคมกับชาวบ้านเมื่อไหร่ ชาวบ้านไม่ได้รับรู้เลย ชาวบ้านบางคนไม่รู้เรื่องเลย ว่ากรมชลประทานจะมาสร้างเขื่อนบ้านเรา พวกท่านมาโกหก มาหลอกชาวบ้านทำไม พวกท่านหลอกลวงมาตลอด ท่านเอาคนเฒ่า คนแก่มาถ่ายรูปเพียงไม่กี่คน แล้วรวบรัด แล้วตีความเอาเองว่าชาวบ้านยินยอมแล้วว่าชาวบ้านเห็นดีเห็นงามกับการสร้างเขื่อน แล้วยังบอกว่าได้ผ่านการประชุมกับชาวบ้านสองครั้งแล้ว” นายเสาร์ กล่าวต่อว่า “วิธีการกระทำของท่าน สกปรกมาก รู้ไปทั่วประเทศ ก็อายไปทั่วประเทศ ท่านทำแบบนี้ไม่รู้ละอายใจบ้างเลยหรือ แล้วผมขอถามว่าสร้างเขื่อนขึ้นมา ชาวบ้านได้รับผลประโยชน์อะไร ชาวบ้านไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรเลย มีแต่เสีย กุ้ง หอย ปู ปลา ผัก หน่อไม้ ซึ่งเป็นตลาดย่อยของชาวบ้าน นาไร่ชาวบ้านจะเอาน้ำที่ไหนมาทำไร่ ไถนา เมื่อชาวบ้านไม่ได้ทำนาปลูกข้าวแล้วชาวบ้านจะเอาข้าวที่ไหนมากิน แล้วจะเอาน้ำที่ไหน มาใช้มาบริโภค ขอถามว่าท่านลองมาเป็นชาวบ้านโป่งอางดูสิ แล้วท่านจะมีความรู้สึกเป็นอย่างไร ถึงแม้ว่าชาวบ้านไม่ได้มีความรู้ ไม่มีการศึกษา แต่ชาวบ้านก็มีชีวิตมีจิต มีวิญญาณ มีหัวใจ เหมือนกับท่าน ชาวบ้านโป่งอางก็กินข้าวสุกเหมือนกัน ชาวบ้านโป่งอางไม่ได้กินแกลบ ในเมื่อชาวบ้านไม่เอาเขื่อน ชาวบ้านมาต่อต้าน หวังว่าท่านคงยุติการสำรวจและการศึกษาได้แล้ว” นั่นเป็นน้ำเสียงถ้อยคำของตัวแทนชาวบ้านโป่งอางที่พูดออกมาจากจิตวิญญาณ กระทั่ง นายโอฬาร อ่องฬะ ผู้ใหญ่บ้านห้วยไส้ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว ได้ลุกขึ้นกล่าวย้ำถึงความไม่ชอบมาพากลของโครงการนี้ชัดๆ อีกครั้งว่า การที่เราได้ร่วมในการแสดงพลังอีกครั้งหนึ่ง เพราะว่าก่อนหน้านั้นชาวบ้านได้แจ้งให้กับทางกรมชลประทาน แจ้งเตือนให้กับทางทีมที่ปรึกษาแล้วว่า สิ่งที่จะทำนั้นจะเป็นเรื่องของการส่งผลกระทบให้กับพี่น้องบ้านโป่งอาง “แต่ครั้งนี้ก็ยังมีความพยายามในการจัดเวทีครั้งที่ 2 ขึ้นมาอีก ซึ่งทางชาวบ้านได้ขอให้ทางกรมชลประทานได้มีการยุติบทบาทและทางทีมที่ปรึกษาได้ถอนสัญญาการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมออกจากบ้านโป่งอาง เพราะว่าการแก้ไขปัญหาเรื่องของน้ำท่วมไม่สามารถที่จะแก้ไขได้โดยการสร้างเขื่อน ที่สำคัญคือ เขื่อนโป่งอางมีการตั้งและจะสร้างอยู่ห่างจากหมู่บ้านเพียง 1กิโลเมตร แล้วพี่น้องจะอยู่กันอย่างไรถ้าเกิดมีการสร้างเขื่อนอย่างนี้ขึ้นมา” ขณะเดียวกัน นายโอฬารได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงไปยัง ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับเชิญเข้าร่วมประชุม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ใหญ่บ้าน กรรมการและครูอาจารย์ในพื้นที่อำเภอเชียงดาว กำลังทยอยเดินทางเข้ามาว่าขอให้ถอยกลับไปเสีย “อยากวิงวอนไปยังผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการที่เข้าร่วมในการประชุมว่า อาจจะมีการรับรู้ข้อมูลไม่เท่าเทียมกัน และสิ่งที่เป็นผลกระทบกับหมู่เฮา คือ ผลกระทบกับบ้านพี่น้องโป่งอาง เขื่อนที่จะสร้างนั้นได้ใช้งบประมาณ 1,500 ล้านบาท ซึ่งไม่มีระบบของคลองส่งน้ำ ระบบการจัดการน้ำ ซึ่งถ้าปล่อยให้สร้าง ก็จะเป็นเหมือนอนุสรณ์อัปยศที่รัฐเคยสร้างไว้ คือ ฝายยางเชียงดาว ที่มีการสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2543 จนถึงวันนี้เองฝายยางนั้นยังไม่สามารถที่จะใช้การได้ ฉะนั้น บ้านโป่งอางก็เหมือนกัน ถ้าหากมีการสร้างเขื่อน ชุมชนหมู่บ้านที่มีขนาดเล็กและมีวิถีชีวิต วัฒนธรรมของการอยู่แบบพี่แบบน้องก็จะถูกทำลายลงไปด้วย และที่ผ่านมา ภายหลังที่มีโครงการนี้เข้ามาศึกษา ก็ได้ทำให้คนในพื้นที่เกิดความแตกแยกกัน มีความขัดแย้งในพื้นที่กันแล้ว สุดท้าย ขอให้ทางตัวแทนของกรมชลประทานเข้ามารับยื่นจดหมาย ในเรื่องของการยุติการสร้างเขื่อนการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม” จากนั้น ทางฝ่ายนายนิมิต สมบูรณ์วิทย์ จากทีมคณะที่ปรึกษา บริษัทธารา คอลซัลแตนท์ จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนของทีมศึกษาได้ยอมยุติการจัดเวทีในครั้งนี้ โดยได้ขอให้นายศักดิ์พินิต ผดุงกิจ รักษาการผู้เชี่ยวชาญด้านให้คำปรึกษาสิ่งแวดล้อม กรมชลประทาน ออกมารับหนังสือและแถลงการณ์คัดค้านไม่เขื่อนกั้นแม่น้ำปิง จากตัวแทนชาวบ้าน ก่อนจะถอนตัวกลับไปในที่สุด และนี่เป็นเพียงครั้งแรกของชาวบ้านโป่งอางและเครือข่ายประชาชนในพื้นที่อำเภอเชียงดาว ที่ออกมาสำแดงพลังในการเคลื่อนไหว จนทำให้เวทีดังกล่าวต้องล้มคว่ำและยุติไปในที่สุด ซึ่งทำให้หลายคนมองเห็นพลังของประชาชน ซึ่งดูเหมือนมีจำนวนไม่มากแต่ก็มีพลังต่อรองและคัดค้านกับอำนาจรัฐและทุนได้อย่างเข้มแข็งและกล้าหาญ และคงจะมีการสำแดงพลังของประชาชนครั้งต่อไป ถ้าหากรัฐและทุนยังคิดและเดินอยู่ในกรอบเดิมๆ อยู่อย่างนี้?!

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net