Skip to main content
sharethis

'มัลลิกา' เตรียมยื่นหนังสือจี้นายกและ รมว.ไอซีที 28 พ.ย.นี้ เพื่อขอให้ปราบปรามเว็บหมิ่นฯ ชี้อาจใช้ยาแรงสุดคือปิดยูทูปหรือเฟซบุ๊กเหมือนอย่างที่รัฐบาลจีนทำ ทวีตแจง 10 ข้อ ระบุต้องอ่านให้ครบ อ่านให้แตก! (26 พ.ย. 54) หลังแถลงข่าวเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กรณีเตรียมทำหนังสือถึงนายกฯ และ รมว.ไอซีที เพื่อขอให้ปราบปรามเว็บไซต์ที่มีเนื้อหากระทบกระเทือนสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเสนอมาตรการจากเบาที่สุด คือให้ประสานงานไปยังรัฐบาลที่เว็บไซต์นั้นตั้งอยู่เพื่อขอให้ปิดเว็บไซต์ดังกล่าว และแรงที่สุด คือให้ปิดเว็บไซต์ยูทูปหรือเฟซบุ๊กไปเลย มัลลิกา บุญมีตระกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ทวีต ผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ชี้แจงแนวคิดดังกล่าว โดยระบุขอให้อ่านให้ครบและอ่านให้แตก \1.การใช้มาตรการแต่ละระดับ คือกลยุทธ์ผู้นำในการจริงจังต่อการแก้ไขปัญหา การแก้ไขปัญหาเว็บหมิ่นต้องรู้ต้นตอแห่งปัญหาต้นตอมีแค่ 2 อย่าง 2.ต้นตอ 2 อย่างคือ คนตั้งใจทำลายกับช่องทางการใช้ทำลาย เมื่อเจอตอเจอเชื้อโรคแล้วก็ต้องหายามารักษาหรือหามาตรการมาแต่ละระดับ 3.การเป็นผู้นำคนผู้นำประเทศต้องใช้ทักษะเป็นกลยุทธ์เพื่อนำไปสู่เป้าหมาย ขอแค่คุณตั้งเป้าหมายไว้หรือยัง? มีเป้าหมายหรือไม่ว่าจะขจัดปัญหา 4.ถ้าเป้ามายคือการขจัดออกให้สำเร็จ คุณต้องกำหนดกรอบและระยะเวลาเพื่อคนทำงานซึ่งคือราชการจะได้เดินหน้าตามเป้าหมายในคำสั่งนั้น! 5.ไล่ตั้งแต่สืบค้น ตรวจจับ ส่งสำนวนสู่ศาล นี่สำหรับบุคคลกระทำผิด!ส่วนผู้ให้บริการ(บริษัท)เว็บนั้นๆต้องเชิญมาประชุมขอความร่วมมือและเซนเซอร์ 6.หากผู้ให้บริการขาดจริยธรรมปล่อยให้เพจหรือURLของคุณละเมิดและผิดกติกากับกฎหมายก็ส่งหลักฐานเสนอชั้นศาลปิดไป อยู่ในสังคมก็ต้องเคารพกติกา 7.ทีนี้สำหรับกรณีที่ผู้นำหมดปัญญา นั่นคืออ้างว่ามันยากเพราะเจ้าของเว็บอยู่ต่างประเทศซึ่งหมายถึงยูทรูปกับเฟสบุคที่ระบาดหนักช่วง3เดือนนี้ 8.เช่นนั้นแล้วมาตรการคือ ผู้นำต้องประสานผู้นำประเทศเขาแล้วเอาผู้ให้บริการประเทศนั้นเข้ามาร่วมองค์เจรจา ขอความร่วมมือระหว่างกันให้เหตุผลไป 9.มันยากและไม่สำเร็จใช่ไหม? ก็มาตรการสุดท้ายให้ยาแรงคือมาตรการต่อรองแลกเปลี่ยนก่อนการยื่นจาก force แล้วไม่จบจึง ban ผู้นำต้องคิด 10.อย่าดัดจริต ถ้าคิดจะเด็ดขาด!! ขบวนการทำลายไปไกลขนาดใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีจนฝรั่งงง! อย่าเอ่ยคำว่า\"รักท่าน\"แล้วใช้คำว่า\"ยาก\" !!\" 'ประชาธิปัตย์' แนะปิดประเทศบนโลกไซเบอร์แบบ 'จีน' ทั้ง 'ยูทูบ-เฟซบุ๊ก' สกัดเว็บหมิ่นฯ มติชนออนไลน์รายงานว่าเมื่อเวลา 11.15 น. ที่พรรรคประชาธปัตย์ (ปชป.) น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกุล รองโฆษก ปชป.แถลงว่า ในวันที่ 28 พ.ย.นี้ ตนจะทำหนังสือถึงนายกฯ และ รมว.ไอซีที เพื่อขอให้ปราบปรามเว็บไซต์ที่มีเนื้อหากระทบกระเทือนสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยวิธีการที่ตนจะเสนอ เบาที่สุด คือให้ประสานงานไปยังรัฐบาลที่เว็บไซต์นั้นตั้งอยู่เพื่อขอให้ปิดเว็บไซต์ดังกล่าว แต่แรงที่สุด คือให้ปิดเว็บไซต์ยูทูปหรือเฟซบุ๊กไปเลย เหมือนอย่างที่รัฐบาลจีนเคยทำ ทั้งนี้ ปชป.ได้เปิดเฟซบุ๊ก Fight Bad Web พร้อมอีเมล์ Fightbadweb@gmail.com เพื่อรับเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับการทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2551 ใน 4 ฐานความผิด ได้แก่ 1.หมิ่นสถาบัน 2.ความมั่นคง 3.ลามกอนาจาร และ 4.การพนัน \"อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมทำร้าย ทำลาย จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์เวลานี้ได้ลามจากโซเชียลมีเดีย ไปตามร้านเสริมสวย ร้านข้าวต้ม สภากาแฟฯ ในต่างจังหวัด หากผบ.ตร.ต้องการทราบว่ามีร้านไหนบ้าง ดิฉันจะพาไปดูทั้งใน จ.พะเยา ลำปาง และแพร่\" น.ส.มัลลิกากล่าว หมายเหตุ: เพิ่มเติมเนื้อหาข่าวเมื่อ 9.25น. 26 พ.ย.54"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net