Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

ตามที่ \นิติราษฎร์\" จัดทำร่างแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา คราว แถลงการณ์ข้อเสนอแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ.2554 ข้อวิพากษ์วิจารณ์ได้แพร่หลายในสังคม กระทั่งขณะนี้คือปลายปี มีประเด็นโต้แย้งข้อเสนอฯ ของนิติราษฎร์ ในเรื่อง \"ผู้มีอำนาจร้องทุกข์กล่าวโทษ\" ความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้าย ต่อบุคคลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่า เหตุใด อำนาจร้องทุกข์กล่าวโทษ ควรจำกัดให้ สำนักราชเลขาธิการ ? (ซึ่ง \"นิติราษฎร์\" นำเสนอไว้ใน ข้อเสนอฯ ประเด็นที่ 7) [1] ท่านทั้งหลายอาจพิจารณาได้จากการมอบหมายอำนาจหน้าที่หรือภารกิจตามกฎหมายของ สำนักราชเลขาธิการ ในฐานะเป็น \"ส่วนราชการ\" ซึ่งมีสถานะเป็น \"กรม\" เพื่อสำรวจอำนาจหน้าที่ภายในสำนักราชเลขาธิการ หรือ \"หน่วยงานภายในบังคับบัญชา\" ของสำนักราชเลขาธิการ ซึ่งปรากฎในระบบกฎหมายไทยอยู่แต่เดิมแล้ว ต่อไป ดังกล่าวแล้วว่า ตามระบบกฎหมายไทยถือว่า \"สำนักราชเลขาธิการ\" มีสถานะเป็น \"กรม\" ตามมาตรา 8 ฉ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2543 [2] การแบ่งส่วนราชการภายในสำนักราชเลขาธิการ ต้องตราเป็นกฎกระทรวง พร้อมทั้งกำหนดอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการนั้นๆ (กฎกระทรวง เป็นผลิตผลจากการใช้อำนาจของรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าฝ่ายปกครองระดับสูงสุด ตามพระราชบัญญัติที่มอบหมายอำนาจ) มาตรา 8 ฉ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2543 เช่นนี้ อำนาจหน้าที่ของ \"หน่วยงาน\" ใน สำนักราชเลขาธิการ ต้องพิจารณาตาม กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักราชเลขาธิการ พ.ศ.2553 [3] คำปรารภระบุฐานก่อตั้งอำนาจของ \"กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักราชเลขาธิการ พ.ศ.2553\" ฉบับนี้ ข้อ 2 กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักราชเลขาธิการ พ.ศ.2553 จะพบว่า ข้อ 2 (7) กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักราชเลขาธิการ พ.ศ.2553 ก่อตั้งหน่วยงาน \"กองนิติการ\" ไว้ด้วย ซึ่ง \"กองนิติการ\" จะมีอำนาจหน้าที่อะไรบ้างนั้น ต้องพิจารณาตาม ข้อ 11 กฎกระทรวงฉบับเดียวกัน ข้อ 11 กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักราชเลขาธิการ พ.ศ.2553 เห็นได้ว่า ข้อ 11 (1) กำหนดหน้าที่ของ \"กองนิติการ\" ไว้ว่า กองนิติการ มีอำนาจหน้าที่ \"ดำเนินการเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์และงานส่วนพระองค์และดำเนินการเกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบในความรับผิดชอบของสำนักราชเลขาธิการ\" และข้อ 11 (4) \"ดำเนินการเกี่ยวกับงานนิติกรรมและสัญญา ความรับผิดในทางแพ่งและอาญา งานคดีปกครอง และงานคดีอื่นที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของสำนักราชเลขาธิการ\" ในชั้นนี้ เราทราบแล้วว่า ในโครงสร้างหน่วยงานของสำนักราชเลขาธิการ (ซึ่งมีสถานะเทียบเท่า \"กรม\" ในส่วนราชการ ที่เรียก สำนักราชเลขาธิการ) มีหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์และริเริ่มดำเนินคดีอาญา อยู่แต่เดิมแล้ว และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ก็เป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งอยู่ในอำนาจของ \"กองนิติการ\" ในสำนักราชเลขาธิการ เช่นนี้ โดยหลักแล้ว เมื่อปรากฎในระบบกฎหมายกำหนดผู้มีอำนาจฟ้องคดีไว้โดยชัดแจ้ง (กฎกระทรวง เป็นผลิตผลทางกฎหมายประเภทหนึ่งซึ่งก่อตั้งชีวิต บันดาลผล ตลอดจนสิ้นผลลงได้ ในระบบกฎหมาย) แม้แต่ในระบบกฎหมายปัจจุบัน สมควรถือว่า \"สำนักราชเลขาธิการ\" เป็นผู้มีอำนาจเหนือวัตถุแห่งคดี ในอันที่จะกำหนดว่า จะให้มีการเริ่มกระบวนพิจารณาหรือไม่ และจุดมุ่งหมายหรือฟ้องคดีอะไร เป็นอำนาจเฉพาะ มิใช่ว่า การดำเนินกระบวนพิจารณาในมาตรา 112 เปิดโอกาสให้ บุคคลใดๆ ร้องทุกข์ได้โดยทั่วไป โดยองค์กรเจ้าหน้าที่ซึ่งมีอำนาจโดยตรง ไม่ต้องทำงาน ตามภารกิจในข้อ 11 (1)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net