Skip to main content
sharethis

แนวร่วมนิสิตนักศึกษาคัดค้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบยื่นหนังสือนายก ยิ่งลักษณ์ เสนอยุติการนำมหาลัยออกนอกระบบ ขอรัฐสวัสดิการเรียนฟรีถึงปริญาตรีเป็นของขวัญวันเด็ก

 

 

เมื่อ วันที่ 14 มีนาคม 2554 เวลาประมาณ 9.20 น. ตัวแทน แนวร่วมนิสิตนักศึกษาคัดค้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ จากมหาลัยต่างๆ ประมาณ 30 คน ได้เข้ายื่นหนังสือต่อท่านนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในระหว่างท่านนายกกำลังเยี่ยมชมงานวันเด็กที่กระทรวงศึกษาธิการเป็นเจ้าภาพ ที่สนามเสือป่า โดยมีข้อเสนอสำคัญคือ การยุติการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ และการจัดการศึกษาในระบบรัฐสวัสดิการเรียนฟรีถึงปริญญาตรี 

นางสาว ศศิประภา ไร่สงวน ตัวแทนนักศึกษา แนวร่วมนิสิตนักศึกษาคัดค้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ จากม.ขอนแก่นกล่าวว่า ในส่วนม.ขอนแก่นนั้นเราเคยยื่น หนังสือคัดค้านการนำมหาลัยออกนอกระบบมาก่อนหน้านีแล้ว แต่อธิการไม่มีท่าทีตอบรับใดๆ และบอกเพียงว่า มหาวิทยาลัยต้องปฏิบัติตามนโยบายของรัฐ เราจึงคิดว่าควรมายื่นหนังสือต่อท่านนายก เพื่อให้ท่านรับทราบว่า รัฐบาลควรมีแนวนโยบายที่ชัดเจนในการการยุติการนำมหาวทยาลัยออกนอกระบบ 

ก่อน หน้านี้นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศชัดต่อหน้านักศึกษามรภ.สวนสุนันทานับพันคนที่หน้ารัฐสภาเมื่อวัน ที่ 30 สิงหาคม 2554 ว่า “ผมไม่เห็นด้วยกับนโยบายกับนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ”  แต่นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กลับได้ทำหนังสือไปยัง 9 แห่ง ได้แก่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.)  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.)  มหาวิทยาลัยขอนแก่น(มข.)มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.)  มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.)  มหาวิทยาลัยแม่โจ้ (มจ.) มหาวิทยาลัยรามคำแหง(มร.) และมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต(มสด.)  มหาวิทยาลัยดังกล่าว เพื่อขอคำยืนยันว่า จะให้สกอ.เสนอเรื่องให้นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)พิจารณาเห็นชอบในการเสนอร่างพ.ร.บ.ขอเปลี่ยนสถานภาพไปเป็นมหาวิทยาลัย ในกำกับของรัฐหรือออกนอกระบบหรือไม่ก่อนที่จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)

ต่อ มา รศ.นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) ได้ออกมา แถลงว่า “ม.ขอนแก่น ม.เกษตร ม.ศิลปากร และมรภ.สวนดุสิตยังยืนยันว่ามีความพร้อม ที่จะออกนอกระบบ” 

จึงทำให้ มีการรวมตัวกันของนิสิตนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่อยู่ในกระบวนการ การนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ จัดตั้งเป็น แนวร่วมนิสิตนักศึกษาคัดค้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ เพื่อติดตามความคืบหน้าต่างๆ

นายอภิสิทธ์  ทรัพย์นภาพันธ์ อดีตนิสิต ม.เกษตรศาสตร์ กล่าวในฐานะของศิษย์เก่าม.เกษตร ว่า “ข้อเสียของม.นอกระบบ คือการผลักภาระงบประมาณทางการศึกษาไปใประชาชนเป็นผู้จ่าย จะทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา คนจนจะไม่มีทางเรียนมหาลัยได้เลย”

ด้าน นายสุรินทร์  ปัทมาสศนุพงศ์ นิสิตม.บูรพา หนึ่งแนวร่วมนิสิตนักศึกษาคัดค้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ กล่าวถึงบทเรียนของมหาวิทยาลัยบูรพาซึ่งออกนอกระบบไปแล้ว ว่า “มีการค่าเทอมเหมาจ่ายที่แพงขึ้นกว่าเดิม โดยการทยอยเก็บทีละคณะ ยกตัวอย่างเช่น คณะเภสัชศาสตร์ ซึ่งมีอัตราค่าเทอมที่แพงถึง 40000 บาท ต่อภาคเรียน”

นายพรชัย  ยวนยี เลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย สนนท. กล่าวว่า ในส่วนของสนนท.นั้นเห็นด้วยและพร้อมสนับสนุนการเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องสิทธิ ของนักศึกษาในประเด็นการคัดค้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ 

ภายหลัง จากการยื่นหนังสือของตัวแทนนักศึกษา กลุ่มดังกล่าว ท่านนายกได้กล่าวว่ว จะรับเรื่องไว้พิจารณาและส่งต่อไปยังกระทรวงศึกษาธิการต่อไป

 

 

แนวร่วมนิสิตนักศึกษาคัดค้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ

 

๑๔ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๕

เรื่อง วันเด็กปีนี้หนูขอเรียนฟรีถึง ป.ตรีได้ไหมค่ะ/ครับ โดยการไม่นำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ

สิ่งที่ส่งมาด้วย ๑. รายชื่อกลุ่มแนวร่วมนิสิตนักศึกษาต่อต้านมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ

๒. เอกสารประกอบการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ

เรียนฯพณฯนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

เนื่อง ด้วยในงานวันเด็กปีนี้ ซึ่งตรงกับ วันที่ ๑๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ซึ่งเลขท้ายปีพุทธศักราช เมื่อมาพูดเล่นกันก็จะได้ว่า “สองห้าห้าห้า” ซึ่งเปรียบเสมือนเสียงหัวเราะของเด็กและเยาวชนที่ดูแล้วมีความสุข สนุกสนานในวัยเยาว์ โดยเด็กและเยาวชนนั้นเปรียบเสมือนผ้าขาวและเป็นอนาคตของชาติและสังคมโดยรวม ซึ่งอนาคตของชาติเหล่านี้ก็ย่อมที่จะต้องได้รับการศึกษา เรียนรู้ และขัดเกลาทางสังคม(socialization) เพื่อเป็นเด็กและเยาวชนที่มีคุณภาพเพื่อพัฒนาสังคมต่อไปในอนาคต ดังนั้นแล้วรัฐก็ต้องให้การศึกษากับเด็กและเยาวชนจนเพียงพอสำหรับเด็กและ เยาวชนคนหนึ่งๆ ตั้งแต่เข้าเรียนระดับอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา ไปจนถึงระดับมหาวิทยาลัยอย่างเท่าเทียมกันของเด็กและเยาวชนไทยทั้งประเทศ โดยไม่แบ่งแยกความรวย-ความจน             

จากที่กล่าวมาข้างต้น เราในนามแนวร่วมนิสิตนักศึกษาต่อต้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ จากหลายกลุ่มมหาวิทยาลัยตามรายชื่อที่แนบมาด้วย ได้ทำการศึกษาร่วมกันของการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบกลับพบว่าการแปร รูปมหาวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐหรือ “ม.นอกระบบนั้น” ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลประโยชน์โดยร่วมของสังคมโดยเฉพาะนิสิตนักศึกษา แต่กลับเป็นไปเพื่อประโยชน์ของผู้บริหารมหาวิทยาลัย โดยไม่สนใจพ่อแม่ของเด็กและเยาวชนที่เสียภาษีให้แก่รัฐในการบริหารประเทศโดย เฉพาะด้านการศึกษา เช่นการกล่าวอ้างของท่านอธิการบดีและผู้ที่ต้องการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ ว่าเมื่อมหาวิทยาลัยออกนอกระบบแล้วจะทำให้ระบบการบริหารจัดการในมหาวิทยาลัย มีความคล่องตัวในการบริหารมากกว่าการอยู่ในการควบคุมของรัฐ แต่เป็นไปเพื่อจะผลักภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้เรียนในที่สุด โดยการต้องจ่ายค่าเทอมที่สูงลิบลิวให้กับนิสิตนักศึกษา เพื่อการบริหารจัดการให้คล่องตัวขึ้น ซึ่งไม่ทราบว่าจะคล่องตัวกว่าการอยู่ในการควบคุมของรัฐซักเพียงใด และนั้นเป็นเครื่องหมายที่แสดงว่าความไม่เท่าเทียมด้านการศึกษาจะเกิดขึ้น เมื่อลูกคนจนไม่ได้มีโอกาสได้เรียนเท่าลูกคนรวย สิทธิในการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาตามหลักสากลจะไม่มีเมื่อมหาวิทยาลัยถูกทำ ให้เปรียบเสมือนบริษัท ซึ่งจะตรงกับข้อความที่ว่า “จ่ายค่าเทอมครบ เรียนจบแน่” อันเป็นสิ่งที่ลูกคนจนไม่ปรารถนา เมื่อไม่มีเงินที่จะศึกษาในมหาวิทยาลัย

ดังนั้นแล้ว เราในนามตัวแทนเด็กและเยาวชนผู้ที่จะเป็นอนาคตของชาติต่อไป ได้มองเห็นปัญหาของการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ จึงอยากขอร้องท่านนายกรัฐมนตรี ได้ตระหนักถึงเด็กและเยาวชนในมหาวิทยาลัยด้วย โดยข้อเรียกร้องจากกลุ่มเรา ในนาม “แนวร่วมนิสิตนักศึกษาต่อต้านมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ” โปรดรับพิจารณาและช่วยดำเนินการ ดังนี้

๑.ขอร้องให้ท่านนายกรัฐมนตรี ช่วยดำเนินการหยุดการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบโดยทันที จนกว่าจะมีการศึกษาเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย และประชาพิจารณ์จากผู้ที่เกี่ยวข้องในมหาวิทยาลัยทั้งครู อาจารย์ นิสิตนักศึกษา พนักงานของมหาวิทยาลัย ให้เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปและรับรองว่าจะไม่เป็นการผลักภาระค่าใช้จ่ายให้ กับผู้เรียนในอัตราที่สูงขึ้น โดยการมอบหมายให้ท่านรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการดำเนินการต่อไป โดยในปัจจุบันขณะนี้จะมีการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ ๔ มหาวิทยาลัย คือ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต และมหาวิทยาลัยศิลปากร ขอให้ท่านมีคำสั่งดำเนินการยกเลิกทันที

๒.ข้อ ร้องให้ท่านนายกรัฐมนตรีช่วยพิจารณาดำเนินการตรวจสอบมหาวิทยาลัยที่ออกนอก ระบบ มหาวิทยาลัยที่กำลังออกนอกระบบ และมหาวิทยาลัยที่ยังไม่ออกนอกระบบ ว่ามีการนำงบประมาณของมหาวิทยาลัยไปใช้ในทางใดบ้าง โดยให้นิสิตนักศึกษาได้รับรู้การใช้จ่ายงบประมาณของมหาวิทยาลัย เพื่อประสิทธิภาพและความโปร่งใส ว่ามีการนำเงินมาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อเหล่าเด็กและเยาวชนที่ กำลังศึกษาในมหาวิทยาลัยหรือไม่ 

๓.เนื่องในงานวันเด็กปีนี้ กลุ่มแนวร่วมนิสิตนักศึกษาต่อต้านมหาวิทยาลัยออกนอกระบบก็อยากให้ท่านนายก รัฐมนตรีมอบของขวัญให้แก่เด็กและเยาวชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะการศึกษาเล่าเรียน ซึ่งของขวัญที่เราอยากได้คือเรียนฟรีถึงปริญญาตรี เพื่อคุณภาพของเด็กและเยาวชนผู้เป็นอนาคตของชาติของสังคมต่อไปในอนาคต ในการเข้าถึงสิทธิโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งเป็นหลักการขั้นพื้นฐานของมนุษย์

โดยข้อเรียกร้องนี้ กลุ่มเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะตระหนักเห็นถึงความสำคัญของปัญหาที่เกิดขึ้นในทางการศึกษา ทั้งเรื่องความเท่าเทียมทางการศึกษา สิทธิในการเข้าศึกษาในการเข้ามหาวิทยาลัยโดยไม่แบ่งแยกความรวย-ความยากจน โดยการไม่นำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ เพียงเพื่อต้องการผลักภาระค่าใช้จ่ายไปให้กับผู้เรียน จึงอยากขอร้องให้ท่านนายกรัฐมนตรีรับไว้พิจารณาและดำเนินการต่อไปอย่างเร่ง ด่วนที่สุด

ด้วยความเคารพอย่างสูง

 

กลุ่มแนวร่วมนิสิตนักศึกษาคัดค้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ

 

รายชื่อกลุ่มแนวร่วมนิสิตนักศึกษาคัดค้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ

๑.แนวร่วมนิสิตนักศึกษาต่อต้าน ม.นอกระบบ

๒.สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย

๓.สหพันธ์นิสิตนักศึกษาภาคอีสาน

๔.สภามหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา

๕.ชมรมเสวนาภาษาสิงห์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

๖.กลุ่มเสรีนนทรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

๗.กลุ่มสะพานสูง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

๘.กลุ่มลูกชาวบ้าน มหาวิทยาลัยบูรพา

๙.ซุ้มเหมราช มหาวิทยาลัยรามคำแหง

๑๐.กลุ่มดาวดิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น

๑๑.ศูนย์ประสานงานเยาวชนสังคมประชาธิปไตย

๑๒.กลุ่มแสงดาว มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

๑๓.กลุ่มนกกระจอก มหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช

๑๔.กลุ่มเถียงนาประชาคม  มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

๑๕.กลุ่มปลุกฮัก มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

๑๖.กลุ่มคนสร้างฝัน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

๑๗.กลุ่มเกี่ยวดาว มหาวิทยาลัยขอนแก่น

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net