Skip to main content
sharethis

วรเจตน์เชื่อเหตุทำร้ายมาจากการเคลื่อนไหวทางวิชาการเพราะไม่มีความขัดแย้งอื่น ยืนยันไม่ยุติบทบาทการเคลื่อนไหวทางวิชาการ วอนสื่อนำเสนอข่าวให้ถูกต้องไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดจนถูกเกลียดชัง นครบาลลั่นจับคนร้ายได้เร็วๆ นี้ จัดกำลังคุ้มครอง เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มธ. หนึ่งในนักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์ พร้อมด้วย พล.ต.ต. วิชัย สังขประไพ ผู้บังคับการกองบัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวกรณีวรเจตน์ถูกทำร้ายร่างกายที่คณะ โดยนายวรเจตน์เล่าเหตุการณ์ว่า ขับรถเข้ามาที่คณะประมาณ 15.00น. หลังจากช่วงเช้าไปบรรยายที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และแวะไปหาหมอที่ ร.พ.หัวเฉียว เมื่อขับรถเข้ามาจอด เก็บของลงจากรถ เจออาจารย์อีกท่านที่จอดรถข้างหลังก็หันไปคุยระหว่างนั้นมีคนเดินเข้ามาข้างหลัง ก็รู้สึกว่าโดนของกระแทกที่กกหูด้านขวาหลายครั้ง อาจารย์ท่านนั้นจึงมากันคนที่เข้ามาชกเขาออกไป ระหว่างนั้นแว่นตกลงพื้นไปจึงมองอะไรไม่ถนัด แต่ก็มีชายอีกคนหนึ่งวิ่งมาชกเขาอีกหลายครั้ง แล้วขับมอเตอร์ไซค์ออกไป โดยนายวรเจตน์กล่าวว่าได้ยินว่าชายที่เข้ามาทำร้ายร่างกาย มารอเขาตั้งแต่เช้า และมีคนได้ยินชายคนดังกล่าวพูดอีกด้วยว่าให้รอดูจากกล้องวงจรปิด นายวรเจตน์สันนิษฐานว่าสาเหตุนั้นมีเพียงเรื่องเดียว ซึ่งก็น่าจะเกี่ยวกับการบทบาททางวิชาการในนามกลุ่มนิติราษฎร์ เพราะชีวิตไม่มีเรื่องขัดแย้งอย่างอื่น และกิจกรรมทางวิชาการที่ทำไปอาจจะสร้างความไม่พอใจให้กับบางกลุ่ม เพราะก่อนหน้านี้มีไปรษณียบัตรเขียนจดหมายมาด่าทอ อีกทั้งแม่บ้านของคณะก็เคยบอกว่ามีคนมาถามหาเขาในช่วงที่มีการเผาหุ่นเขาที่หน้ามหาวิทยาลัย แต่ไม่เคยมีการคุกคามซึ่งหน้า อย่างไรก็ตาม นายวรเจตน์กล่าวว่า จะไม่ลดบทบาทตัวเองและจะทำงานวิชาการต่อไป เพราะเป็นการทำไปบนหลักการที่ถูกต้อง วางอยู่บนเหตุผลและเสนอให้สาธารณะได้ตรึกตรอง ถ้าไม่เห็นด้วยหรือเห็นด้วยก็ควรโต้แย้งด้วยเหตุด้วยผล โดยเขากล่าวว่าข้อเสนอของเขาก็มีคนไม่เข้าใจ โดยยกตัวอย่างกรณีที่มีคนโฟนอินเข้าไปพูดคุยกับนายวีระ ธีรภัทรว่า อยากจะตัดคอกลุ่มนิติราษฎร์ทั้งๆ ที่ไม่เข้าว่าเขาเสนออะไร ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้า นอกจากนี้เคยมีกรณีคนขับมอเตอร์ไซค์เข้าไปที่ มธ. ศูนย์ลำปางมาบอกนักศึกษาว่าฝากบอกนิติราษฎร์ว่ามาลำปางเมื่อไหร่จะไปยิง เขากล่าวต่อไปด้วยว่าตัวเขาไม่มีมวลชน เพียงแค่ทำหน้าที่สอนหนังสือและแสดงความคิดต่อสังคม และเป็นเรื่องที่สังคมรับฟังแล้วก็ควรพิจารณาไตร่ตรอง และที่ผ่านมาเขาก็ทำกิจกรรมทางวิชาการโดยบริสุทธิ์ใจไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆ สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นก็จะดำเนินการแจ้งความและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีไปตามกระบวนการ สำหรับอาการบาดเจ็บนั้น นายวรเจตน์ระบุว่า มีอาการบวม ฟกช้ำ และมีอาการปวดหู แต่ไม่มีอะไรที่ผิดปกติ และมีเลือดกำเดาไหล มีแผลในจมูกเล็กน้อย “สิ่งที่ผมทำ ผมทำในกรอบของวิชาการและเป็นการแสดงความเห็นต่อสาธารณะ เราคงปล่อยให้เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องเปลี่ยนแปลงชีวิตทั้งชีวิตเราไม่ได้ ผมจะทำต่อไป เพราะผมทำในกรอบของกฎหมายทุกอย่าง อยู่ในกรอบของหลักการที่ถูกต้อง และผมก็ทำเท่าที่เวลาอำนวย ผมมีงานที่ต้องตรวจข้อสอบ สอนหนังสือ แต่เมื่อมีความเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะก็ทำ” วรเจตน์กล่าวตอบผู้สื่อข่าวว่ากังวลถึงการตอบโต้ด้วยความรุนแรงจากผู้สนับสนุนนิติราษฎร์หรือไม่ว่า “ผมคิดว่าคนที่สนับสนุนผมอย่างน้อยก็ต้องมีสติมีเหตุมีผล คงไม่ปล่อยให้เรื่องขัดแย้งบานปลายไป ที่น่าเศร้าคือผมเปิดใจพูด แต่หลายคนปิดหูไม่ฟัง และเกิดความไม่เข้าใจแบบนี้ คนที่ทำร้ายผม ไม่รู้จักผม ไม่รู้จักอุปนิสัยกันมาก่อนแต่สามารถทำร้ายกันได้ ผมคิดว่ามันต้องมีเรื่องผิดปกติแน่ๆ ในการสื่อสารและเรียนสื่อมวลชนว่าหลายเรื่องเป็นประเด็นละเอียดอ่อนและขอให้นำเสนอเป็นหลักเป็นการ\ นครบาลระบุจับคนร้ายได้แน่ -จัดกำลังดูแล ด้าน พล.ต.ต. วิชัย สังข์ประไพ กล่าวว่าได้รับคำสั่งจาก ผบ.ตร. ให้มาดูแลเรื่องนี้ ขณะนี้รู้ตัวและกลุ่มคนร้ายแล้ว โดยมีพยานบุคคลและพยานทางวิทยาศาสตร์เรียบร้อยและกำลังสืบสวนจับกุมอยู่คงใช้เวลาไม่นาน โดยคนร้ายทั้งหมดมี 2 คน และจากการสืบสวนกลุ่มนี้เคยเข้ามาในธรรมศาสตร์ และปฏิเสธว่าไม่ใช่คนมีสี ในส่วนของความปลอดภัยของนายวรเจตน์นั้น ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลจะจัดกำลังดูแลให้ สำหรับฐานความผิดคือ ข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ ด้าน นายอุดม รัฐอมฤต รองอธิการบดี มธ. กล่าวถึงการรักษาความปลอดภัยภายในมหาวิทยาลัยว่า ที่ผ่านมาอธิการบดีก็มีการกำชับให้รักษาความปลอดภัยให้แน่นหนามากขึ้น จากเดิมที่ปล่อยให้ใครต่อใครเข้ามาในมหาวิทยาลัยได้อย่างเสรี โดยระบุว่า ที่ผ่านมามติของสภามหาวิทยาลัยไม่ได้ห้ามนักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์ทำกิจกรรมทางวิชาการ แต่ก็พบว่า เป็นเรื่องยากในการดูแลความปลอดภัยเมื่อมีการทำกิจกรรมเพราะ รปภ. ก็มีอยู่จำนวนหนึ่งเท่านั้น"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net