Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

สงกรานต์ปี 2555 สำหรับสังคมไทยมีความหมายเป็นพิเศษ แตกต่างจากสงกรานต์ทั่วไปที่มีนัยทางการเมืองในการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์

สำหรับคนเสื้อแดง ความเป็นจริงตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา ในระยะก่อนสงกรานต์และระหว่างสงกรานต์ตลอดจนหลังสงกรานต์ ล้วนอยู่ในระหว่างเวลาการต่อสู้กับกลไกรัฐและรัฐบาลของระบอบอำมาตยาธิปไตยมาตลอด ปี 2552 เราอยู่หน้าทำเนียบรัฐบาลโดยสงบ เขาเริ่มกระชับพื้นที่เพื่อปราบปราม หลังจากวันที่ 7, 8 เมษายน เราเข้ามาร่วมชุมนุมนับแสนคนเขาก็ไม่สนใจ แต่กลับเตรียมล้อมปราบในเวลาสงกรานต์ เพียงเพราะเราไม่เลิกชุมนุม สงกรานต์ปี 2553 เราถูกปราบปรามเข่นฆ่านับจากวันที่ 10 เมษายน จนถึง 19 พฤษภาคม นี่ก็อยู่ในช่วงเวลาสงกรานต์ รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะมองเห็นและหวาดกลัวสงกรานต์ปี 2554 จึงต้องยุบสภาเพื่อเตรียมเลือกตั้งทั่วไป ทำให้ต้องรำลึกเหตุการณ์สงกรานต์เลือดสงกรานต์อำมหิตปี 2552, 2553 ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2554 ภายใต้ พ.ร.บ.การเลือกตั้ง จึงไม่อาจจัดการโจมตีพรรคประชาธิปัตย์และขุนพลที่เข่นฆ่าประชาชนได้ สงกรานต์ 2554 จึงเป็นเวลาพลิกฟื้นยุทธวิธีในการรุกทางการเมืองของคนเสื้อแดง ในการใช้ขาทางยุทธศาสตร์ 2 ขาเพื่อสนับสนุนและตรวจสอบการเลือกตั้ง ให้การเลือกตั้งดำเนินไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ให้ได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและโดยมติของประชาชนอย่างแท้จริง ดังนั้นสงกรานต์ปี 2554 จึงเป็นสงกรานต์แห่งการต่อสู้อย่างสร้างสรรค์ทางการเมืองของคนเสื้อแดง และได้รับชัยชนะพลิกกลับให้การต่อสู้ของประชาชนอยู่ในฐานะรุก และสถานการณ์ทางการเมืองโดยรวมประชาชนลุกขึ้นมาต่อสู้ในขั้น “ยัน” ทางการเมืองการปกครอง ประกาศเจตนารมณ์ที่จะใช้มติของประชาชนสู้กับการรัฐประหารปล้นอำนาจประชาชน เพื่อเอาอำนาจประชาชนคืนมาให้ได้ นี่เท่ากับว่าคนเสื้อแดงใช้เวลาในช่วงสงกรานต์ตั้งแต่ปี 2550 ต่อสู้ทางการเมืองเข้มข้นยิ่งขึ้น ๆ โดยตลอดมา

น่าสนใจที่ปี 2555 กลุ่มเครือข่ายระบอบอำมาตยาธิปไตยกลัวว่าคนเสื้อแดงจะก่อการใหญ่เพื่อทวงความยุติธรรมให้คนตายคนติดคุก (แสดงว่าพวกเขาก็รู้ว่าปัจจุบันคนเสื้อแดงยังเผชิญความอยุติธรรมอยู่) แม้แต่คนในพรรคเพื่อไทยจำนวนหนึ่งก็กลัวเช่นนี้ จึงมีการแสดงหวาดระแวงออกหลายแบบจากหลายกลุ่ม โหรหลายคนก็บอกจะนองเลือดครั้งใหญ่

ข้อดีก็คือ มีการเร่งทำงานจากซีกรัฐสภาทั้งปัญหาการเยียวยา การประกันตัว การจัดคุกใหม่ให้ผู้ถูกคุมขังในคดีอันเนื่องจากความขัดแย้งทางการเมือง และการพยายามเดินหน้าแก้ปัญหาภาพรวมโดยการเร่งเรื่องการปรองดอง และการให้มี สสร. เพื่อแก้ไขเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญฉบับอำมาตย์ 2550 ให้เป็นฉบับประชาชน 2556 โดยเร็ว

พูดกันตรง ๆ ไม่ใช่เฉพาะซีกอำมาตย์ที่กลัวคนเสื้อแดงจะลุกฮือขึ้นมา นักการเมืองและพรรคการเมืองซีกรัฐบาลก็ไม่อยากเผชิญกับปัญหาความไม่พึงพอใจของประชาชนที่ยังถูกกระทำจากความยุติธรรมที่ไร้มาตรฐาน (เกินกว่า 2 มาตรฐาน) สงกรานต์ปีนี้กลับกลายเป็น สงกรานต์แห่งการต่อสู้ทางการเมืองในรูปแบบใหม่ ในเขตยุทธศาสตร์ต่างประเทศ คนเสื้อแดงขยายขอบเขตการต่อสู้ทางการเมือง ก้าวข้ามพรมแดนประเทศไทยไปสู่การจัดงาน “สงกรานต์สามแผ่นดิน” แสดงสัญลักษณ์การต่อสู้การสืบสานประเพณีสงกรานต์ร่วมกันระหว่างประเทศของประชาชนทั้งสามแผ่นดิน ที่มีศาสนา วัฒนธรรมร่วมกันในประเพณีสงกรานต์อันเป็นประเพณีปีใหม่ที่แสดงออกถึงรากเหง้าสังคมที่มีอดีตไปมาหาสู่ร่วมกัน เป็นเพื่อนบ้านญาติพี่น้องในละแวกนี้ นี่ไม่ใช่เป็นเพียงการต่อสู้แบบใหม่ของประชาชนไทยและคนเสื้อแดง แต่นี่เป็นเรื่องใหม่ของการต่อสู้ของประชาชนในทางสากลด้วย เพราะเป็นครั้งแรกที่มีประชาชนหลายหมื่นคนเดินทางไปพบผู้นำทางการเมืองที่ถูกตามล่าไม่อาจเข้าประเทศได้ถึงต่างประเทศ แล้วจัดงานชุมนุมทางการเมือง ตลอดจนการแสดงความเคารพคิดถึงตามประเพณีถึงต่างแดน ผู้เขียนยังไม่เคยทราบว่ามีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อนที่ไหนในโลก เพราะการเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างประเทศเพื่อชุมนุมทางการเมืองแล้วเดินทางกลับประเทศของตนไม่ใช่เรื่องจะเกิดได้ง่าย ๆ ทางสากล ประการแรก หากเป็นเรื่องปกติเขาจะไม่ยินยอมให้ทำ โดยกลัวความขัดแย้งกับรัฐบาลและประชาชนหรือผู้มีอำนาจในประเทศนั้น ๆ แต่นี่แสดงว่าประเทศต่าง ๆ เขารู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร ใครผิดใครถูก มีกลุ่มที่ปราบปรามเข่นฆ่าประชาชน เขารู้ความจริงกันทั้งโลกแล้ว เขาถึงยอมให้คนเสื้อแดงมาพบปะกับคุณทักษิณได้ในต่างประเทศอย่างเปิดเผยถูกต้องตามกฎหมาย ใครจะมาจับคุณทักษิณข้อหาผู้ร้ายข้ามแดน? ใครจะมาจับประชาชนในข้อหาไปพบคุณทักษิณ? และสุดท้ายใครจะมาโจมตีประเทศอื่นว่าให้ที่พักและต้อนรับคุณทักษิณเยี่ยงคนสำคัญระหว่างประเทศ? แล้วนี่มิใช่ชัยชนะและเป็นการรุกทางการเมือง ยกระดับสู่สากลของคนเสื้อแดงและคุณทักษิณหรอกหรือ?

ในประเทศลาวเน้นงานบุญ งานศาสนาและประเพณีเป็นหลัก แต่ภาพประชาชนที่ไปรอพบคุณทักษิณหลายพันคนก็เป็นภาพประทับใจยิ่ง การจัดงานบุญ พิธีสงฆ์ พิธีบายศรีสู่ขวัญในสถานที่สำคัญ ก็บ่งถึงการให้เกียรติยศตามแบบฉบับประเทศลาวที่อ่อนน้อม เยือกเย็น ไม่เป็นศัตรูกับกลุ่มใด ก็ขอกันภายในไม่ให้ใส่สีแดงเพื่อไม่ให้เป็นภาพการเมืองเรื่องเสื้อแดง รัฐมนตรีที่มาต้อนรับดูแลก็บอกผู้เขียนว่า ความจริงรัฐบาลลาวกังวลก็เฉพาะเรื่องความปลอดภัยของคุณทักษิณ แสดงว่าอะไร? สองประเทศเหมือนกันในประเด็นนี้ คือเขาเป็นห่วงความปลอดภัยคุณทักษิณมาก ๆ ก็แสดงว่าเขารู้ว่าเครือข่ายอำมาตย์ที่อาฆาตพยาบาทเกลียดชังคุณทักษิณ มีอยู่จำนวนหนึ่งที่คิดว่าจัดการคุณทักษิณแล้วทุกอย่างจะเรียบร้อยมีอยู่จริง เขาจึงต้องป้องกันเต็มที่ ชนชั้นนำในประเทศไทยตระหนักไหม? ว่าคนต่างประเทศเขารู้เรื่องดีกว่าพวกคุณ ไม่ว่าจะเป็นประเทศเพื่อนบ้านหรือประเทศห่างไกลออกไป เพราะฝ่ายการเมืองเขาลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับประชาชนไทยหาข้อมูลกันทั้งนั้นเลยรู้เรื่องดีกว่าชนชั้นนำและปัญญาชนในประเทศไทยที่อยู่บนหอคอย

ประเทศกัมพูชานั้นเต็มที่ที่จะเปิดเวทีทางการเมืองให้การต่อสู้ของประชาชนไทย ของคนเสื้อแดงก้าวข้ามพรมแดนระหว่างประเทศไปใช้สถานที่ในกัมพูชาได้ ตอนจัดฟุตบอลครั้งนั้นสมเด็จฮุนเซนลงมาเล่นเองเลยทีเดียว สำหรับเวทีให้คุณทักษิณพบปะคนเสื้อแดงก็เต็มที่ มีการถ่ายทอดสดให้ประชาชนกัมพูชาเฝ้าดูได้ด้วย ตอนเย็นกว่าพวกเรารวมคุณจตุพรและณัฐวุฒิจะได้ไปขึ้นเวทีกับคุณทักษิณก็ช้าไปหน่อย เพราะหลายคนถูกต้อนรับอย่างดีจากเจ้าภาพคนสำคัญของกัมพูชา ปล่อยให้คุณทักษิณขึ้นเวทีไปก่อน สมเด็จฮุนเซนต้องโทรตามหาเองเพราะรอดูภาพณัฐวุฒิและจตุพรเคียงคู่ขนาบข้างคุณทักษิณยังไม่เห็นสักที

ต้องขอเรียนว่าประชาชนในประเทศลาวและกัมพูชาเป็นคนเสื้อแดง และเชียร์คนเสื้อแดงจำนวนมาก คนใกล้ชิดสมเด็จฮุนเซนมักจะพูดหยอกล้อกับผู้เขียนว่า เขาเป็นประธาน นปช.พนมเปญ ส่วนในประเทศลาวผู้เขียนได้พบคนลาวและผู้ใหญ่จำนวนมากเข้ามาทักทาย โดยเฉพาะคนลาวฟังเราเข้าใจ เขาเฝ้าดูทีวีเอเชียอัพเดทกัน เป็นแฟนคลับ สำหรับผู้เขียนมีคนมาผูกข้อมือทักทายเป็นจำนวนมาก มีแม่หญิงลาวสำคัญ ๆ มาทักทายยินดีที่ได้พบปะ มีคนสำคัญทั้งหญิงชายมาบ่นเสียดายที่ไม่ไปร่วมงานกลางคืนที่เวียงจันทร์คืนวันที่ 11 รัฐมนตรีคนหนึ่งบอกว่าขาดนักร้องสำคัญไป 1 คน (แสดงว่าดูรายการทีวีเสื้อแดงและรายการของผู้เขียน สามทุ่มวันศุกร์, เสาร์, อาทิตย์)

นี่ก็แปลว่า สงกรานต์ 3 แผ่นดินปี 2555 นี้ เรายกระดับการต่อสู้ของประชาชนสู่เวทีโลกอย่างเต็มภาคภูมิ ทั้งได้รับความสุข สนุกสนาน และดีใจที่ได้พบปะและทำบุญร่วมกับคุณทักษิณ ได้จัดคอนเสิร์ต งานบุญหน้านครวัดของราชอาณาจักรกัมพูชา ไม่ธรรมดานะ สำหรับแกนนำ นปช. ก็ถูกต้อนรับจากผู้ใหญ่ในกัมพูชาแบบจัดหนักไปหน่อย แต่ก็แสดงถึงมิตรภาพแบบสุด ๆ ของกัมพูชา

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net