Skip to main content
sharethis

“ศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้นเวลา 10.43 น. รวมระยะเวลา 18 นาที พิพากษาให้จำเลยมีความผิดในการส่งข้อความสั้นตามฟ้อง โดยข้อความดังกล่าวมีลักษณะดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้าย และเป็นการใส่ความหมิ่นประมาททำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ทรงเสื่อมเสียพระเกียรติยศ ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง อันเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นอกจากนี้การส่งเอสเอ็มเอสจะต้องส่งผ่านระบบคอมพิวเตอร์ก่อนประมวลผลไปถึงโทรศัพท์เคลื่อนที่ปลายทาง ซึ่งข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริง ประกอบข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์โดยทั่วไปว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถทรงเปี่ยมไปด้วยพระเมตตา ทรงห่วงใยประชาชนทุกหมู่เหล่า ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อปวงชนชาวไทย การกระทำของจำเลยจึงเป็นการนำเข้าสู่ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ และเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร

จำเลยจึงมีความผิดตาม มาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา และพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2551 มาตรา 14 (2) และ (3) การกระทำของจำเลยมีหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรม แต่ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งเป็นโทษหนักสุด ให้จำคุกกระทงละ 5 ปี ความผิด 4 กระทง รวมโทษจำคุกทั้งหมด 20 ปี”

http://www.prachatai3.info/journal/2011/11/37991

"ผศ.ดร.พวงทอง ภวัครพันธุ์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ หนึ่งในนักวิชาการที่ยื่นตำแหน่งเป็นหลักทรัพย์ประกันตัวนายอำพล กล่าวว่า "การยื่นประกันตัวครั้งนี้หวังว่าศาลจะมีความเมตตา พิจารณาว่านายอำพลสูงอายุแล้ว ทั้งยังป่วยและไม่สามารถหลบหนีหรือยุ่งเกี่ยวกับหลักฐาน เนื่องจากนายอำพลมีครอบครัวในประเทศไทย และไม่มีความรู้หรือฐานะที่จะหลบหนีไปต่างประเทศได้ ไม่มีเหตุผลใดที่ศาลจะไม่ให้ประกันตัว จึงขอวิงวอนต่อศาลให้อนุญาตให้นายอำพลได้รับการประกันตัว อันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองด้วย"

http://www.prachatai3.info/journal/2012/02/39322

"พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดี และเหตุผลแห่งคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นแล้ว เห็นว่า เป็นเรื่องร้ายแรงประกอบกับศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลยถึง ๒๐ ปี หากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเชื่อว่าจำเลยจะหลบหนี ส่วนที่จำเลยอ้างความป่วยเจ็บนั้นเห็นว่า จำเลยมีสิทธิที่จะได้รับการรักษาพยาบาลโดยหน่วยงานของรัฐอยู่แล้ว จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยจำเลยชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้ปล่อยจำเลยชั่วคราวชอบแล้ว ยกคำร้อง"

http://www.prachatai3.info/journal/2012/03/39683

......................................................

ข้อเท็จจริงฉบับย่อที่รวบรวมมาด้วยความมึนงงและด้านชาต่อสิ่งที่เกิดขึนในเช้าวันนี้ เป็นเพียงสิ่งน้อยนิดที่ดิฉันทำได้ในฐานะบรรณาธิการข่าวของเว็บไซต์ที่ตามเสนอข่าวผู้ต้องหาคดีอาญามาตรา 112 อย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพราะเราอยากจะล้มเจ้าแต่เพราะเห็นว่าข้อกล่าวหาและกระบวนการที่ดำเนินอยู่มันส่งผลกระทบต่อเสรีภาพของมนุษย์ในทางที่ละเมิดต่อหลักสิทธิมนุษยชน และยังถูกตีตราจากสังคม จากสื่อที่ปั่นเอาประเด็นเหล่านี้ไปรับใช้การต่อสู้และโจมตีกันทางการเมือง

ด้วยข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นนี้เรา-กองบรรณาธิการได้ข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับการรายงานข่าวคดี 112 ว่าจะไม่ลงนามสกุลของผู้ต้องหาหรือจำเลยอีกต่อไป เพราะมันส่งผลไม่เพียงต่อตัวผู้ต้องหา หากแต่ยังกระทบต่อครอบครัวของผู้ต้องหาที่หลายคดีเราพบว่าถูกรังเกียจเดียดฉันท์จากเพื่อนบ้าน ครูและเพื่อนร่วมชั้นเรียน แม้ข้อตกลงนี้จะดูเป็นเรื่องไร้เดียงสาในเมื่อสื่ออื่นๆ เปิดเผยชื่อ-นามสกุลผู้ต้องหาชัดแจ้งแล้ว แต่เรายืนยันจะทำต่อไปด้วยเหตุผลว่า การละเมิดนั้นต้องไม่มาจากเรา

ดิฉันทำข่าวคดีทำนองนี้ไม่มากนัก แต่พอจะรู้ได้ว่านักข่าวผู้ต้องทำหน้าที่รายงานข่าวสายนี้ ต้องทำงานหนักด้วยความระมัดระวัง ซึ่งดิฉันชื่นชมเสมอมา ด้วยว่ามันเป็นประเด็นข่าวที่ไม่อภิรมย์เลย ดิฉันแทบไม่เคยได้ยินข่าวดีจากเรื่องราวที่เธอเล่าเลยสักครั้ง

ในฐานะมนุษย์ ดิฉันรู้สึกมึนงงจริงๆ และเมื่อสำรวจลงไปในหัวใจ ก็พบเพียงความด้านชาหนักๆ อยู่เท่านั้น คนเราไม่อาจเสียใจได้ซ้ำๆ อยู่บ่อยๆ ในเรื่องที่เรารู้ซึ้งอยู่แล้วว่าเราจะต้องเผชิญกับความเสียใจเช่นนั้นอีกนับไม่ถ้วน ด้วยยังมีอีกมากหลายคดีที่ค้างคาอยู่ในชั้นศาล และอีกนับร้อยคดีที่ร้องทุกข์กล่าวโทษอยู่ในขั้นสืบสวนสอบสวน

ดิฉันทำได้เพียงกราบลาอากงด้วยข้อเท็จจริงของคดีอากงเท่านั้น และหวังด้วยว่าคนเราควรจะกราบกรานกันด้วยความเป็นจริง ไม่ใช่ด้วยอารมณ์อันถูกเร้าขึ้นให้ผู้ถูกกราบเลิศลอยเหนือมนุษย์

ความตายของอากงจะไม่สูญเปล่า หากมันช่วยเปล่งเสียงให้กับสิทธิประกันตัวของผู้ต้องหาและจำเลยทั้งหลายในคุกของไทย

ความตายของอากงจะไม่สูญเปล่า หากมันได้ช่วยส่งเสียงไถ่ถามถึงการใช้ดุลพินิจของผู้พิพากษาในการสั่งไม่ให้ประกันตัวว่าสอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนเพียงใดหรือไม่

ความตายของอากงจะไม่สูญเปล่า หากมันได้ช่วยกระตุ้นคำถามที่หนักอึ้งถึงอุดมการณ์เบื้องหลังการบังคับใช้มาตรา 112 ว่าสอดคล้องกับหลักประชาธิปไตยและนิติรัฐเพียงใด

ความตายของอากงจะไม่สูญเปล่า หากมันจะได้ทำให้สื่อมวลชนที่ยั่วยุปลุกปั่นความเกลียดชังได้สำนึกละอายในพฤติกรรมของตน

ความตายของอากงจะไม่สูญเปล่า หากบรรดาผู้คลั่งเจ้าอย่างไร้สติจะได้หวนกลับคืนสู่ความเป็นมนุษย์ที่รู้ร้อนหนาวในทุกข์ของผู้อื่น และไม่มืดบอดอยู่กับการแอบอ้างความรักเจ้าเพื่อจะสร้างความชอบธรรมแก่ความคิดและพฤติกรรมถ่อยเถื่อนของตน

ความตายของอากงจะไม่สูญเปล่า...........

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net