Skip to main content
sharethis

เครือข่ายชาวบ้าน-ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมรวมตัวหน้าศาลากลางลำพูน ยื่นหนังสือร้องการเจรจาแก้ไขปัญหาผ่านผู้ว่าลำพูนถึงยิ่งลักษณ์ ก่อนเคลื่อนขบวนฟังศาลฎีกาตัดสินคดีที่ดินลำพูนพรุ่งนี้

 
 
ประมวลภาพการชุมนุม ณ ศาลากลางจังหวัดลำพูน โดย สำนักข่าวลุ่มน้ำเซิน
 
วันนี้ (5 มิ.ย.55) เวลาประมาณ 10.00 น.เครือข่ายชาวบ้านทั่วประเทศในนามขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ P move ประมาณ 500 คน เดินทางไปรวมตัวที่บริเวณศาลากลางจังหวัดลำพูน เพื่อยื่นหนังสือถึงนางสาวยิงลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนเร่งรัดให้รัฐบาลเปิดการเจรจาแก้ปัญหาเรื่องที่ดิน ก่อนปักหลักหน้าศาลากลางลำพูน เพื่อเตรียมเคลื่อนขบวนไปร่วมรับฟังการอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาในคดีพิพาทที่ดินลำพูนในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.)
 
สำหรับ ประเด็นเร่งด่วนที่มีการเรียกร้องให้เปิดเจรจา ประกอบด้วย 1.การเร่งรัดแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนชุมชนในคณะกรรมการบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) 2.การดำเนินการโครงการนำร่องธนาคารที่ดิน 5 ชุมชน (ตามมติ ครม.22 ก.พ.55 และ 18 มี.ค.54) 3.การเร่งรัดการผลักดันพระราชบัญญัติการรับรองสิทธิ์ที่ดินในรูปแบบโฉนดชุมชน (ตามนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา) ในระหว่างที่กฎหมายดังกล่าวยังไม่มีผลบังคับใช้ ให้ดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชน พ.ศ.2553 และ พ.ศ.2555
 
4.เร่งรัดการแก้ไขกฎหมายป่าไม้ ทั้ง 5 ฉบับ ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ ในหมวดว่าด้วยสิทธิชุมชน และแนวทางในการยุติการฟ้องร้อง การดำเนินคดีโลกร้อน 5.เร่งรัดการแก้ไขปัญหาอื่นๆ ที่ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมที่ได้ยื่นต่อรัฐบาลไว้แล้ว
 
นอกจากนี้ ทางเครือข่ายภาคประชาชนยังระบุขอรับทราบความชัดเจนเกี่ยวกับการเจรจา และตัวแทนรัฐบาลที่จะมาเจรจากับ ขปส. ภายในวันที่ 6 มิ.ย.55 นี้ ก่อนเวลา 12.00 น. ซึ่งจะตรงกับวันที่ศาลจังหวัดลำพูนนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาคดีของนาย สืบสกุล กิจนุกร นายประเวศน์ ปันป่า และนายรังสรรค์ แสนสองแคว ซึ่งถูกดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกและข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ในความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ หรือ คดีที่ดินลำพูน
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ ขปส.ยังได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า ไม่ว่าผลการตัดสินของศาลจะออกมาเป็นอย่างไร ขปส.พร้อมเครือข่ายจะเดินหน้าผลักดันการแก้ไขปัญหาต่อไป
 
 
แถลงการณ์ฉบับที่ ๑๓
 
พิสูจน์ความจริงใจรัฐบาล เปิดการเจรจาแก้ไขปัญหาคนจน
 
เป็นเวลากว่า ๙ เดือนแล้ว ที่รัฐบาลภายใต้การนำของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้ามาบริหารประเทศ ตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกเราขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ได้นำเสนอปัญหาความเดือดร้อนของพวกเราต่อรัฐบาลหลายครั้ง รวมทั้งการเข้านายกรัฐมนตรีที่กองบิน ๔๑ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๕๕ เมื่อคราวการประชุม ครม.สัญจรที่เชียงใหม่ และการเข้าพบนายกรัฐมนตรีที่สนามบินจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๕ ในคราวการประชุม ครม.สัญจรที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาให้กับภาคประชาชน
 
แม้ว่าต่อมารัฐบาลได้มีคำสั่งที่ ๑๕/๒๕๕๕ ลงวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๕๕ แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ)เป็นประธาน และต่อมาเมื่อวันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๕๕ คณะกรรมการฯ ดังกล่าว ได้เรียกประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๕ ขึ้น ที่ตึกบัญชาการทำเนียบรัฐบาล ซึ่งที่ประชุมได้เห็นชอบให้ในหลักการให้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการ และอนุกรรมการเพื่อใช้เป็นกลไกในการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ภายใน ๓๐ วัน แต่ปรากฏว่าไม่มีความคืบหน้าใดเกิดขึ้น
 
ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๕๕ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมได้ขอเข้าพบและเปิดการเจรจาอย่างไม่เป็นทางการกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ที่ห้องรับรองกระทรวงมหาดไทย การหารือดังกล่าวได้เห็นชอบร่วมกันให้มีการเร่งรัดดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการ ๑ คณะ และคณะอนุกรรมการจำนวน ๑๐ คณะ โดยเร็ว แต่จนกระทั้งถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีการดำเนินการใด ใด ที่เป็นรูปธรรม
 
ขณะที่การแก้ไขปัญหาไม่มีความคืบหน้า แต่หน่วยงานราชการในพื้นที่กลับบุกรื้อทำลายพืชผลที่ชาวบ้านทำการเพาะปลูก จนทำให้เกิดการเผชิญหน้า การปะทะกันระหว่างชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ นอกจากนี้ยังมีการการไล่รื้อ การจับกุม รวมทั้งการฟ้องร้องดำเนินคดี โดยเฉพาะการพิพาทที่ดินลำพูน ซึ่งศาลจังหวัดลำพูนจะอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในวันพรุ่งนี้
 
พวกเราขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ขอยืนยันร่วมกันว่า ไม่ว่าผลการพิพากษาจะออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม พวกเราจะเดินหน้าผลักดันการแก้ไขปัญหาต่อไป โดยรัฐบาลจะต้องเปิดการเจรจาอย่างเป็นทางการ ที่จังหวัดลำพูน ขอรับทราบคำตอบจากรัฐบาลผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ภายในวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๕ เวลา ๑๒.๐๐ น
 
 
คนจนทั้งผองพี่น้องกัน
 
ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.)
 
๕ มิถุนายน ๒๕๕๕ หน้าศาลากลางจังหวัดลำพูน
 
 
 
ขณะที่ สำนักข่าวประชาธรรมรายงานว่า นายรังสรรค์ แสนสองแคว สมาชิกขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม และหนึ่งในสามผู้ถูกกล่าวหาในคดี กล่าวว่า เราเรียกร้องให้ประสานงานไปยังสำนักนายกฯ เพื่อให้รัฐบาลส่งตัวแทนมาเจรจากับเรา ถึงแม้ว่าตัวนายกไม่ได้มาก็ขอให้เป็นรองนายกฯ หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนโยบายโฉนดชุมชน โดยให้ประสานงานเพื่อเจรจาในวันที่ 7 มิ.ย.นี้ ตามกำหนดที่เราได้ยื่นหนังสือไปเมื่อวันที่ 29 พ.ค.55 อีกเรื่องหนึ่ง คือ ให้ผู้ว่าฯ ประสานงานไปยังสำนักงานที่ดินป่าซางให้ยุติการออกรังวัดโฉนดที่ดิน 10 แปลง 46 ไร่ ซึ่งมีข้อตกลงตามนโยบายโฉนดชุมชน ที่จะใช้เงิน 167 ล้านซื้อที่ดินนำร่อง
 
ด้านนายสุรชัย ขันอาสาผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนได้ออกมารับเรื่องและกล่าวว่า เรื่องแรกที่ให้ประสานตามหนังสือที่ได้มีการยื่นตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนเองจะติดต่อไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นเรื่องนี้ให้ ซึ่งหลังจากรับเรื่องแล้วรัฐบาลจะมอบหมายว่าให้ใครมาเป็นผู้เจรจาในเรื่องนี้ ส่วนอีกเรื่องเป็นการดำเนินการภายในจังหวัด ขอให้ระงับการรังวัดโฉนดที่ดินของเอกชน ซึ่งถ้ามีหนังสือจากส่วนกลางให้ระงับ เราก็ต้องระงับ
 
“เราไม่ใช่คนแก้ปัญหานี้ ปัญหานี้เป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง เรื้อรังมานาน ไม่ว่ารัฐบาลไหนจะต้องเข้ามาช่วยแก้ปัญหา ทางจังหวัดเราจะคอยอำนวยความสะดวกและเป็นผู้ประสานงานให้พี่น้องประชาชน ส่วนจะใช้เวลานานเท่าไหร่คงต้องแล้วแต่รัฐบาล” นายสุรชัย กล่าวชี้แจง
 
สำหรับกรณีข้อพิพาทระหว่างชาวบ้านและสำนักงานที่ดินสาขาป่าซาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้ข้อตกลงว่าสำนักงานที่ดินจังหวัดจะทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรแก่สำนักที่ดินสาขาป่าซาง ให้ระงับการรังวัดที่ดิน
 
ทั้งนี้ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ประกอบด้วย เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน (คปอ.),เครือข่ายสลัม 4 ภาค, สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.), เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคเหนือ (คปน.), เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง (คปสม.) เป็นต้น
 
 
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net