เหมืองโปแตชเต็มแผ่นดินอีสาน ล่าสุดผุดที่ยโสธร นายทุนขอสำรวจ 1.9 แสนไร่

นายทุนรุมทึ้งขอสัมปทานสำรวจและผลิตแร่โปแตช เอ็นจีโอจวกรัฐบาลเอื้อประโยชน์เอกชน ปลดล็อคกฎหมายแร่ ให้ขุดเอาทรัพยากรใต้ดินไปขาย ไม่เว้นแม้กระทั่งพื้นที่เกษตรอินทรีย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ

 
วันนี้ (27 มิ.ย.55) นายสุวิทย์ กุหลาบวงษ์ ผู้ประสานงานศูนย์ข้อมูลสิทธิมนุษยชนและสันติภาพ (ศสส.) อีสาน ซึ่งติดตามตรวจสอบกรณีเหมืองแร่โปแตชในภาคอีสานมาอย่างต่อเนื่อง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า รัฐบาลชุดนี้โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้ยื่นเรื่องให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประกาศยกเลิกมาตรา 6 ทวิ วรรคสอง ของ พ.ร.บ.แร่ 2510 ในเขตพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นเขตสำหรับดำเนินการสำรวจ การทดลอง การศึกษา หรือการวิจัยเกี่ยวกับแร่ได้เป็นกรณีพิเศษ เพื่อเปิดให้เอกชนสามารถยื่นคำขออาชญาบัตรเพื่อประกอบการเชิงพาณิชย์ และทำการผลิตแร่โปแตช ได้ในหลายพื้นที่
 
นายสุวิทย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรฯ โดยนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ได้ประกาศยกเลิกมาตรา 6 ทวิ วรรคสอง ตาม พ.ร.บ.แร่ 2510 ไปแล้ว ในพื้นที่ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร จำนวน 120,000 ไร่, พื้นที่ อ.เรณูนคร และ อ.พระธาตุพนม จำนวน 200,000 ไร่ และในส่วน จ.หนองคาย คือ อ.สระใคร อ.ท่อบ่อ อ.สังคม และ อ.ศรีเชียงใหม่ จำนวน 100,000 ไร่ กระทรวงอุตสาหกรรม กำลังดำเนินการยื่นเรื่อง
 
“ล่าสุดคือที่อำเภอเมือง และอำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ได้มีเอกชน คือบริษัทไทยอินเตอร์ โปแตช คอร์ปอเรชั่น จำกัด กำลังยื่นขออาชญาบัตรสำรวจแหล่งแร่โปแตช พื้นที่จำนวน 190,000 ไร่ นอกจากนี้ก็พบว่ามีนายทุนไปหากว้านซื้อที่ดินหลายพันไร่ในบริเวณนั้น ขณะที่ผู้ว่าฯ และอุตสาหกรรมจังหวัดได้ลงพื้นที่ไปคุยกับชาวบ้าน แต่อ้างว่าจะพัฒนา การเกษตร คือปลูกยางพารา” นายสุวิทย์ กล่าว
 
ด้านนายอุบล อยู่หว้า ผู้ประสานงานเครือข่ายเกษตรทางเลือก ภาคอีสาน เปิดเผยว่า เป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ที่จะให้อุตสาหกรรมร้ายแรง และไม่เป็นประโยชน์แก่คนในท้องถิ่น มาเกิดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งคนอีสานจะต้องลุกขึ้นมาปกป้องผืนแผ่นดิน โดยตนและเครือข่ายชาวบ้านก็จะติดตามให้ถึงที่สุด
 
“พื้นที่จังหวัดยโสธร ถือว่าเป็นแหล่งอู่ข้าวอู่น้ำ และมีการทำเกษตรอินทรีย์มากที่สุดในประเทศ หากมีเหมืองแร่โปแตชเกิดขึ้น ย่อมส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านและความมั่นคงทางอาหารของประเทศ ซึ่งในเบื้องต้นก็ได้ให้ข้อมูลกับแกนนำในพื้นที่แล้วระดับหนึ่ง และมีแผนจะไปแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับพี่น้องที่อุดรฯ และสกลนครด้วย” นายอุบล กล่าว
 
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สถานการณ์โครงการเหมืองแร่โปแตช จ.สกลนคร มีความคืบหน้าค่อนข้างมาก เมื่อประธานบริษัท ไชน่า หมิงต๋า โปแตช คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) ผู้ยื่นขออาชญาบัตรพิเศษ จากประเทศจีน กำลังเดินสายพบปะข้าราชการและผู้นำชุมชน และมีแผนจะพาไปดูเหมืองที่ประเทศจีน ในเร็วๆ นี้
 
ส่วนที่ จ.อุดรธานี อยู่ระหว่างการยื่นขออนุญาตประทานบัตร ทำเหมือง ของบริษัท เอเชีย แปซิฟิก โปแตช คอร์ปอเรชั่น จำกัด (เอพีพีซี) แต่ติดอยู่ที่ชาวบ้านในพื้นที่คัดค้าน และอยู่ระหว่างการแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมสองฝ่าย คือ ฝ่ายกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) และฝ่ายชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี เพื่อศึกษาร่วมกันทั้งในข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงตามขั้นตอนประทานบัตร
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท