ม.ทักษิณ แจกเอกสารแจงมติจังหวัดให้ใช้พื้นที่ เมินมติกรรมการสิทธิฯ เดินหน้าการก่อสร้าง

วิทยาลัยภูมิปัญหา ม.ทักษิณเมินมติกรรมการสิทธิ์ อ้างมติคณะกรรมการกำกับการใช้ที่ดินของรัฐประจำจังหวัดพัทลุงให้ใช้ประโยชน์ พร้อมระบุหากชาวบ้านต้องการเข้าใช้พื้นที่ให้ขออนุญาตและทำสัญญาข้อตกลงก่อน ด้านชาวบ้านแฉถูกยามข่มขู่-กลั่นแกล้งสารพัด กร้าวเดินหน้าใช้สิทธิชุมชนทำกิน

 
 
แจกประกาศวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน อ้างมีมติจังหวัดให้ใช้ประโยชน์ที่ดิน
 
นางเนิม หนูบูรณ์ เหรัญญิกเครือข่ายรักษ์แผ่นดินทุ่งสระ สมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ชาวบ้านไปยื่นหนังสือกับผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงให้แก้ไปปัญหาข้อพิพาทที่สาธารณะประโยชน์ทุ่งสระระหว่างชาวบ้านกับวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน มหาวิทยาลัยทักษิณ เมื่อวันที่ 20 ก.ค.55 เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน ได้เอาประกาศวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน เรื่องการใช้ที่ดิน “ทุ่งสระ” สาธารณะประโยชน์ในส่วนที่เป็นสิทธิของมหาวิทยาลัยทักษิณ มาแจกให้ชาวบ้านไสกลิ้งและบ้านท่าช้าง ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จังหวัดพัทลุง
 
ประกาศวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน มหาวิทยาลัยทักษิณ ลงลายมือชื่อโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์วิเชียร แก้วบุญส่ง ผู้อำนวยการวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน มหาวิทยาลัยทักษิณ ปฏิบัติหน้าที่แทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณ ออกเมื่อ วันที่ 19 ก.ค.55 มีสาระสำคัญระบุว่า เมื่อวันที่ 20 มี.ค.51 คณะกรรมการกำกับการใช้ที่ดินของรัฐประจำจังหวัดพัทลุง ซึ่งมีผู้ว่าราชการเป็นประธานได้มีการประชุมและมีมติเอกฉันท์ให้มหาวิทยาลัยทักษิณใช้ประโยชน์ที่ดิน “ทุ่งสระ” สาธารณะประโยชน์ ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เนื้อที่ประมาณ 635 ไร่ ทางฝั่งทิศตะวันตกของถนนสายทะเลน้อย-ลำปำ ตามที่รังวัดเมื่อวันที่ 30 ม.ค.51
 
ดังนั้น มหาวิทยาลัยทักษิณมีสิทธิใช้ประโยชน์และดูแลรักษาตามกฎหมาย แต่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมและเจตนารมณ์วิทยาลัยฯ ที่มุ่งพัฒนาชุมชนและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน จึงอนุญาตให้ราษฎรบางรายใช้ประโยชน์ แต่ต้องแจ้งขออนุญาตจากมหาวิทยาลัยฯ และต้องได้รับความยินยอมจากมหาวิทยาลัยฯ ก่อน การอนุญาตดังกล่าวมีเงื่อนไขดังนี้
 
1.ราษฎรที่ประสงค์จะใช้ที่มหาวิทยาลัยฯ ได้รับอนุญาตใช้ประโยชน์ ให้ขออนุญาตและทำสัญญาข้อตกลงกับผู้อำนวยการวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน ในนามมหาวิทยาลัยฯ
 
2.ลักษณะของการทำประโยชน์ที่จะอนุญาตให้ใช้ราษฎรต้องใช้เพื่อทำนาหรือปลูกพืชล้มลุกตามฤดูกาลเท่านั้น และต้องไม่ขุดคูหรือยกร่องด้วยเครื่องจักร
 
3 ราษฎรที่ปลูกพืชยืนต้น เช่นปาล์มน้ำมัน ยางพาราไปแล้ว ก่อนเดือนเมษายน 2555 หากประสงค์จะเข้าไปดูแลบำรุงรักษาพืชที่ปลูกไว้ เพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ มหาวิทยาลัยฯ จะอนุญาตให้กระทำการดังกล่าวได้ก็ต่อเมื่อเจ้าของได้ไปทำสัญญาข้อตกลงกับมหาวิทยาลัยฯ เท่านั้น
 
อนึ่งราษฎรที่ได้ไปทำสัญญาไว้กับมหาวิทยาลัยฯ แล้ว สามารถเก็บผลผลิตจากการปลูกไม้ยืนต้นดังกล่าวได้จนกว่าต้นไม้จะตาย หรือหมดอายุการเก็บผลผลิต แต่จะไม่มีการปลูกไม้ยืนต้นเพิ่มเติมทั้งในพื้นที่เดิม หรือพื้นที่ใหม่ แต่หากมหาวิทยาลัยฯ จำเป็นต้องใช้พื้นที่เพื่อการก่อสร้างหรือเพื่อการพัฒนาใดๆ มหาวิทยาลัยฯ จะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 90 วัน ก่อนเข้าดำเนินการ
 
4.มหาวิทยาลัยฯ จะอนุญาตให้ใช้ที่ดินทำประโยชน์และอนุญาตให้เข้ามาดูแลรักษาต้นไม้ที่ปลูกไว้ได้เฉพาะราษฎรที่ได้มาทำสัญญาข้อตกลงกับมหาวิทยาลัยฯ เท่านั้น หากราษฎรรายใดเข้ามาใช้พื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาตมหาวิทยาลัยฯ จำเป็นต้องแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย
 
 
มหาวิทยาลัยฯ เมินคำสั่ง กสม.ให้ยุติการก่อสร้างใดๆ จนกว่าจะขอใช้พื้นที่ให้ถูกต้อง
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 พ.ย.51 นางแปลก หนูบูรณ์กับพวกรวม 6 คน ซึ่งเป็นตัวแทนราษฎรหมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 6 ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนอนุกรรมการในการจัดการที่ดินและป่า ในกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ว่าได้รับความเดือดร้อนจากการที่มหาวิทยาลัยทักษิณได้เข้ามาครอบครองที่ดินสาธารณประโยชน์ “ทุ่งสระ” เพื่อก่อสร้างวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน โดยมหาวิทยาลัยทักษิณขัดขวางไม่ให้ราษฎรเข้าไปประกอบอาชีพ และปักป้ายประกาศห้ามราษฎรเข้าไปในที่ดิน อีกทั้งยังขุดลอกคลองขึ้นใหม่ ทำให้ราษฎรประมาณ 150 ครอบครัว ไม่สามารถสัญจรและเข้าไปประกอบอาชีพการเกษตรและเลี้ยงสัตว์บริเวณดังกล่าวได้เช่นเดิม
 
ต่อมา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีมติในการประชุมครั้งที่ 12/2552 เมื่อวันที่ 24 เม.ย.52 เห็นชอบตามมติคณะอนุกรรมการสิทธิในการจัดการที่ดินและป่า ชุดที่ 3 จึงมีมาตรการในการแก้ไขปัญหาให้มหาวิทยาลัยทักษิณ ยุติการก่อสร้างใดๆ ในพื้นที่ ต.พนางตุง จนกว่าจะได้ดำเนินการขอใช้พื้นที่ให้ถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมาย โดยเคารพต่อสิทธิชุมชน และสิทธิองค์กรปกครองท้องถิ่นตามรัฐธรรมนูญ ให้มหาวิทยาลัยทักษิณ ดำเนินการก่อสร้างวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชนใน ต.พนางตุง เฉพาะพื้นที่ที่มีการก่อสร้างไปแล้วเท่านั้น โดยให้เทศบาลพนางตุงดูแลพื้นที่สาธารณประโยชน์ต่อไป
 
นอกจากนี้ เมื่อวันที่21 มิ.ย.55 เครือข่ายรักษ์แผ่นดินทุ่งสระกว่า 80 คน ได้ไปถามเทศบาลตำบลพนางตุงว่าวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน มหาวิทยาลัยทักษิณ ได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่จากกระทรวงมหาไทยแล้วหรือไม่ โดยได้รับคำตอบว่ามหาวิทยาลัยทักษิณ ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่สาธารณะทุ่งสระจากกระทรวงมหาดไทย
 
นางเนิม กล่าวว่า เทศบาลตำบลพนางตุงทำหนังสือไปยังมหาวิทยาลัยทักษิณไม่ให้มีการต่อเติมอาคาร แต่ก็ยังเดินหน้าสร้างต่อโดยไม่สนใจ ชาวบ้านเห็นว่ากรรมการสิทธิ์ฯ และเทศบาลฯ ห้ามต่อเติมอาคารเลยเข้าไปทักท้วง ปรากฏว่าคนงานของวิทยาลัยภูมิปัญญา เปลือยก้นให้ชาวบ้านดูเชิงเหยียดหยาม ไม่นึกว่าจะทำได้ถึงขนาดนั้น
 
สมาชิกเครือข่ายรักษ์แผ่นดินทุ่งสระ กล่าวด้วยว่า เวลาชาวบ้านไปดายหญ้าสวนปาล์มน้ำมัน สวนยางพารา ไปเก็บถั่วเขียว ไปปลูกแตงกวา แตงโม มักมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของวิทยาลัยภูมิปัญญา มาถ่ายรูปเพื่อข่มขู่จะแจ้งความกับชาวบ้านอยู่เสมอ อย่างกรณีล่าสุดที่ชาวบ้านถูกแจ้งความข้อหาบุกรุก เขาแค่ไปเก็บถั่วเขียวเท่านั้น ตนก็งงเหมือนกันเมื่อมหาวิทยาลัยฯ ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่จากกระทรวงมหาดไทย ตำรวจรับแจ้งความได้อย่างไร มีอยู่ครั้งหนึ่งตอนที่ชาวบ้านชุมนุมให้วิทยาลัยฯ ถอดป้ายห้ามชาวบ้านเข้าทำประโยชน์ มีการยิงปืนข่มขู่ชาวบ้านด้วย
 
“ยังไม่ใครไปทำข้อตกลงกับมันด้วยหรอก ในเมื่อที่ดินเป็นของพวกเรา มันอ้างเอาเองทั้งเพ ป้าและชาวบ้านก็เข้าไปใช้ประโยชน์เหมือนเดิม ป้าไม่กลัวหรอก ชาวบ้านก็ไม่กลัว เราใช้สิทธิของชุมชน และตอนนี้กำลังดำเนินการจัดทำโฉนดชุมชนตามนโยบายของรัฐบาลอยู่ วันนั้นนะวันที่ ผ.อ.สำนักงานโฉนดชุมชนลงทุ่งสระ พวกยามวิทยาลัยฯ ไปปล่อยข่าวว่าเราโกหกทั้งเพ หลอกชาวบ้านว่าเป็น ผ.อ.โฉนดชุมชนลงพื้นที่ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าใคร และยังสบประมาทว่าไม่มีทางที่จะทำโฉนดชุมชนได้” นางเนิม กล่าว
 
ส่วน นายเปลื้อม จันสุกสี กรรมการเครือข่ายรักษ์แผ่นดินทุ่งสระ ให้ข้อมูลว่า ผู้ช่วยศาสตราจารย์วิเชียร แก้วบุญส่ง ผู้อำนวยการวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน มหาวิทยาลัยทักษิณ เคยพูดกับชาวบ้านว่ามติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ไม่เคยอยู่ในสายตามหาวิทยาลัยฯ เลย อีกทั้งเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมามหาวิทยาลัยทักษิณทำหนังสือถึงเทศบาลตำบลพนางตุงให้ฟ้องมหาวิทยาลัยฯ และชาวบ้านกับศาลปกครอง กรณีที่สาธารณะประโยชน์ทุ่งสระ แต่เทศบาลฯ ตอบปฏิเสธ
 
นายเปลื้อม กล่าวด้วยว่า เมื่อประมาณปี 2552 วิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน เดินไฟฟ้าตามสายลวดหนามบริเวณวิทยาลัยฯ ทำให้วัวของชาวบ้านโดนไฟฟ้าช็อตตายไป 2 ตัว ต่อมากรรมการสิทธิ์สั่งให้รื้อออก ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงคุยเพื่อแก้ปัญหาให้ชาวบ้านแล้วแต่ทางมหาวิทยาลัยก็ไม่ยินยอม ชาวบ้านขอแค่ให้ใช้พื้นที่ที่สร้างอาคารแล้ว 185 ไร่ ที่เหลือขอให้ชาวบ้านใช้ประโยชน์
 
“แต่ก่อนชาวบ้านทำนาปีละ 2 ครั้งเพราะมีคลองชลประทานไหลผ่าน พอมหาลัยฯ มามันขุดตัดคลองส่งน้ำชลประทาน จนให้ชาวบ้านทำนาไม่ได้อีกเพราะไม่มีน้ำ จึงหันกันไปปลูกปาล์มน้ำมัน ยางพารา พืชผัก วิทยาลัยภูมิปัญหาชุมชนอะไรทะเลาะกับชุมชน วิทยาลัยฯ มันใช้อำนาจจ้างอันธพาลในตำบลให้เป็นยามมาคอยขมขู่ชาวบ้าน” นายเปลื้อม กล่าว
 
3 คดี ข้อพิพาท มหาวิทยาลัยทักษิณ-ชาวบ้าน
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีข้อพิพาทระหว่างชาวบ้านและมหาวิทยาลัย มี 3 คดี คดีแรกอยู่ในชั้นศาล คือ คดีหมายเลขดำที่ 510 / 2554 อัยการจังหวัดพัทลุง ยื่นฟ้องนายบุญธรรม วรรณเดช กับพวกรวม 8 คน ประกอบด้วย นายรูญ หนูบูรณ์ นายบวน หนูบูรณ์ นางเนิม หนูบูรณ์ นายยุทธชัย ทองวัตร นายวิน ผอมหนู นางแปลก หนูบูรณ์ และนายเปื้อม จันสุกสี ฐานร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ของวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน มหาวิทยาลัยทักษิณ โดยศาลจังหวัดพัทลุงนัดเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างชาวบ้าน กับวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน มหาวิทยาลัยทักษิณ ซึ่งคดียังไม่มีข้อสรุป
 
คดีที่ 2 ยังอยู่ในชั้นอัยการ คือคดีอาญาที่ 78/2553 ที่พนักงานสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหาแก่ นายบุญรัตน์ สวนอินทร์ จำเลยที่ 3 เป็นหัวหน้าผู้สั่งการนำกำลังชาวบ้านรวม 14 คน ประกอบด้วย นายบุญเศียร รอดยัง นายวิน ผอมหนู นายบุญรัตน์ สวนอินทร์ นายสมปอง จักรปล้อง นายมานะ เอื้อบำรุงเกียรติ นางสารภี เอื้อบำรุงเกียรติ นางอุไร จันสุกสี นางเอิ้ม จันสุกสี นายสมนึก จันสุกสี นางศรีเพียร จันสุกสี นายศรศักดิ์ จันสุกสี นายสวน เทพนุ้ย นางพัน เพชรศรี และนางเนิม หนูบูรณ์ ฐานร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ของวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน มหาวิทยาลัยทักษิณ โดยอัยการจังหวัดพัทลุงนัดเจรจาไกล่เกลี่ยซึ่งคดียังไม่ได้ข้อสรุปเช่นกัน
 
ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.55 ผศ.วิเชียร แก้วบุญส่ง ผู้อำนวยการวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน มหาวิทยาลัยทักษิณ มาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรทะเลน้อย ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ว่าเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2-3 เม.ย.55 และเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 23-24 เม.ย.55 นางสายัญ ดำมุสิก และนายโสภณ ดำมุสิก เข้าใช้พื้นที่ของมหาวิทยาลัยทักษิณ โดยได้ยกร่องปลูกต้นปาล์มน้ำมัน กล่าวหาว่าร่วมกันบุกรุก รบกวนสิทธิการครอบครองและสิทธิการใช้ประโยชน์ของมหาวิทยาลัยทักษิณ
 
ทั้งนี้นางเนิม หนูบูรณ์ และนายวิน ผอมหนู ถูกดำเนินคดีซ้ำซ้อนถึง 2 คดี
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท