Skip to main content
sharethis

เมื่อวันที่ 18 ต.ค. โฆษกหน่วยข่าวกรองและตอบโต้ด่วนของคณะรัฐมนตรีกัมพูชา ออกแถลงการณ์ กรณีมีการเผยแพร่ภาพ ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าวช่อง 3 ผ่านทางเฟซบุ๊ก จนทำให้เกิดความเข้าใจผิด โดยระบุว่า ต่อกรณีดังกล่าว ทั้งตัวผู้สื่อข่าวและผู้แทนสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ของไทย ได้แสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และได้ทำการขออภัยโทษต่อรัฐบาลและประชาชนกัมพูชา นอกจากนี้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ได้โทรศัพท์ถึงสมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แสดงความเสียใจต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และทำความเข้าใจต่อกันแล้ว

โดยสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ของไทยได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่ามิได้มีเจตนาที่จะหมิ่นพระบรมเดชานุภาพหรือแสดงความไม่เคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นที่เคารพรักของประชาชนกัมพูชา นอกจากนี้ รูปภาพที่เผยแพร่ในเฟซบุ๊กนั้นเป็นภาพที่ถ่ายจากด้านข้างเยื้องมาทางด้านหลัง ทำให้ดูเหมือนของทั้งหมดอยู่ใกล้กับเท้า

ดังนั้น จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ประชาชนกัมพูชาที่อยู่ในช่วงเศร้าเสียใจต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนโรดมสีหนุฯ จะเข้าใจต่อเหตุการณ์ความเป็นจริง และหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดที่อาจเกิดจากการยุยงส่งเสริมของผู้ไม่ประสงค์ดีที่ประสงค์จะสร้างความไม่สงบในสังคม และสร้างความไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง ตลอดจนการสร้างความเป็นศัตรูกับประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ

 

เนื้อหาแถลงการณ์ (ถูกแปลจากภาษากัมพูชา) มีดังนี้

แถลงการณ์กองการข่าวและโต้ตอบเร็ว

เมื่อวันที่ 16 และ 17 ต.ค. 55 หลังจากมีการเผยแพร่รูปภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระนโรดมสีหนุ ที่เคารพรักของประชาชนกัมพูชาใต้เท้าของผู้สื่อข่าวประจำสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ของไทย น.ส.ฐปณีย์ เอียดศรีไชย และที่กลุ่มผู้ไม่หวังดี (อคติ) และกลุ่มที่ชอบสร้างกระแสบางกลุ่มได้โพสต์รูปตามเว็บไซต์สังคมออนไลน์ Facebook ซึ่งแสดงเกินความเป็นจริง อันอาจทำให้สาธารณชนเกิดความเข้าใจผิด ดังนั้น โฆษกกองการข่าวและโต้ตอบเร็วขอกราบเรียนสาธารณชนให้ทราบ ดังนี้

1.ตามแหล่งข่าวความเป็นจริง ทราบว่าในความเป็นจริงผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวได้ขอยืมหนังสือพิมพ์ 1 ฉบับจากผู้สื่อข่าวชาวกัมพูชาเพื่อนำไปศึกษาเกี่ยวกับชีวประวัติของสมเด็จพระนโรดมสีหนุ หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวไทยคนดังกล่าวได้เริ่มต้นรายงานข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ทั่วไปของพระราชพิธีฯ ในขณะนั้น ผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวได้วางหนังสือพิมพ์พร้อมกับสมุดบันทึกและโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตนบนพื้นเพื่อทำการรายงานข่าว หลังจากนั้น ในช่วงกลางวันได้มีข่าวรูปพระบรมฉายาลักษณ์ปรากฏใต้เท้าของผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวเผยแพร่ทาง Facebook

หลังจากที่ได้รับข่าวที่เผยแพร่ทาง Facebook นี้ ที่อาจกระทบจิตใจประชาชนกัมพูชาและอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้น รวมทั้งโดยกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างทั้งสองประเทศ ผู้สื่อข่าวไทยคนดังกล่าวมีความกังวลและหวาดกลัวอย่างมาก และได้เดินทางไปกราบขอพระราชทานอภัยโทษต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ฯ ที่บริเวณหน้าพระบรมมหาราชวังโดยทันที

2.เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 55 เมื่อเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวไทย (คนดังกล่าว) น.ส. ฐปณีย์ เอียดศรีไชย และนายมงคล เจริญ รองผู้อำนวยการ สถานีโทรทัศน์ ช่อง 3 ของไทย ได้เดินทางไปคุกเข่ากราบขอพระราชทานอภัยโทษและขอโทษต่อประชาชนกัมพูชาเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนโรดมสีหนุ ณ สถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำกรุงเทพฯ

3.ในวันเดียวกันนั้น สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ของไทยได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงความเป็นจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่ามิได้มีเจตนาที่จะหมิ่นพระบรมเดชานุภาพหรือแสดงความไม่เคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นที่เคารพรักของประชาชนกัมพูชา เพราะ ณ ขณะนั้นเป็นช่วงเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าวพระราชพิธีพระบรมศพที่ผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวต้องวางสัมภาระส่วนตัวต่างๆ โดยมีโทรศัพท์เคลื่อนที่ สมุดบันทึก และหนังสือพิมพ์ที่มีพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนโรดมสีหนุ ที่ตีพิมพ์หลังจากที่เสด็จสวรรคต และวางบนพื้นโดยไม่เจตนา ซึ่งได้วางห่างจากตัวพอสมควร แต่รูปภาพที่มีการเผยแพร่ทาง Facebook เป็นภาพที่ถ่ายจากด้านข้างเยื้องมาทางด้านหลัง ทำให้ดูเหมือนของทั้งหมดอยู่ใกล้กับเท้า

อย่างไรก็ดี ทั้งผู้สื่อข่าว น.ส. ฐปณีย์ฯ และผู้แทนสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ของไทย ได้แสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และได้ทำการขออภัยโทษต่อรัฐบาลและประชาชนกัมพูชา และหวังว่าเหตุการณ์นี้จะไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ของประเทศทั้งสอง

เกี่ยวกับปัญหาที่อ่อนไหวนี้ เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 55 ฯพณฯ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ได้โทรศัพท์ถึงสมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แสดงความเสียใจต่ออุบัติเหตุที่มิได้เกิดจากความตั้งใจนี้ และผู้นำของประเทศทั้งสองได้ทำความเข้าใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 16-17 ต.ค. ดังกล่าว

โฆษกกองการข่าวและโต้ตอบเร็วของสำนักนายกรัฐมนตรีหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ประชาชนกัมพูชาที่อยู่ในช่วงเศร้าเสียใจต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนโรดมสีหนุฯ จะมีความเข้าใจต่อเหตุการณ์ความเป็นจริง และหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดที่อาจเกิดจากการยุยงส่งเสริมของผู้ไม่ประสงค์ดี (ผู้มีอคติ) ที่ประสงค์จะสร้างความไม่สงบในสังคม และสร้างความไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง ตลอดจนการสร้างความเป็นศัตรูกับประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการทางการเมืองของคนบางกลุ่ม เพื่อหลอกลวงความเห็นของสาธารณชนและทำลายความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประชาชนและรัฐบาลของกัมพูชาและไทย

ราชธานีพนมเปญ

18 ตุลาคม 2555

 

 

ที่มา: ครอบครัวข่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net