เลาะเลียบริมโขง : เบียร์ลาวกับการสร้างความภาคภูมิใจในความเป็นลาว

เมื่อพูดถึงเมืองลาวแล้ว นอกจากพระธาตุหลวงเวียงจันทร์ หอพระแก้ว หอคำหลวง น้ำตกคอนพะเพ็ง และเขื่อนน้ำงึม สิ่งที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และถูกกล่าวขวัญถึงคู่กันเสมอคือ “เบียร์ลาว” (ເບຍລາວ) ที่แขกไปใครมาเมืองลาวก็ต้องดื่ม หรือหอบซื้อกลับบ้านเป็นของฝากภาคบังคับสำหรับคนที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

บริษัท เบียร์ลาว จำกัด (Lao Brewery Co., Ltd.) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเบียร์ลาว ถือกำเนิดขึ้นในปี 1973 โดยเป็นการร่วมทุนระหว่างนักลงทุนฝรั่งเศสกับนักธุรกิจลาว ในชื่อ Brasseries et Glacières du Laos (BGL) ผลิตเบียร์เพื่อจำหน่ายในประเทศลาว และส่งออกไปยังประเทศในกลุ่มอินโดจีนฝรั่งเศส เนื่องจากเล็งเห็นว่าประเทศลาวเป็นประเทศที่มีแหล่งน้ำดิบสะอาดและมีคุณภาพเหมาะสมที่จะผลิตเบียร์ รวมถึงข้าวที่นำมาเป็นวัตถุดิบตั้งต้นก็อุดมสมบูรณ์ โดยใช้ชื่อทางการค้าว่า Bière Larue สำหรับเบียร์ที่จำหน่ายในประเทศ และ "33" export สำหรับเบียร์ที่ส่งออกไปยังต่างประเทศ

ในปี 1975 เมื่อลาวเปลี่ยนแปลงการปกครอง รัฐบาลลาวได้ยึดเอาหุ้นในบริษัทของนักลงทุนฝรั่งเศสเป็นของรัฐ และอ้างว่านักธุรกิจฝ่ายลาวสมัครใจจะมอบหุ้นให้แก่ทางการ บริษัทเบียร์ลาวจึงกลายเป็นรัฐวิสาหกิจ และเริ่มผลิตเบียร์ในชื่อการค้า  Bière Lao ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็น Beer Lao ซึ่งเป็นชื่อผลิตภัณฑ์ที่ใช้มาจนถึงปัจจุบัน

ในปี 1993 กลุ่มบริษัทลอกซเลย์ และอิตาเลียน-ไทย ได้เข้ามาร่วมลงทุนกับรัฐบาลลาวในกิจการเบียร์ลาวเป็นจำนวนหุ้น 51% (ฝ่ายละ 25.5%) ก่อนที่จะถอนตัวออกไป โดยมีกลุ่มบริษัทคาร์ลสเบิร์ก และ TCC International หรือกลุ่มไทยเบฟ (เบียร์ช้าง)ของเจริญ สิริวัฒนภักดี เข้ามาร่วมลงทุนแทนในอัตราหุ้นส่วน 25% ส่วนที่เหลืออีก 50% ยังเป็นของรัฐบาลลาวอยู่

ปัจจุบัน บริษัทเบียร์ลาว จำกัด มีกำลังการผลิตปีละ 210 ล้านลิตร ในโรงงานสองแห่งคือที่แขวงเวียงจันทร์ และแขวงจำปาสัก โดยวัตถุดิบหลักที่ใช้คือข้าวหอมมะลิปลูกในประเทศ ข้าวบาร์เลย์มอลต์นำเข้าจากฝรั่งเศสและเบลเยียม ส่วนยีสต์ และฮ็อบส์ที่ใช้ นำเข้าจากประเทศเยอรมนี โดยใช้เครื่องจักรนำเข้าจากประเทศเยอรมนีทั้งหมด ซึ่งการใช้ข้าวหอมมะลิในประเทศเป็นวัตถุดิบร่วมกับมอลต์ข้าวบาร์เลย์ ทำให้กลิ่นและรสของเบียร์ลาวเป็นที่กล่าวขวัญถึงว่ามีเอกลักษณ์ของตนเอง และเป็นที่นิยมของสิงห์นักดื่มไม่ว่าชาวลาวหรือชาวต่างชาติ

            ผลิตภัณฑ์เบียร์ลาวที่วางจำหน่ายอยู่ ประกอบด้วย

  • ເບຍລາວ เบียร์ลาว (Beer Lao Lager) แอลกอฮอล์ 5% ทำจากบาร์เลย์มอลต์ผสมกับข้าวหอมมะลิท้องถิ่นถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของบริษัท โดยส่งออกไปยัง 13 ประเทศทั่วโลก
  • ເບຍລາວດາກ (ເບຍດໍາ) เบียร์ลาวดำ (Beer Lao Dark) แอลกอฮอล์ 6.5% ทำจากบาร์เลย์มอลต์อบ
  • ເບຍລາວຄໍາ เบียร์ลาวทอง (Beer Lao Gold) แอลกอฮอล์ 5% ทำจากบาร์เลย์มอลต์และข้าวหอมมะลิท้องถิ่น โดยใช้ฮ็อบส์พันธุ์ที่มีกลิ่นหอมพิเศษ เป็นสินค้าพรีเมียมที่หาซื้อได้ยาก
  • ເບຍລ້ານຊ້າງ เบียร์ล้านช้าง (Lane Xang) แอลกอฮอล์ 5.5% เป็น Fighting Brand ที่ออกมาเพื่อแข่งขันกับเบียร์ต่างประเทศในปี 2008

นอกจากนี้ บริษัทเบียร์ลาวยังผลิตและบรรจุขวดน้ำดื่มและโซดาตราหัวเสือ, เบียร์คาร์ลสเบิร์ก และเครื่องดื่มน้ำอัดลมในตระกูลเป๊ปซี่ มิรินด้า และเซเว่นอัพด้วย

การตลาดของเบียร์ลาว เน้นแสดงความภาคภูมิใจในความเป็นลาว ที่มีน้ำใจและรักษาวัฒนธรรมประเพณี รวมถึงใช้กลยุทธการนำเอาเหรียญคำ (เหรียญทอง) จากงานประกวดเบียร์นานาชาติ มาใช้โฆษณา คล้ายคลึงกับกลยุทธการโฆษณาเบียร์ช้าง รวมถึงโปรดักชั่นโฆษณาที่มีคุณภาพการถ่ายทำมากกว่าโฆษณาทั่วไปของธุรกิจในประเทศลาว ซึ่งอาจพออนุมานได้ว่า ได้รับความช่วยเหลือด้านการตลาดและโฆษณาจากกลุ่มเบียร์ช้างของไทย

ในทุกวิดีโอโฆษณาของเบียร์ลาวที่แพร่ภาพทางโทรทัศน์ รวมถึงป้ายโฆษณา จึงผูกติดกับสัญลักษณ์ทางวัตถุและวัฒนธรรมความเป็นลาวอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นพระธาตุหลวง อนุสาวรีย์วีรกษัตริย์ ประตูชัย แม่น้ำโขง น้ำตกคอนพะเพ็ง แก่งหลี่ผี และเขื่อนต่างๆ และเข้าไปมีส่วนร่วมสนับสนุนในงานประเพณี เช่น งานแข่งเรือยาวประเพณี งานบุญประจำปี รวมถึงมีบทบาทสำคัญในการให้ทุนสนับสนุนการจัดแข่งกีฬาไม่ว่าจะเป็นบานเตะ (ฟุตบอล) การตีดอกปีกไก่(แบดมินตัน) หรือเทนนิส (โดยไม่ถูกหวงห้ามว่าเป็นบริษัทผลิตสุราแล้วจะห้ามโฆษณาในงานบุญหรืองานกีฬา แบบที่ สสส. ของไทยอ้างแต่อย่างใด)

จากแนวโน้มการเติบโตของจำนวนประชากร และการขยายโรงงานของบริษัท เบียร์ลาว จำกัด ซึ่งกำลังจะเปิดโรงงานแห่งที่สาม ณ เมืองปากเซ รวมถึงอัตราการบริโภคเบียร์ต่อหัวต่อปีของชาวลาวที่ยังค่อนข้างต่ำ จึงทำให้โอกาสทางการตลาดของเบียร์ลาวยังเปิดกว้างอยู่อีกมาก เมื่อรวมกับความช่วยเหลือทางเทคนิคจากกลุ่มคาร์ลสเบิร์ก และความช่วยเหลือด้านทุนและกลยุทธทางการตลาดของกลุ่มเบียร์ช้าง ทำให้เราอาจคาดได้ว่า เบียร์ลาวจะกลายเป็นสินค้าสำคัญเป็นหน้าเป็นตาที่อยู่คู่ประเทศลาวไปอีกยาวนาน

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท