พยานเข้าให้ปากคำคดี 'ฟาบิโอ' อีก 3 ยันมั่นใจกระสุนมาจากทหาร

พยานเห็นเหตุการณ์การเสียชีวิตของช่างภาพอิตาเลียน 'ฟาบิโอ โปเลนกี' ให้ปากคำต่อศาลอาญา ประกอบด้วยผู้ทำสารคดีชาวอเมริกัน และผู้ชุมนุมในเหตุการณ์อีกสอง ระบุมั่นใจ 100% ทหารยิงฟาบิโอ 

7 ธ.ค. 55 - เมื่อเวลาราว 10.30 น. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ อัยการได้เบิกความพยานในคดีหมายเลขช. 10/2555 เป็นคดีการเสียชีวิตของช่างภาพอิตาเลียน ฟาบิโอ โปเลนกี ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 พ.ย. 53 ในขณะที่มีการสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยพยานที่มาเบิกความในวันนี้ ได้แก่ แบรดลีย์ คอกซ์ นักถ่ายทำสารคดีชาวอเมริกัน ซึ่งถูกยิงที่ขาขวาในวันที่ 19 พ.ย. 53 นายขวัญชัย โสระภาส และนายอุดร วรรณสิงห์ เป็นผู้ชุมนุมเสื้อแดง โดยทั้งหมดกล่าวว่าตนเห็นเหตุการณ์ในขณะที่นายฟาบิโอ โปเลนกีถูกยิงอย่างใกล้ชิด และค่อนข้างมั่นใจว่า นายฟาบิโอถูกยิงโดยทหาร 
 
นายแบรดลีย์ คอกซ์ ได้ให้การว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 55 เขาตั้งใจเข้าไปถ่ายวีดีโอเหตุการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดงเช่นเดียวกับวันอื่นๆ ก่อนหน้านี้ โดยราว 9 นาฬิกา ตนได้เดินทางไปยังบริเวณสี่แยกราชประสงค์เพื่อสังเกตสถานการณ์การชุมนุม ราวอีกหนึ่งชั่วโมงถัดมา ก็ได้ยินว่ามีสถานการณ์ความวุ่นวายเกิดขึ้นที่บริเวณศาลาแดง จึงได้เรียกรถมอเตอร์ไซค์ไปยังบริเวณดังกล่าว แต่ได้ลงเดินก่อนบริเวณถนนราชดำริตัดกับแยกสารสิน ในช่วงที่อยู่บริเวณนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงกระสุนปืนดังถี่ๆ ติดกันหลายนัดยาวต่อเนื่อง มีทิศทางมาจากสี่แยกศาลาแดง ซึ่งเป็นบริเวณที่มีทหารประจำอยู่ 
 
ต่อมาได้ยินเสียงตะโกนร้องโหวกเหวกในทิศทางที่มาจากแยกราชประสงค์ จึงได้วิ่งกลับไปดู ในขณะที่วิ่งกลับไป ก็รู้สึกว่าตนเองถูกยิงบริเวณเข่าขวา จึงได้หันไปดูว่า กระสุนมาจากทิศทางใด ตอนนั้เองจึงได้เห็นว่า นายฟาบิโอ โปเลนกี ถูกยิงล้มลง เมื่อเวลา 10.58 น. โดยไม่ไกลจากจุดที่เขาอยู่มากนัก ซึ่งตนได้ถ่ายวีดีโอคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ด้วย และได้มอบให้ตำรวจเป็นหลักฐานแล้ว 
 
คอกซ์กล่าวว่า เขาค่อนข้างแปลกใจที่ตนและฟาบิโอถูกยิงในจุดดังกล่าวบนถนนราชดำริ เนื่องจากเป็นจุดที่ห่างออกมาจากเต้นท์ของคนเสื้อแดงและแนวกั้นพอสมควรแล้ว และคิดว่าน่าจะปลอดภัยจากการยิงของทหารเข้าใส่บริเวณเต็นท์และแนวกั้น 
 
ต่อคำถามของอัยการที่ว่า คิดว่าใครเป็นคนยิงกระสุนปืนที่คอกซ์ได้รับบาดเจ็บ เขากล่าวว่า เขาเองอาจพิสูจน์ไม่ได้ แต่ก็มั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าเป็นทหาร เนื่องจากกระสุนมีทิศทางจากสี่แยกศาลาแดงเช่นเดียวกับกระสุนปืนนัดอื่นๆ 
 
ต่อคำถามของทนายที่ว่า คอกซ์เห็นชายชุดดำตามที่ปรากฎเป็นข่าวในช่วงนั้นหรือไม่ เขาตอบว่า ก็มีคนใส่เสื้อดำอยู่ทั่วไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาเป็น "ชายชุดดำ" และเสริมว่าไม่เห็นพลเรือนคนใดที่ติดอาวุธในระหว่างที่มีการชุมนุมด้วย 
 
ในขณะที่พยานคนไทยอีกสองคนที่มาให้ปากคำวันนี้ ได้แก่ นายขวัญชัย โสวะภาส มีอาชีพเป็นคนขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และนายอุดร วรรณสิงห์ คนขับรถแท็กซี่ ซึ่งทั้งสองเป็นผู้ชุมนุมเสื้อแดงด้วย กล่าวว่า ตนเห็นเหตุการณ์การยิงนายฟาบิโอโดยตรงในระยะห่างไปราว 15-20 เมตร โดยนายขวัญชัย เป็นผู้ขับจักรยานยนต์นำนายฟาบิโอไปส่งบริเวณถนนราชดำริตัดกับแยกสารสิน ซึ่งนายฟาบิโอได้จ้างจากบริเวณสี่แยกราชประสงค์ หลังจากนั้น ตนได้หลบอยู่บริเวณอาคารใกล้เคียง หลักจากเห็นนายฟาบิโอถูกยิงล้มลง ก็ได้วิ่งไปหลบบริเวณอาคารบางกอกเคเบิ้ล
 
นายขวัญชัยกล่าวว่า ตนได้เดินทางมาจากร้อยเอ็ดเพื่อเป็นพยานในคดีนี้ ทั้งๆ ที่มีคนเตือนว่าไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวอีก แต่ตนต้องการเห็นความยุติธรรมให้กับผู้ตาย จึงต้องการมาเป็นพยานให้คดีของนายฟาบิโอ
 
"มีคนบอกให้ผมลืมเหตุการณ์ไปซะ แต่ผมจะลืมได้อย่างไร เราต้องมาหาความยุติธรรมให้คนตาย" ขวัญชัยกล่าว "มีคนบอกว่าคนเสื้อแดงนี่มีคนจ้างมา ผมถามเลยว่าเอาอะไรมาพูด ผมพูดได้เต็มปากเลยว่าไม่เคยได้อะไร" 
 
ในขณะที่นายอุดร วรรณสิงห์ พยานผู้เห็นเหตุการณ์อีกคนหนึ่ง กล่าวว่า ราว 5.00 น. เมื่อเช้าวันที่ 19 พ.ย. 53 ตนได้นอนพักอยู่บริเวณเต็นท์ที่ตั้งมุมแยกสารสินตัดกับถนนราชดำริ ต่อมาได้ยินเสียงทหารพร้อมรถหุ้มเกราะกระชับเข้ามาในพื้นที่ จึงถอยหลบอยู่ในบริเวณที่ปลอดภัย ในขณะที่เกิดเหตุ อุดรกล่าวว่าตนอยู่ห่างจากฟาบิโอไปสิบกว่าเมตร เห็นนายฟาบิโอกำลังถ่ายรูปตนเองอยู่ ในขณะที่ถ่ายรูปหันหน้าไปทางศาลาแดง เมื่อฟาบิโอกำลังหันหลังกลับไปทางราชประสงค์ ก็ถูกยิงล้มลงแน่นิ่งไป 
 
นายอุดรให้การว่า เขาได้พยายามวิ่งเข้าไปช่วยฟาบิโอ ยกขาของฟาบิโอขึ้น แต่ระหว่างที่กำลังยกอยู่ก็มีวัตถุแข็งคาดว่าเป็นกระสุนมากระทบที่หมวกกันน็อค จึงต้องปล่อยร่างของผู้ตายลงและวิ่งหลบออกไป เขากล่าวว่า เขาค่อนข้างมั่นใจว่าทหารเป็นผู้ยิงกระสุนใส่ฟาบิโอ เพราะขณะนั้นเป็นช่วงที่ทหารกระชับพื้นที่เข้ามาอย่างหนักจากบริเวณแยกศาลาแดงและแยกสารสิน และได้ยินทิศทางของเสียงกระสุนมาจากทางทหารชัดเจน 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท