Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

แรงกดดันต่อรัฐบาลลาวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น หลังการหายตัวไปครบหนึ่งสัปดาห์เต็มของท่านสมบัด สมพอน ผู้นำภาคประชาชน เจ้าของรางวัลแมกไซไซปี 2548 นักพัฒนาอาวุโสชาวลาวผู้เป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มภาคประชาสังคมไทย และได้รับความเคารพอย่างกว้างขวางทั้งในลาว และจากนานาประเทศ

การเรียกร้องเพื่อการปล่อยตัวสมบัดกลับมาอย่างปลอดภัยหลั่งไหลมาจากทุกสารทิศ ทั้งในภูมิภาคอาเซียนและทั่วโลก โดยเฉพาะหลังจากที่ครอบครัวได้พบภาพในกล้องวงจรปิดที่ทำให้เห็นว่ามีกระบวนการนำตัวสมบัดไปโดยกลุ่มบุคคล หลังถูกเรียกให้หยุดโดยตำรวจจราจรในเวลาประมาณ 18.00 น.ของวันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม ที่ผ่านมา กลางกรุงเวียงจันทน์อย่างอุกอาจ อันนำมาสู่การออกคำร้องโดยนางงัก ชู เมง ภรรยาชาวสิงค์โปร์ของสมบัดต่อรัฐบาลลาว เพื่อให้สืบสวนและยืนยันความปลอดภัยของสมบัดโดยเร็ว อยางไรก็ตาม แถลงการณ์โดยกระทรวงต่างประเทศหลังจากนั้นกลับระบุเพียงว่า ยังไม่สามารถประเมินข้อเท็จจริงได้จากภาพที่เห็นในกล้องวงจรปิด แต่ในขณะเดียวกันกลับระบุว่า “สมบัด สมพอนอาจถูกลักพาตัวไปด้วยสาเหตุด้านธุรกิจหรือประเด็นส่วนตัว” แม้เหตุการณ์จากกล้องจะส่อว่าตำรวจจราจรอยู่ในเหตุการณ์ด้วยโดยตลอดก็ตาม

ต่อเนื่องจากจดหมายแสดงความห่วงใยที่ถูกส่งไปยังรัฐบาล สปป. ลาว โดยภาคประชาสังคมทั่วโลกตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งจากองค์กรภาคประชาชนไทย 61 องค์กรในวันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม ตามด้วยอีก 132 รายนามของโครงการปัญญาชนสาธารณะแห่งเอเชีย (API) และอีก 55 องค์กรและนักกิจกรรมทางสังคมนานาประเทศ ตามด้วยกลุ่มประชาคมของรัฐบาลต่าง ๆ ทั่วโลก โดยกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาแสดงความห่วงใยในประเด็นดังกล่าวตั้งแต่ในวันพุธที่ผ่านมา และถัดมาในวันศุกร์ที่ 21 นางแคเธอรีน แอชตัน ผู้แทนสหภาพยุโรป ออกมากล่าวแสดงความเป็นห่วงอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ เช่นเดียวกับตัวแทน ำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ (OHCHR) ที่ระบุว่าเป็นการ “ถูกบังคับนำตัวไป” ที่น่ากังวลอย่างยิ่ง ล่าสุด สมาชิกสภาของทั้งในประเทศอาเซียนและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกต่างดำเนินการส่งจดหมายโดยตรงถึงนายกรัฐมนตรีของลาวในเรื่องนี้ เพื่อดำเนินการสืบสวนที่เร่งด่วนเช่นกัน

ท่ามกลางกระแสความกดดันของประชาคมนานาชาติมีแนวโน้มจะเกิดอย่างต่อเนื่องและขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ จากบทบาทที่สำคัญของท่านสมบัด โดยเฉพาะในฐานะประธานฝ่ายภาคประชาสังคมในการจัดงานเวทีภาคประชาชนเอเชีย-ยุโรปที่ประเทศลาวในช่วงวันที่ 16-18 ตุลาคมที่ผ่านมา อันเป็นกิจกรรมการรวมตัวอย่างสำคัญของกลุ่มภาคประชาสังคมทั่วโลกอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในประเทศลาว กลุ่มภาคประชาสังคมไทยมีการรวมตัวกันในนาม “คณะทำงานไทยกรณีสมบัด สมพอน” ตั้งแต่ในวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากการจัดการเสวนา ณ สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT) ในวันดังกล่าว ทั้งนี้โดยมีผู้อาวุโสทั้งในวงการกฏหมาย การเมือง สันติภาพ และสื่อ ร่วมทำการวิเคราะห์ในประเด็นการหายตัวไปของท่านสมบัด สมพอน ร่วมกัน

ในงานดังกล่าว นายสมชาย หอมละออ นักกฏหมายอาวุโส และประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรมกล่าวว่า ในกรอบกฏหมายสากลนั้น “การถูกบังคับให้หายตัวไปเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรงยิ่งกว่าการสังหาร”  พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทางการลาวกระทำการตามที่มีอยู่ในข้อผูกพันภายใต้กรอบสิทธิมนุษยชน และทำทุกอย่างภายใต้อำนาจที่มีในการปกป้องสิทธิที่จะมีชิวีตอยู่ และเสรีภาพส่วนบุคคลของสมบัด

สำหรับ นายสุภลักษณ์ กาญจนขุนดี ผู้สื่อข่าวอาวุโสของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น วิเคราะห์ถึงแนวคิดทางการเมืองของกลุ่มคนชั้นสูงบางกลุ่มในประเทศลาว โดยระบุว่าการจับกุมโดยพลการและการสังหารด้วยสาเหตุในทางการเมือง เป็นเรื่องที่เป็นที่รู้กันดี แต่เมื่อลาวรวมเข้ากับสังคมโลกแล้ว กฏหมายเป็นสิ่งที่จำเป็นมากขึ้น สุภลักษณ์ระบุว่า “หากอ้ายสมบัติทำความผิด ก็ควรได้รับการดำเนินคดีตามกฏหมายในศาล”

นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ อดีตประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา เน้นไปยังความเกี่ยวข้องของการละเมิดสิทธิมนุษยชนในลาวและการหลั่งไหลเข้าไปของการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติ โดยระบุว่าลาวนั้น “เปิดตัวเองให้ถูกชำเราโดยทุนจากไทย จีน และทุนข้ามชาติอื่น ๆ และคนลาวก็ไม่ได้รับการคุ้มครองจากการรุกรานที่ว่านี้ (ดังนั้น) หากประเทศลาวไม่ยอมพัฒนาและให้เสรีภาพกับผู้คนในประเทศที่กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนี้ ก็นับเป็นเรื่องที่ให้อภัยกันไม่ได้”

ผู้อภิปรายท่านสุดท้าย อาจารย์ สุลักษณ์ ศิวรักษ์ นักคิดและนักเขียนอาวุโสของไทย กล่าวถึงสมบัดในฐานะ “บุคคลที่วิเศษ และต้องการจะทำเพื่อประเทศของตัว และได้ทำมาแล้วตั้งแต่เมื่อเป็นนักศึกษา เป็นคนที่กล้าหาญ รื่นเริง และสุภาพอ่อนน้อม” อ.สุลักษณ์ยังพูดถึงคุณภาพความเป็น “ผู้เจริญ” ของลาว และกล่าวเตือนการประณามลาวอย่างรวม ๆ “ยังมีบางพวกที่ชอบความรุนแรง และก็เป็นกลุ่มที่ยังควบคุมกันไม่ได้” แต่ก็เสนอว่ามีความสำคัญที่จะต้องรักษาความสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลลาว และต้องเสนอให้เห็นว่าลาวจะได้รับความเชื่อถืออย่างไรหากสมบัด สมพอนจะสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัย

0 0 0

 

คณะทำงานไทยกรณีสมบัด สมพอน

ขอเชิญเข้าร่วม

"ภาวนาเพื่อสมบัด สมพอน" 
และการเดินทางเข้ายื่นหนังสือกับสถานทูต สปป. ลาว
วันอังคารที่ 25 ธันวาคม 2555
 
8.00-9.00 น. ณ อุโบสถ วัดทองนพคุณ เขตคลองสาน 
- ร่วมฟังการกล่าวในหัวข้อ “คุณูปการของสมบัด สมพอน ต่อการศึกษาทางเลือก และงานพัฒนา” โดย อาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์
- การอ่านสาสน์จาก เยาวชนลุ่มแม่น้ำโขง 
- การภาวนาเพื่อ สมบัด สมพอน นำโดย พระไพศาล วิสาโล 

10.30 น. คณะจะเดินทางเข้ายื่นหนังสือแสดงความห่วงใย ณ สถานทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประจำประเทศไทย(ซอยสหการประมูล ประชาอุทิศ)

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net