สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศของไทย แถลงม.112 -พ.ร.บ.คอมพ์เป็นอุปสรรคต่อเสรีภาพการแสดงออก

แจงถูกกดดันให้ประณามกรณี 'สมยศ' ` แถลงม. 112 และพรบ. คอมพ์ฯ เป็นอุปสรรคต่อการรายงานข่าวของสื่อไทยและสื่อเทศโดยเฉพาะความคิดเห็นที่ต่าง ขณะที่ 'แอนดรูว์ เอ็ม. มาร์แชล' จี้ให้นักข่าวต่างชาติที่รายงานเรื่องไทยออก "คำประกาศเตือน" แสดงให้เห็นข้อจำกัดที่ต้องเซ็นเซอร์ตนเอง 

7 ก.พ. 56 - สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (Foreign Correspondents' Club of Thailand -FCCT) ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวเนื่องกับกรณีคำตัดสินของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ผ่านทางเฟซบุ๊กและเว็บไซต์เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยระบุว่า "คณะกรรมการได้ถูกกดดันให้ประณามคำตัดสินกรณีสมยศ และในขณะที่คณะกรรมการมิได้เห็นเป็นเอกฉันท์ในการออกความเห็นในคดีทางกฎหมาย แต่เราก็เห็นว่า กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ เป็นอุปสรรคต่อเสรีภาพในการแสดงออก" เนื่องจากทำให้สื่อทั้งในและต่างประเทศไม่สามารถตีพิมพ์เนื้อหาที่เห็นต่างทางการเมืองได้อย่างเต็มที่ 

แถลงการณ์ดังกล่าวได้เผยแพร่หลังจากแอนดรูว์ แม็กเกรเกอร์ มาร์แชล อดีตผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ และผู้เขียนหนังสือเรื่อง #Thaistory ได้เขียนบล็อกใน www.zenjournalist.org วิพากษ์วิจารณ์สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทยอย่างต่อเนื่องถึงท่าทีที่เหมาะสมต่อกรณีสมยศ โดยกล่าวถึงนิรมล โฆษ ประธานสมาคมฯ และผู้สื่อข่าวนสพ. เสตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ ที่ก่อนหน้าที่ได้ชี้แจงสาเหตุที่ไม่ออกแถลงการณ์กรณีสมยศว่า สมาคมฯ อยู่ในสถานะ "Club" (ชมรม) มากกว่า "Association" (สมาคม) จึงไม่เหมาะสมที่จะออกแถลงการณ์ในเรื่องที่มีความอ่อนไหว 
 
โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย ได้จัดงานเสวนาในหัวข้อ "หมิ่นพระบรมเดชานุภาพในประเทศไทย กรณีของสมยศ และนัยสำคัญ" โดยมีสุกัญญา พฤกษาเกษมสุข ภรรยาของนายสมยศ จีรนุช เปรมชัยพร ผู้อำนวยการเว็บไซต์ประชาไท ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ เครือข่ายพิทักษ์สถาบัน และเดวิด เสตร็กฟัสส์ และก่อนที่วงเสวนาดังกล่าวจะเริ่ม นิรมล โฆษ ในฐานะประธานสมาคมฯ ได้กล่าวชี้แจงถึงสาเหตุที่สมาคมฯ ไม่ได้ออกแถลงการณ์กรณีนามสมยศ โดยระบุว่าต้องการให้ FCCT เป็นพื้นที่ตรงกลางให้เกิดการถกเถียงและพูดคุยในประเด็นเหล่านี้อย่างอิสระ 
 
"พื้นที่ตรงกลาง" vs "หลักการเสรีภาพสื่อ"
  
แอนดรูว์ แม็กเกรเกอร์ มาร์แชล ย้ำจุดประสงค์การก่อตั้งของสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทยจากในเว็บไซต์ของสมาคมว่า เพื่อส่งเสริมและพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของนักข่าวในประเทศไทยและประเทศต่างๆ ในเอเชีย และยังเป็นสมาคมที่มีบทบาทรณรงค์เรื่องเสรีภาพสื่อ ในฐานะเสาหลักของภาคประชาสังคมในประเทศที่ประชาธิปไตยกำลังเติบโต 
 
ในฐานะที่สมาคมฯ เคยออกแถลงการณ์เรื่องการเสียชีวิตของนักข่าวต่างชาติในเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองเมื่อปี 2553 คือ ฮิโร มูราโมโต ช่างภาพรอยเตอร์ และฟาบิโอ โปเลญกี ช่างภาพอิสระ มาร์แชลชี้ว่า ในคดีของสมยศ ก็ควรจะต้องได้รับการปฏิบัติแบบเดียวกัน นอกเสียจากว่าทางสมาคมฯ จะสามารถพูดอะไรได้เมื่อมีนักข่าวเสียชีวิต หรือไม่ก็สนใจแต่เฉพาะชาวต่างชาติด้วยกันเท่านั้น 
 
เขาชี้ว่า การไม่ออกแถลงการณ์ในกรณีสมยศ และการไม่ท้าทายกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เพื่อรักษา "พื้นที่ตรงกลาง" นั้น ไม่มีประโยชน์อะไรกับการรายงานข่าวเกี่ยวกับ "ความจริง" ในการเมืองไทย ซึ่งอิทธิพลของสถาบันกษัตริย์มีผลต่อประวัติศาสตร์และการเมืองไทยอยู่อย่างแน่นแฟ้น 
 
"ไม่มีประเทศอื่นไหนในโลกนี้อีกแล้ว ที่สื่อต่างประเทศพร้อมใจกันหลีกเลี่ยงข้อเท็จจริงบางอย่างในการรายงานข่าว ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาเองก็แน่ใจว่าเป็นจริง แม้แต่พี่เบิ้มอย่างจีนหรือเกาหลีเหนือที่ว่าโหดในการปิดกั้นการรายงานข่าวและเสรีภาพในข้อมูลข่าวสาร ก็ยังเทียบไม่ได้กับความสามารถของชนชั้นนำไทยในการจูงใจนักข่าวต่างชาติให้เซ็นเซอร์ตัวเอง" เขาระบุ 
 
เสนอออก "คำประกาศเตือน" หากรายงานข่าวที่ต้องเซ็นเซอร์ตนเอง 
 
ในบล็อกดังกล่าว ได้เสนอข้อเสนอว่า FCCT ควรทำงานร่วมกับองค์กรสื่อใหญ่ๆ เพื่อร่างเป็น "คำประกาศเตือน" ประกอบการรายข่าวเกี่ยวกับเมืองไทย เพื่อให้การรายงานนั้นมีจริยธรรม และลดความเสี่ยงในการเผชิญม. 112 โดยอาจจะออกเป็นคำเตือนในลักษณะว่า "การรายงานข่าวนี้ รวบรวมภายใต้ข้อจำกัดของกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของไทย ซึ่งทำให้การพูดคุยเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ที่เปิดเผยเป็นอาชญากรรม" 
 
แนวปฏิบัติดังกล่าว ถือว่าเป็นมาตรฐานสำหรับองค์กรสื่อบางแห่งที่รายงานจากซีเรียหรือเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะในยุคข้อมูลข่าวสารออนไลน์ ที่ผู้บริโภคต้องการความโปร่งใสในการรายงานข่าวอย่างเต็มที่ และเป็นการประกาศถึงผลกระทบจากการเซ็นเซอร์ของรัฐ มาร์แชลระบุ 
 
หมายเหตุ: ประชาไทแก้ไขเนื้อหาในส่วนของพาดหัวข่าว และย่อหน้่าแรก ตามข้อท้วงติงของผู้อ่าน เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 ม.ค. 56
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท