ล้มโต๊ะเจรจา! ชาวบ่อแก้วประกาศชุมนุมยืดเยื้อ เหตุ 'อ.อ.ป.' ยันห้ามชุมชนใช้ไฟฟ้า

เจรจาขอยุติการรื้อถอนไฟฟ้าในชุมชนบ่อแก้วล่ม ‘อ.อ.ป.’ ยืนยันห้ามชุมชนใช้ไฟฟ้าในพื้นที่สวนป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ด้านชาวชุมชนยกกรณีศูนย์ธรรมรัศมีห่างชุมชนแค่ 200 เมตร แต่น้ำ-ไฟพร้อม ก่อนลุกออกห้องประชุม ประกาศชุมนุมยืดเยื้อ

วันนี้ (11 ก.พ.56) บริเวณหน้าที่ทำการอำเภอคอนสาร ชาวบ้านชุมชนบ่อแก้ว ต.ทุ่งพระ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ กว่า 100 คน เดินทางมาชุมนุมตั้งแต่ช่วงเช้าของวัน เพื่อรอฟังผลการประชุมหามาตรการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชุมชน จากกรณีที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) สั่งให้ชาวบ้านทำการรื้อถอนระบบไฟฟ้าในชุมชน หลังจากที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคคอนสารได้เข้ามาดำเนินการติดตั้งเพียงไม่กี่วัน
 
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 7 ก.พ.56 ชาวบ้านชุมชนบ่อแก้วได้ชุมนุมเรียกร้องให้นายอำเภอคอนสารเป็นตัวกลางในการเจรจาระหว่างชาวบ้านกับหน่วยงานที่เกี่ยวของ อาทิ หัวหน้าสวนป่าคอนสาร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคอนสาร ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอคอนสาร กำนันตำบลทุ่งพระ และผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ตำบลทุ่งพระ เพื่อขอให้ยุติการรื้อถอนระบบไฟฟ้าจากชุมชน
 
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมที่มีนายอำเภอคอนสารเป็นประธานเริ่มต้นเมื่อ เวลา 14.00 น. แต่การเจรจาระหว่างชาวบ้านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครั้งนี้ล้มเหลว เนื่องจาก หัวหน้าสวนป่าคอนสาร ในฐานะตัวแทน อ.อ.ป.เจ้าของพื้นที่ยืนยันให้ชาวบ้านปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ให้มีสิ่งก่อสร้างและสาธารณูปโภคในพื้นที่สวนป่าคอนสาร ขณะที่กลุ่มชาวบ้านพยายามโดยยืนยันถึงสิทธิในที่ดินทำกิน ก่อนที่ อ.อ.ป.จะเข้ามาใช้พื้นที่เพื่อปลูกป่ายูคาฯ นับแต่ปี 2521 แต่ก็ไม่เป็นผล
 
หลังการเจรจาผ่านไปได้ราว 2 ชั่วโมง กลุ่มชาวบ้านที่เข้าร่วมเจรจาได้เดินออกจากที่ประชุมโดยที่การประชุมยังไม่ได้ข้อยุติ และประกาศจะชุมนุมยืดเยื้อต่อไป
 
 
นายสมาน บานตา ชาวบ้านชุมชนบ่อแก้ว กล่าวภายหลังจากการเข้าร่วมในการเจรจาว่า อ.อ.ป.ไม่ยอมให้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่บ้านบ่อแก้วโดยอ้างเงื่อนไขของข้อกฎหมาย แม้ชาวบ้านพยายามอธิบายในข้อเท็จจริงก็ไม่ยอม ชาวบ้านจึงยกกรณีของศูนย์ธรรมรัศมีเนื้อที่กว่า 200 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่สวนป่าคอนสารเช่นกันและอยู่ห่างจากที่ตั้งชุมชนเพียง 200 เมตร ที่มีการก่อสร้างถาวรวัตถุ มีการก่อสร้างอาคาร และมีไฟฟ้าใช้อย่างสะดวกสบาย แต่ อ.อ.ป.
 
“คนจน เจ้าของที่ดินดั่งเดิม ต้องการไฟฟ้าเพื่อใช่ในชีวิตประจำวัน เพื่อการเกษตรกลับไม่สมควรที่จะมีไฟฟ้าใช้” นายสมาน กล่าวถึงความต้องการของชาวบ้านชุมชนบ่อแก้ว 60 ครอบครัว ซึ่งถูก อ.อ.ป.ปฏิเสธ
 
 
นายสมาน กล่าวด้วยว่า บทสรุปของการประชุมคือ อ.อ.ป.ไม่อนุญาตให้ชาวบ้านใช้ไฟฟ้า เนื่องจากการติดตั้งไฟฟ้าไม่มีการขออนุญาตจาก อ.อ.ป.ก่อน ขณะที่นายอำเภอคอนสารก็ยืนยันให้ อ.อ.ป.เป็นผู้ตัดสินใจ ชาวบ้านจึงเห็นว่าไม่มีประโยชน์ที่จะร่วมประชุมกันต่อไป
 
“ชาวบ้านยืนยันร่วมกันว่าเราจะชุมนุมกันต่อไป และจะค้างคืนกันอยู่ที่นี่จนกว่าจะมีมติให้ชาวบ้านได้ใช้ไฟ” นายสมาน ระบุ
 
 
ส่วนนางสาววิชชุนัย ศิลาศรี ชาวบ้านชุมชนบ่อแก้ว กล่าวว่า ในกรณีของศูนย์ธรรมรัศมีนั้น อ.อ.ป.ชี้แจงว่าได้มีการทำข้อตกลงร่วมกับชาวบ้านในการจัดทำศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิต โดยมีการทำประชาคมแล้ว และที่ผ่านมาได้ให้ความร่วมมือกับ อ.อ.ป.เป็นอย่างดี
 
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องการก่อตั้งศูนย์ธรรมรัศมีในพื้นที่กว่า 200 ไร่ และการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ซึ่งอาจไม่ถูกต้องตามกฎหมายนั้น อ.อ.ป.ระบุว่าจะตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง โดยไม่เกี่ยวข้องกับกรณีของชุมชนบ่อแก้ว
 
 
ทั้งนี้ ชุมชนบ่อแก้ว ก่อตั้งเมื่อปี 2552 ในพื้นที่สวนป่าคอนสาร โดยกลุ่มชาวบ้านซึ่งอ้างว่าได้รับผลกระทบจากการประกาศพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติภูซำผักหนาม ตั้งแต่ปี 2516 ซึ่งต่อมาในปี 2521 อ.อ.ป.ได้สัมปทานทำไม้ และดำเนินปลูกสร้างสวนป่าคอนสารเพื่อปลูกยูคาลิปตัสบนพื้นที่กว่า 4,401 ไร่
 
เมื่อมีการตั้งชุมชน  อ.อ.ป.ได้ใช้กระบวนการทางกฎหมาย โดยฟ้องขับไล่ชาวบ้านจำนวน 31 คนให้ออกจากพื้นที่ เมื่อวันที่ 27 ส.ค.2552 จนนำมาสู่การดำเนินคดีกับชาวบ้านในฐานะผู้บุกรุกป่า ล่าสุดคดีดังกล่าวอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาลฎีกา
 
ส่วนกระบวนการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินทับซ้อนกับเขตป่า ที่ผ่านมาชาวบ้านได้ร่วมกับเครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสานเคลื่อนไหวเรียกร้องกระบวนการแก้ไขปัญหาต่อรัฐบาล โดยการจัดการที่ดินในรูปแบบโฉนดชุมชน
 
 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท