Skip to main content
sharethis

พ.ต.อ.อนุชา กิติวิภาต ผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ 2 กองบังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยข้อมูลตั้งแต่ 2547 ยังไม่มีการสืบสวนสอบสวนที่พบชาวโรฮิงญามีส่วนเกี่ยวข้อง ระบุปัญหาห้องกักแออัดยังไม่มีความชัดเจนว่าอีก 6 เดือนข้างหน้าจะแก้ปัญหาอย่างไร

พ.ต.อ.อนุชา กิติวิภาต ผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ 2 กองบังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เปิดเผยข้อมูลในเวทีเสวนา “โรฮิงญา: บททดสอบและก้าวย่างประชาคมอาเซียน” ระบุ ว่าตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา ยังไม่มีการสืบสวนสอบสวนที่พบกรณีที่เกี่ยวข้องกับโรฮิงญา ดังที่มีข่าวออกไปก่อนหน้านี้

“ตำรวจออกหมายจับไปทั้งสิ้น 9,007 หมาย เราจับกุมแล้ว 5,420 หมาย ตั้งแต่ปี 2547 ทุกครั้งที่ตำรวจจับได้ก็เราก็จะดำเนินการสืบสวนสอบสวน ขอยืนยันว่าตลอด 5,420 หมาย ไม่เคยมีกรณีที่เกี่ยวข้องกับโรฮิงญาแม้แต่รายเดียว”

พ.ต.อ.อนุชา กล่าว พร้อมเรียกร้องให้สื่อใช้วิจารณญาณในการนำเสนอด้วย และกล่าวถึงกรณีที่มีการระบุว่าปัญหาของโรฮิงญานั้นเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ซึ่งเขายืนยันว่ามีจริง และมีข้าราชการเข้ามาเกี่ยวข้อง ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผล แต่จุดเริ่มต้นของปัญหานั้นเป็นเรื่องของการหลบหนีเข้าเมือง ส่วนกระบวนการค้ามนุษย์หรือนายหน้าค้าแรงงานนั้นเป็นปัญหาที่ตามมาทีหลัง

พ.ต.อ.อนุชายังกล่าวถึงการคัดแยกและดูแลชาวโรฮิงญาระลอกล่าสุด ว่าในส่วนการเก็บข้อมูล ได้ล่ามจากทางผู้นำทางศาสนาอิสลามมาช่วยเหลือ แต่ปัญหาเบื้องต้นคือชาวโรฮิงญามักจะเปลี่ยนชื่อไปเรื่อยๆ เวลาตรวจนับทำให้จำนวนที่ตรวจนับคลาดเคลื่อน ซึ่งตอนนี้แก้ปัญหาโดยการใส่สายข้อมือให้เพื่อจะเช็คจำนวนได้ และดูแลเรื่องกินอยู่ สุขอนามัย การเข้าห้องน้ำ ที่ละหมาด แต่ยังไม่มีการดำเนินการตรวจดีเอ็นเอแต่อย่างใด

สำหรับกรอบการทำงานขณะนี้จากที่ประชุมใหญ่ของสภาความมั่นคงแห่งชาติเมื่อวันที่ 14 ม.ค.มีมติออกมาว่าให้ตำรวจดูแลไปก่อน และให้กระทรวงการต่างประเทศไปเจรจรากับประเทศต้นทางคือพม่า ว่าจะรับคนเหล่านี้กลับหรือไม่ รวมถึงประสานกับองค์กรต่างๆ ว่าจะเข้ามาช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง

โดยการประชุมล่าสุดวันที่ 25 ม.ค. โดยมีรมต. ต่างประเทศเป็นประธานการประชุมยืนยันว่าจะดูแลชาวโรฮิงญาต่อเนื่องหกเดือนและต้องการให้สตม. หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปทำสถานที่เพื่อให้อยู่รวมกัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะการจัดการกลุ่มคนขนาดใหญ่ก็จะมีปัญหาใหม่เพิ่มเติมขึ้นมา

สำหรับสถานการณ์ขณะนี้ยังมีจำนวนชาวโรฮิงญาถูกจับกุมอย่างต่อเรื่อง จากเดือนม.ค. 800 กว่าคน ปัจจุบันนี้มี 1,772 (ชาย 1429, หญิง 129 เด็กชาย 132 เด็กหญิง 82) โดยต้องกระจายไปยังห้องกักทั่วประเทศ เพื่อแก้ปัญหาความแออัด ทั้งนี้ พ.ต.อ.อนุชากล่าวว่าขณะนี้มีห้องกักอยู่ทั่วประเทศ 40 ห้องกัก และรองรับผู้ต้องกักได้เพียงราว 3,000 คนเท่านั้น ซึ่งนอกเหนือจากชาวโรฮิงญาแล้ว ก็มีผู้ต้องกักชาติอื่นอยู่อีกเป็นจำนวนหลักพันคนเช่นกัน

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net