Skip to main content
sharethis

เบิกพยานปากสุดท้ายคดี “ฟาบิโอ” ช่างภาพชาวอิตาลี เหยื่อกระสุน 19 พ.ค.53 มิเชล มาส นักข่าวชาวดัทช์ ผู้ถูกยิงบาดเจ็บในเหตุการณ์ ยันกระสุน M16 มาจากฝั่งทหาร น้องสาวฟาบิโอขอบคุณผู้มีส่วนผลักดันคดี ศาลนัดฟังคำสั่ง 29 พ.ค.นี้

15 มี.ค.56 เวลา 9.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 602 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลนัดไต่สวนคำร้องชันสูตรพลิกศพ คดี ช.10/2555 ที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 ยื่นคำร้องขอให้ชันสูตรการเสียชีวิตของนายฟาบิโอ โปเลนกี ช่างภาพชาวอิตาลี เพื่อทำคำสั่งแสดงว่าผู้ตายเป็นใคร ตายที่ไหน เมื่อใด และถึงเหตุและพฤติการณ์ที่ตาย ตามประมวลกฎหมายอาญาวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 โดยนายฟาบิโอถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 พ.ค.2553 ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) บริเวณแยกศาลาแดงถึงราชประสงค์

โดยในวันนี้มีการสืบพยานปากสุดท้าย นายมิเชล มาส นักข่าวชาวดัทช์ ซึ่งถูกยิงบาดเจ็บในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 53 ที่เป็นเวลาและสถานที่ที่ถูกยิงใกล้เคียงกับที่นายฟาบิโอ ถูกยิงเสียชีวิต  หลังจากเบิกความแล้ว ศาลได้นัดฟังคำสั่งในวันที่ 29 พ.ค. 56 นี้ เวลา 9.00 น. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ เนื่องจากพยานหลักฐานเพียงพอที่จะทำคำสั่งแล้ว

มิเชล มาส

สำหรับนายมิเชล มาส ได้เบิกความโดยสรุปว่า พยานเป็นนักข่าวอยู่ที่ เอ็นโอเอสเรดิโอแอนด์เทเลวิส ดูแลพื้นที่ทำข่าวในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยด้วย โดยเริ่มเข้ามาทำข่าวในไทยปี 2548 และ ปี 2553 มาทำข่าวการประท้วงของกลุ่มเสื่อแดงในไทย ช่วงเดือน พ.ค. ทำงานบริเวณที่มีการชุมนุมมาหลายวันแล้ว โดยพักโรงแรมอมารี วอเตอร์เกท ที่อยู่บริเวณ ถนนเพชรบุรี ย่านประตูน้ำ โดยทำข่าวตั้งแต่บริเวณดังกล่าวถึงสวนลุมพินี

ในวันที่วันที 19 พ.ค.53 ช่วงเช้าพยานได้ดูข่าวโทรทัศน์ ได้ทราบว่าทหารได้บุกมาบริเวณสี่แยกศาลาแดง มีรถทหาร เคลื่อนที่เข้าทำลายแนวกั้นของผู้ชุมนุมเสื้อแดง จึงตัดสินใจเข้าไปในที่เกิดเหตุ และดูเหตุการณ์ อยู่ใกล้โรงแรม รีเจ้นท์ เฮ้าส์ ร่วมกับนักข่าวกลุ่มอื่น และบริเวณนั้นมีผู้ชุมนุมเสื้อแดงด้วย ซึ่งขณะนั้นมองไปที่แยกศาลาแดงเห็นกลุ่มทหาร แต่งกายในเครื่องแบบและพกอาวุธปืนติดตัวด้วย ห่างออกไปประมาณ 400-500 เมตร และขณะนั้นเกิดเหตุ พยานแต่งกายปกติ เสื้อเชิ๊ตสีชมพู แต่ไม่ได้มีสัญญาลักษณ์ที่บ่งบอกว่าเป็นนักข่าว โดยมีครื่องบันทึกเสียงและโทรศัพท์ที่สามารถถ่ายภาพได้ติดตัว

ขณะนั้นพยานได้ยินเสียงปืนและเห็นคนบาดเจ็บ ขณะได้ยินเสียงปืน พยานหลบข่างๆ บริเวณใกล้เคียง แต่ยังอยู่บริเวณเดิม โดยเสียปืนนั้นมีหลายนัด มาจากทางฝังทหารที่กำลังเคลื่อนเข้ามา โดยมีทิศทางที่มาบริเวณศาลาแดง มุ่งไปที่บริเวณสีแยกราชประสงค์ และได้ยินเสียงคนร้องในที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ช่วงที่มีเสียงปืนนั้น เวลาประมาณ 11.20 น. พยานได้หาที่หลบโดยหันหน้ามุ่งไปทางสีแยกราชประสงค์ และถูกยิงที่หลัง ด้านขวา หลังจากนั้นมีคนพาขึ้นรถจักรยานยนต์ไปโรงพยาบาลตำรวจ ขณะถูกยิงพยานกำลังรายงานสดไปที่สถานีวิทยุที่พยานจัดอยู่ด้วย

หลังจากนั้นมีการผ่านำหัวกระสุนออกภายหลังการรักษาที่ โรงพยาบาลสมิติเวชมีการนำภาพหวักระสุนส่งศาล และหัวกระสุนดังกล่าวได้มอบให้กับดีเอสไอ โดยผู้เชี่ยวชาญบอกกับพยานว่า เป็นหัวกระสุน M16 เหตุที่ไม่ได้ผ่ากระสุนออกในทันทีแพทย์บอกว่าเนื่องจากกระสุนอยู่ในตำแหน่งที่ไม่อันตราย การผ่าออกภายหลังจึงปลอดภัยกว่า

เบิกความต่อศาลด้วยว่าพยานได้เคยให้สัมภาษณ์กับ หนังสือพิมพ์ข่าวสด ระบุว่า “ไม่เคยเห็นชายชุดดำในที่ชุมนุมเลยและกระสุนมีทิศทางมาจากฝั่งทหาร” ซึ่งหมายถึงทหารที่อยู่บริเวณสี่แยกศาลาแดง

นายมิเชล มาส เบิกความว่าไม่ได้เห็นขณะที่นายฟาบิโอถูกยิง และไม่รู้จักนายฟาบิโอมาก่อน แต่ทราบภายหลังว่าบุคคลที่ถูกยิงบริเวณนั้นเวลานั้นประมาณ 11.00 - 11.20 น. ชื่อฟาบิโอ โดยก่อนหน้านี้พยานได้เคยให้ปากคำกับตำรวจและ ดีเอสไอ

อิซาเบลลา โปเลงกี

อิซาเบลลา โปเลงกี น้องสาวของฟาบิโอ ได้เดินทางจากอิตาลีมาร่วมฟังการสืบพยานด้วย กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังสืบพยานปากสุดท้ายในคดีเสร็จว่า พยานที่จะมาเบิกความนั้น หลายๆ ปาก เป็นพยานที่ดี แต่ศาลตัดออก(ศาลได้มีการตัดพยานโจทย์ไป 10 ปาก และพยานของทนายญาติผู้ตายไป 2 ปาก) จึงไม่ได้ขึ้นให้ปากคำต่อศาล อย่างไรก็ตามตนก็คาดหวังว่าศาลได้หลักฐานทั้งหมดครบแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ตนจะรอคำสั่งศาล หวังว่าคนไทยจะได้ทราบว่าที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นจริงๆ และได้มีการเผยแพร่ความจริงนั้นไปทั่วโลกด้วย โดยปัญหาเรื่องเสรีภาพในการแสดงออกนั้นเกิดขึ้นทั่วโลก แม้กระทั้งอิตาลีก็ประสบปัญหานี้ หวังว่าเหตุการณ์ที่พี่ชายตนต้องเสียชีวิตนั้นจะไม่เกิดขึ้นอีก ท้ายที่สุดอยากให้คดีของฟาบิโอเป็นคดีของพวกเราทุกคนมากกว่าเป็นเพียงคดีของตนเอง ขอบคุณและซาบซึ้งกับทุกคนที่มีส่วนร่วมช่วยเหลือตนและคดีนี้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net