โต้ กกพ.-‘ประธานกลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอก’ หนุนประชามติตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินใน กทม.

ลดเสี่ยงไฟฟ้าดับ หลังประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) อยากทำประชามติขอความเห็นสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ประธานกลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอกหนุนหากจะมีการสร้างในกรุงเทพฯ เพื่อความมั่นใจให้คนพื้นที่อื่น ทั้งตรงหลักการใช้มากที่ไหนสร้างที่นั่น

 
28 พ.ค.56 - นางสาวกรณ์อุมา พงษ์น้อย ประธานกลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์กล่าวตอบคำถามสื่อมวลชนกรณีนายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) หรือ เรกูเลเตอร์ อยากให้มีการทำประชามติ เพื่อขอความเห็นจากประชาชนทั้งประเทศในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน (คลิกอ่านข่าว) ว่า การก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินให้มีประสิทธิภาพสูง หลักการคือควรสร้างใกล้ศูนย์กลางพื้นที่ที่มีการใช้ไฟฟ้าสูง ในกรณีไฟฟ้าดับภาคใต้ กฟผ.บอกชัดเจนว่า สายส่งของ กฟผ.มีความอ่อนไหวสูงต่อกรณีฟ้าผ่า ถ้ายิ่งสร้างโรงไฟฟ้าไกลพื้นที่ใช้ไฟฟ้าสูงสายส่งยาวจะยิ่งเสี่ยงสูงต่อไฟฟ้าดับ
 
นางสาวกรณ์อุมา กล่าวด้วยว่า ไฟฟ้าสำรองของประเทศปัจจุบันมีกว่า 5,000 เมกกะวัตต์ ภาคใต้มีความต้องการด้านการใช้ไฟฟ้าที่ไม่สามารถพึ่งตนเองได้ แค่ 200 เมกะวัตต์ ส่วนต่างไม่มากไม่ได้เป็นภาระต่อระบบ ปีหน้าโรงไฟฟ้าจะนะผลิตไฟฟ้าเพิ่มได้อีก 800 เมกะวัตต์ จึงไม่ใช่เรื่องใหญ่ในการจัดการ
 
อย่างไรก็ตาม ภาครัฐก็ยังควรสนับสนุนให้มีโครงการการจัดการลดความต้องการใช้ไฟฟ้าในภาคใต้ลงได้อีก และสั่งการให้ กฟผ.เปิดสายส่งรับซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนให้เต็มศักยภาพ ทั้งนี้ ภาคใต้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของประเทศด้านการท่องเที่ยว เกษตร ประมง จึงมีความอ่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมสูงไม่ควรสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน
 
นางสาวกรณ์อุมา แสดงความเห็นต่อมาว่า หากจะทำประชามติ หัวข้อที่เหมาะสมที่สุดคือ คนทั้งประเทศเห็นด้วยหรือไม่ที่จะสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาดที่กรุงเทพมหานครก่อนอย่างน้อย 4,000 เมกกะวัตต์ หรือ 5 โรง และถ้าสามารถพิสูจน์ว่าการบริหารแบบไทยๆ  เอาอยู่ในการคุมมลพิษก็ให้สร้างเพิ่มได้อีกและพื้นที่อื่นๆ ก็น่าจะสบายใจขึ้น
 
ข้อเท็จจริงกรุงเทพฯ ใช้ไฟฟ้าสูงถึง 8,000 เมกะวัตต์ คิดเป็น 30%ของการใช้ไฟฟ้าโดยรวมของประเทศ และมีความต้องการใช้เพิ่มมากขึ้นทุกปี อนาคตจะมีโครงการรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีกมากมายแต่กรุงเทพฯ มีโรงไฟฟ้าเป็นของตนเองเพียง 2 โรงคือพระนครเหนือ และพระนครใต้ กำลังการผลิตรวม 2,850 เมกะวัตต์ โดยรับก๊าซจากพม่า ซึ่งหากพม่าปิดซ่อมท่อก๊าซในฤดูร้อนไม่มีเหลือไฟฟ้าเลย จะหวังพึ่งไฟฟ้าจากสายส่งของ กฟผ.เพียงอย่างเดียวถือว่าเสี่ยงสูงเกินไป อีกทั้งอาจเกิดเหตุการณ์ฟ้าผ่าซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติเราคงห้ามไม่ได้
 
“ข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ากรุงเทพคือแหล่งเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นหน้าตาของประเทศ เราจะปล่อยให้เสี่ยงไฟฟ้าดับอยู่อย่างนี้ได้อย่างไรกัน เหมาะสมที่จะพิจารณาให้สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาดก่อนเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของระบบไฟฟ้า กระจายความเสี่ยงของเชื้อเพลิง และเป็นธรรม คือผู้ใช้ไฟฟ้าเยอะต้องรับความเสี่ยงจากมลพิษเยอะตามไปด้วย”  นางสาวกรณ์อุมาระบุ
 
หากผลการทำประชามติ ออกมาว่าคนส่วนใหญ่ในประเทศเห็นด้วยให้สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาดในกรุงเทพ ก็ต้องยอมรับ แบบนี้คงไม่เป็นปัญหา รับได้
 
ประธานกลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอก ประธานกลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอก กล่าวด้วยว่า อยากเสนอให้เรกูเลเตอร์ ทำประชามติแถมไปด้วยว่าคนไทยทั้งประเทศเห็นด้วยหรือไม่ ที่จะให้ลดเงินเดือนของเรกูเลเตอร์จาก 350,000 บาท เหลือ 50,000 บาทพอ เพราะเห็นว่า  มีผลงานไม่คุ้มเงินเดือน  เช่น ไม่กล้าเปิดรับซื้อไฟฟ้าช่วงพีค ไม่กล้าเช็คบิลค่าเสียหายจากบริษัทปตท.เป็นหลักหลายพันล้านกรณีไม่ส่งก๊าซให้โรงไฟฟ้าของกฟผ.ตามสัญญาอย่างซ้ำๆซากๆ แต่ไปอนุมัติขึ้นค่าเอฟทีแทน หรือแม้แต่กรณีไฟฟ้าดับทั้งภาคใต้เรกูเลเตอร์ก็มีส่วนต้องรับผิดชอบตามที่ กฟผ.บอกคือไม่ปรับระบบให้ไฟฟ้าดับในวงแคบเป็นต้น
 
“เพื่อเห็นแก่ผลประโยชน์ของประเทศชาติและแสดงความรับผิดชอบจริง เรกูเลเตอร์น่าจะขอลดเงินเดือนตัวเองได้เลยโดยไม่ต้องรอทำประชามติ แบบนี้ก็รับได้” นางสาวกรณ์อุมากล่าว
 
ทั้งนี้ กลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอก ได้ร่วมกับชาวบ้านในชุมชนบ่อนอก-บ้านกรูด-ทับสะแก ต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินได้สำเร็จ โดยรัฐบาลได้สั่งย้ายโครงการสร้างโรงไฟฟ้าออกไปจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อปี 2547 แต่ต้องพบกับการสูญเสียนาย เจริญ วัดอักษร อดีตประธานกลุ่มรักษ์ท้องถิ่นบ่อนอก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท